'ฟ้าทะลายโจร' เสริมภูมิต้านโควิด-19 ม.รังสิตแนะกินถูกวิธีป้องกันได้

ด้วยสถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ว่าเราจะมีความเสี่ยง หรือเป็นไม่เป็น ทำให้หลายคนพยายามหาวิธีดูแล ป้องกันตนเองไม่ให้เป็นกลุ่มเสี่ยง เป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19  ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ การกักตัวเองอยู่บ้าน ไม่ให้เกิดการรวมกลุ่ม รวมถึงการปฏิบัติตนเอง กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ

นอกจากนั้น บางคนอาจจะหายาสมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกัน หรือต้านไวรัสต่างๆ อย่าง “ฟ้าทะลายโจร” ซึ่งทราบกันดีว่ามีคุณสมบัติมีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ต้านการอักเสบ และต้านไวรัสได้ โดยเฉพาะไวรัสในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ ทำให้นำฟ้าทะลายโจรมาใช้กับไข้หวัดใหญ่จนผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น

“ฟ้าทะลายโจร” เป็นสมุนไพรที่มีสารสำคัญ andrographolide ที่มีศักยภาพในการป้องกันและรักษาโรค SARS 2 หรืออีกชื่อคือ SARS-CoV (cure and prevent the diseases caused by the SARS virus) ไวรัส SARS มีความใกล้เคียงกับไวรัส COVID-19 หรืออีกชื่อคือ SARS-CoV-2 จึงทำให้ฟ้าทะลายโจร ได้รับความสนใจจากนักวิจัยเพื่อนำไปใช้ในการร่วมรักษาCOVID-19

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม  ได้มีการศึกษาทำการวิจัยทดลองทางห้องปฏิบัติการ เพื่อหายาต้านโควิด-19 พบว่า “สารสกัดฟ้าทะลายโจร” สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสในหลอดทดลองได้ จึงได้พัฒนาต่อยอดสู่ยาฆ่าโควิด-19 คาดว่าทราบผล ชัดเจนในช่วงปลายเดือน มี.ค.นี้

แม้จะยังไม่ทราบผลชัดเจนว่า “ฟ้าทะลายโจรฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้หรือไม่?” แต่ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่ก็ได้มีการหาซื้อแคปซูลฟ้าทะลายโจร เพื่อเสริมภูมิต้านทานแก่ตนเองเรียบร้อย วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  ที่ได้พยายามสกัดยาสมุนไพรไทย เพื่อนำมาสู่การป้องกันและรักษาโรคต่างๆ ได้มีการผลิตยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรชนิดแคปซูล ซึ่งผลิตโดย SUN HERB Thai Chinese Manufacturing  โดยมีสรรพคุณ แก้ไข้ แก้หวัด แก้ตัวร้อน และกระตุ้นการสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

ผศ.ดร.เภสัชกร เอกพล ลิ้มพงษา  อาจารย์ประจำวิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงกรณีที่ม.รังสิต สามารถผลิตแคปซูลฟ้าทะลายโจรเสริมภูมิต้านทานโควิด 19 ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายคนมีความตื่นตัว ในการหายา หรือหาวิธีการป้องกันจากโควิด-19

ในส่วนของฟ้าทะลายโจร ได้มีรายงานผลการศึกษาในหลอดทดลอง (in vitro) นอกร่างกายมนุษย์ แสดงให้เห็นว่า ฟ้าทะลายโจรสามารถป้องกัน ไวรัสเข้าสู่เซลล์, ลดการแบ่งตัวของไวรัสภายในเซลล์, เพิ่มภูมิคุ้มกัน และลดการอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสได้ และขณะนี้ด้วยสถานการณ์ค่อนข้างรุนแรง ทำให้ประชาชนแห่ไปซื้อและใช้ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรจำนวนมากขึ้น

