รอผลแล็บ ชายไทยเฝ้าระวังติดไวรัสโคโรนาพันธุ์ใหม่

รอผลแล็บ ชายไทยเฝ้าระวังติดไวรัสโคโรนาพันธุ์ใหม่

สธ.เผยชายไทยเฝ้าระวังติดโคโรนาพันธุ์ใหม่จากอู่ฮั่น รอผลแล็บ ขณะที่ไทยมีผู้ป่วยเฝ้าระวังสะสม 24 ราย ในจำนวน15 ราย ที่รักษาอาการดีขึ้นกลับบ้านแล้ว เหลือ 9 ราย บางรายหายแล้ว แต่ยังอยู่รพ.รอเช็คให้ชัดป่วยจากเชื้อตัวไหน


เมื่อวันที่ 18 ม.ค. นพ.สุวรรณชัย วรรณนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการดูแลผู้ป่วยปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 จากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ว่า ตอนนี้ประเทศไทยมีการตรวจยืนยันว่าป่วยแล้ว 2 ราย ส่วนรายที่เฝ้าระวังอยู่ที่จังหวัดนครปฐมนั้น ขณะนี้อยู่ในกระบวนการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ (แลป) ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะ แต่ก็ย้ำว่าเราไม่ปิดบังข้อมูล ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยเฝ้าระวังสะสม 24 ราย ในจำนวนนี้มี 15 ราย ที่รักษาอาการดีขึ้นกลับบ้านแล้ว เหลือ 9 ราย ซึ่งบางรายหายแล้ว แต่ยังให้อยู่รพ.เพื่อตรวจให้ชัดเจนจนมั่นใจว่าป่วยจากเชื้อตัวไหน ที่ผ่านมาพอตรวจแล้วก็พบว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ สายพันธุ์บี

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีมีการคาดการณ์ในต่างประเทศว่าสถานการณ์ในประเทศจีนอาจจะมีการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มากกว่า 1 พันรายนั้น อาจจะมีความเป็นไปได้ แต่เนื่องจากเชื้อไวรัสในกลุ่มโคโรนามีหลายตัว ตัวที่รุนแรงคือเมอร์ส และซาร์ส นอกนั้นบางตัวก็ทำให้อาการรุนแรงได้ บางตัวก็ไม่รุนแรง อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าการจะนับจำนวนเคสได้คือต้องเข้ารับการรักษาในรพ.เท่านั้น หากไม่ป่วยมากก็ไม่มารพ. ก็เลยไม่ได้มีการรายงานเข้าระบบ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นแบบนี้มากว่า อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ที่ทางการจีนเปิดเผยข้อมูลทางพันธุ์กรรมของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และไทยตรวจพบผู้ป่วยรายแรกซึ่งเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นทำให้หลายๆ ประเทศที่มีเคสเฝ้าระวังอยู่มีความตื่นตัว มีการตรวจยืนยันเชื้อมากขึ้น และมีหลายประเทศที่มีเคสเฝ้าระวังประสานขอข้อมูลมายังประเทศไทย เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และองค์กรระหว่างประเทศ

“ตอนนี้ที่จีนรายงานเสียชีวิต 2 ราย ทั้งหมดเป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัว ส่วนของเรา 2 รายที่เจอที่ไทยก็เป็นผู้สูงอายุเช่นกัน แต่คนอายุน้อย ร่างกายแข็งแรงก็ติดได้แต่อาจจะไม่รุนแรง อย่างไรก็ตาม นี่ยังไม่ใช่ข้อสรุป เพราะข้อมูลยังน้อย ต้องรอสักระยะก็จะเกิดการเรียนรู้ทั้งโลก แต่ไทยต้องยกระดับการป้องกันสูงสุดเอาไว้ก่อน ทำเชิงรุกเต็มที่เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนไทยโดยรวม รวมถึงนักท่องเที่ยวไว้ก่อน แม้จะทำให้การเดินทางจากเมืองอู่ฮั่นสะดวกน้อยลงไปหน่อย แต่ก็แป็นไปตามมาตรฐานสากล” นพ.สุวรรณชัย กล่าว