ครบ 7 วัน คนเรือนแสน เผ่นหนีกทม. เตรียมรับมือผู้ป่วยทั่วปท.
ภาพรวมทั้งประเทศ โควิดกระจาย 57 จว. ยอดติดเชื้อเพิ่มทรงตัวที่หลักร้อย ไทยยอดรวม 1,245 ราย ตายเพิ่ม 1 ราย เป็นสาวใหญ่วัย 55 ป่วยเบาหวาน ความดัน ไขมัน เตรียมกระจายยา-เวชภัณฑ์ รับมือผู้ป่วยเพิ่มทุกภูมิภาค หลังครบ 7วัน คนเรือนแสนแห่เดินทางออกจาก กทม.
นพ.อนุพงศ์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พบในวันนี้ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ผู้ที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยหรือเกี่ยวข้องกับสถานที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน39 ราย สนามมวย 10 ราย อยู่ที่ กทม. สถานบันเทิง 8 ราย กระจายอยู่ใน กทม.และศรีสะเกษ และผู้มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่ว 21 ราย กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 17 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 8 ราย แบ่งเป็นคนไทย 6 ราย มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา อินเดีย ฝรั่งเศส เยอรมัน และญี่ปุ่น และชาวต่างชาติ 2 ราย เป็นชาวยูเครน และโปรตุเกสและเป็นผู้ที่อาศัยหรือทำงานอยู่ในสถานที่แออัด 7 ราย เช่น พนักงานร้านนวด สปา พนักงานต้อนรับในโรงแรม เชฟ เจ้าของร้านขายเครื่องประดับ รวมถึงบุคลาการทางการแพทย์ติดเชื้อเพิ่ม 2 ราย กลุ่มที่ 3 เป็นผู้ที่พบเชื้อซึ่งต้องรอสอบประวัติและรอสอบสวนโรคจำนวน 53 ราย เชียงราย ปทุมธานี สมุทรสาคร ภูเก็ต นนทบุรี มุกดาหาร ปัตตานี นราธิวาสยะลา กทม.
นพ.อนุพงศ์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ป่วยอาการหนักขณะนี้มีจำนวน 17 ราย ยังต้องให้เครื่องช่วยหายใจ 12 ราย ซึ่งรักษาอยู่ในโรงพยาบาล ในพื้นที่ กทม. ส่วนผู้ป่วยอาการหนักอีก 5 ราย รักษาตัวอยู่ที่จ.เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี เพชรบุรี นครราชสีมา และบุรีรัมย์ โดยมีช่วงอายุระหว่าง 31 -76 ปี สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการน้อยอีกกว่า 1,000 ราย พบว่ายังมีปัจจัยเสี่ยงจึงยังไม่อนุญาตให้กลับบ้าน นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ป่วยอายุน้อยที่สุดมีอายุ 6 เดือน และอายุมากที่สุด 84 รายและมีสัดส่วนเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
"จากแผนที่ประเทศไทย ขณะนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อกระจายใน 57 จังหวัด เป็นผู้ป่วยในกทม.515 ราย นนทบุรี 65 ราย ภูเก็ต 41 ราย ยะลา 40 ราย ชลบุรี 36 ราย สมุทรปราการและปัตตานีจังหวัดละ 33 ราย สงขลา 27 ราย ปทุมธานี 14 ราย อุบลราชธานี.12 ราย เชียงใหม่ 11 ราย ทั้งนี้การพบผู้ป่วยรายใหม่จากสนามมวยและสถานบันเทิง แสดงว่าทั้ง 2. กลุ่มนี้ยังไม่จบ เพราะทุกสนามมวยปิดตัวลงในวันที่ 24 มี.ค.ตามคำสั่งผู้ว่าราชการกทม. และขอให้ผู้เดินทางกลับภูมิลำเนาสวมหน้ากากตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ แยกกักตัวเอง 14 วัน เว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อให้เราปลอดภัย อยู่ห่าง หยุดเชื้อเพื่อชาติ "นพ.อนุพงศ์กล่าว