 “ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร เป็นยาที่มีวิธีการรับประทาน ซึ่งไม่ใช่ว่าสามารถรับประทานได้ทุกวัน หรือทานติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เพราะการทานตามอาการหรือป้องกันแต่ละอาการแตกต่างกัน อีกทั้งฟ้าทะลายโจรต้องปลูกได้มาตรฐาน ด้วยความเป็นห่วงของมหาวิทยาลัยจึงตอบโจทย์ประชาชนที่ต้องการป้องกัน เสริมภูมิต้านทาน โดยอาศัยผลการศึกษาในหลอดทดลองผลิตแคปซูลยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรที่ได้มาตรฐาน คุณภาพ และแนะนำวิธีการกินยาอย่างถูกต้อง เพื่อให้ผู้ซื้อยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรได้กินตามหลักการแพทย์”ผศ.ดร.เภสัชกร เอกพลกล่าว

การกินยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ซึ่งถือเป็นยาเย็น ตามองค์ความรู้แผนไทย หากรับประทานใน “ขนาด” และ “ระยะเวลา” ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้ โดยเฉพาะตับ และอวัยวะอื่น ซึ่งต้องการความร้อน เช่น ไต หัวใจ ปอด วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิตจึงจัดทำวิธีการรับประทานยาฟ้าทะลายโจรชนิดแคปซูลขึ้น การกินยาอย่างถูกต้องมีความจำเป็นอย่างมาก

ผศ.ดร.เภสัชกร เอกพล กล่าวต่อว่าวัตถุดิบของฟ้าทะลายโจรที่นำมาผลิตยาแคปซูลนั้นมีการควบคุมคุณภาพ มีสาระสำคัญที่สูงเกินมาตรฐาน เพราะปกติตามการผลิตยาแคปซูลจะกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำ แต่ที่วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ ม.รังสิต นำมาใช้ในปริมาณที่มากกว่าเหมาะกับคนที่มีความเสี่ยง หรือคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ 

โดยถ้าเป็นการกินเพื่อป้องกัน แนะนำให้รับประทานวันละ1 เม็ดหลังอาหาร โดยกิน5 วัน แล้วหยุด 2 วัน เช่น กินวันจันทร์-ศุกร์ หยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือกินวันเว้นวัน และกินติดต่อได้ถึง 3 เดือน เพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิ และหากใครจะกลับมากินอีกครั้งนี้ สามารถกินได้เมื่อรู้สึกว่ามีอาการภูมิแพ้ หรือภูมิต่ำลง

ส่วนถ้ามีอาการไข้หวัด แก้หวัด เจ็บคอ ให้รับประทาน 2-4 แคปซูล หลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น  หรือก่อนนอน หยุดกินได้เมื่อไม่มีอาการ แต่ถ้าหาก 3 วันไม่ดีขึ้น หรือแย่ลงให้หยุดกินและไปพบแพทย์ แนะนำให้กินติดต่อ 5 วัน ไม่เกิน 7 วัน ที่สำคัญผู้ที่กินได้ต้องมีอายุ 12 ปีขึ้นไป เพราะยาเย็นมีรสขม ไม่เหมาะกับเด็กเล็ก

“มหาวิทยาลัยได้มีการเก็บข้อมูลมาเป็นเวลานาน และได้มีการขึ้นจดทะเบียนเรียบร้อย การผลิตยาสมุนไพรแคปซูลครั้งนี้ ของม.รังสิต จะระบุสรรพคุณชัดเจนว่าช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ  อาการไข้หวัด ปวดเมื่อยร่างกาย และมีวิธีการทานยาอย่างชัดเจน เพื่อให้ประชาชนไม่ทานยาอย่างผิดวิธี เพราะหากผิดวิธีแทนที่ให้ประโยชน์ ป้องกัน รักษาร่างกาย อาจจะกลายเป็นพิษต่อร่างกายได้ จึงอยากฝากประชาชนทุกคนควรปรึกษาเภสัชกรก่อนจะซื้อมารับประทาน” ผศ.ดร.เภสัชกร เอกพล  กล่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ ม.รังสิต ได้ มีการผลิตแคปซูลยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรจำนวน 30,000 ขวด เพื่อรองรับความต้องการของประชาชน โดยขายที่ร้านยาของมหาวิทยาลัย รวมถึงได้จำหน่ายให้กับบริษัท ไตรแองเกิล (โดยซื้อผ่านบริษัท RSU Horizon) หากประชาชนสนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ https://www.facebook.com/rangsitpharmacy/