'อนุทิน' ย้ำ นักท่องเที่ยวจากประเทศเสี่ยง ต้องกักตัว 14 วัน

'อนุทิน' ย้ำ นักท่องเที่ยวจากประเทศเสี่ยง ต้องกักตัว 14 วัน

อนุทิน ย้ำ นักท่องเที่ยวจากประเทศเสี่ยง ต้องกักตัว 14 วัน หากจะออกไปข้างนอก ต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค

วันนี้ (7 มี.ค.63) เวลา 12.30 น. นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข​ ให้สัมภาษณ์บริเวณห้องประชุมชัยนาทนเรนทร กระทรวงสาธารณสุข ว่า กรณีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว ต้องโดนกักตัว 14 วัน ต้องแสดงใบรับรองแพทย์ ใบจองโรงแรม 

ตัวอย่างเช่น หากจะมาเที่ยวประเทศไทย 7 วัน เท่ากับว่าคุณจะต้องเสียค่าโรงแรม 21 วัน เพราะต้องกักกันโรค 14 วัน ถ้าอยากจะทำอย่างนั้นก็ทำไม่มีปัญหา ขณะที่โรงแรมต้องกักกันห้ามออกไปไหน ถ้าจะไปต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค

ดังนั้น เราพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนเกิดความมั่นใจ ซึ่งเป็นกฎหมาย และมีการแจ้งไปยังผู้ประกอบการที่คนเหล่านี้ไปเกี่ยวข้องถึงข้อปฏิบัติอยู่แล้ว

หากจะมาเที่ยวประเทศไทย 7 วัน เท่ากับว่าคุณจะต้องเสียค่าโรงแรม 21 วัน เพราะต้องกักกันโรค 14 วัน ถ้าอยากจะทำอย่างนั้นก็ทำไม่มีปัญหา


“คนที่จะมาติดต่อธุรกิจ หากมีใบรับรองแพทย์มา ก็ต้องโดนกักตัว 14 วันก่อน ขณะเดียวกัน บริษัทในประเทศไทยที่ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูงานต่างประเทศ ก็ต้องให้พนักงานหยุดกักตัว 14 วัน ไม่ให้มาที่สำนักงาน ใช้มาตรการเดียวกัน” นายอนุทิน กล่าว

สำหรับกรณีกลุ่มแรงงานไทยที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีการระบาดค่อนข้างเยอะ ดังนั้น นายกรัฐมนตรีให้ข้อสั่งการมาว่า ต้องทำการกักกันโรค โดยคนไทยที่กลับจาก 2 พื้นที่ที่พบความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คือ เมืองแทกูและคย็องซัง ทุกคนจะต้องถูกกักตัว ในพื้นที่ควบคุมโรค ตามที่รัฐบาลจัดไว้ให้เป็นเวลา 14 วัน (State quarantine) ขณะผู้ที่มาจากเมืองอื่นๆ หากไม่พบอาการไข้จะได้เดินทางกลับตามภูมิลำเนา แต่จะจัดพื้นที่ในส่วนราชการ หรือสถานพยาบาลไว้ เพื่อติดตามอาการ (Local quarantine) เป็นไปตามดุลพินิจของคณะแพทย์

เรามีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการโควิด หลายเรื่องจึงต้องให้คณะแพทย์ประชุมและออกมาตรการออกมา สธ.มีหน้าที่สนับสนุนและเห็นชอบมาตรการที่ออกมา เป็นเรื่องของนโยบาย แต่ทางเทคนิคต้องตามเขาทุกอย่าง


“ทุกอย่างเป็นไปด้วยความตระหนักว่า เขาเป็นผู้ที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวัง พวกเขาเหล่านั้นไม่ใช่อาชญากร ไม่ใช่คนทำผิดกฎหมาย ไม่ใช่คนที่ถูกตั้งข้อรังเกียจ เขาคือประชาชนคนหนึ่ง ที่อยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ต้องเฝ้าระวังแพร่เชื้อโรคระบาด เนื่องจากเดินทางมาจากสถานที่ระบาดอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะสถานที่ใดก็ตามในโลกนี้ ดังนั้น เราต้องดูแล กักกันโรค ไม่ให้แพร่ไป สิ่งที่ปฏิบัติต่อเขาต้องเป็นไปตามหลักมนุษยธรรม รักษาเคารพสิทธิที่มีอยู่ในฐานะ ประชาชนคนไทย” นายอนุทิน กล่าว

"เขาคือประชาชนคนหนึ่ง ที่อยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ต้องเฝ้าระวังแพร่เชื้อโรคระบาด เนื่องจากเดินทางมาจากสถานที่ระบาดอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะสถานที่ใดก็ตามในโลกนี้ ดังนั้น เราต้องดูแล กักกันโรค ไม่ให้แพร่ไป สิ่งที่ปฏิบัติต่อเขาต้องเป็นไปตามหลักมนุษยธรรม รักษาเคารพสิทธิที่มีอยู่ในฐานะ ประชาชนคนไทย"

นายอนุทิน ชาญวีรกูล

สำหรับประเด็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศญี่ปุ่นและจีน นายอนุทิน ระบุว่า ที่ผ่านมา ทุกคนมีความกังวล แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานว่าเราทำหน้าที่ของเราได้ คณะแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข ผู้ที่ทำการควบคุมโรคจากทุกด่านสามารถควบคุมได้ค่อนข้างดี

เราหล่นจากประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดอันดับ 2 ของโลก ตอนนี้อยู่ลำดับที่ 25 ทั้งประเทศมีผู้ป่วย 50 คน กลับบ้านไปแล้วมากกว่า 70% ผู้ป่วยที่รักษาหายแทบทุกราย มีเสียชีวิตเพียง 1 ราย เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่โรคทุกโรคมีคนเสียชีวิต

สิ่งที่เราสามารถพูดให้เกิดความมั่นใจ คือ ผลของการทำงานอย่างหนัก ทุ่มเทของคณะแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข สะท้อนออกมาให้เห็นว่าสามารถควบคุมโรคได้ ในขณะที่ประเทศอื่นๆ มีผู้ป่วยเป็นหมื่นเป็นพัน ของเรามี 50 คน และรักษาได้ในระดับนี้ ความกังวลก็ต้องอยู่บนข้อเท็จจริงด้วย เราพยายามทำอย่างเต็มที่

สิ่งที่เราสามารถพูดให้เกิดความมั่นใจ คือ ผลของการทำงานอย่างหนัก ทุ่มเทของคณะแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข สะท้อนออกมาให้เห็นว่าสามารถควบคุมโรคได้


“ทุกวันนี้เราทำงานต้องใช้คณะแพทย์ที่มีความรู้ทางวิชาการ และ ประสบการณ์ในการควบคุมโรค รวมถึงการออกมาตรการต่างๆ คนที่กลับมาจากเกาหลีใต้ ต้องโดน State quarantine หรือ Local quarantine เป็นมาตรการที่คณะแพทย์ใช้ดุลพินิจ หน้าที่ของเราคือสนับสนุนการทำงาน หายา และงบ เพื่อทำให้ภารกิจสำเร็จ เพื่อให้การควบคุมโรคมีประสิทธิภาพ"