เช็คสรรพคุณ 'ฟ้าทะลายโจร' พร้อมลุ้นผลวิจัยยาต้าน COVID-19!
ชวนรู้สรรพคุณ "ฟ้าทะลายโจร" กันอีกครั้ง พร้อมรอลุ้นการแถลงผลวิจัยที่ทางกรมแพทย์แผนไทยได้นำ "ฟ้าทะลายโจร" มาทดสอบและศึกษาเพื่อต่อยอดสู่ยาต้าน COVID-19 ครั้งแรกในไทย!
จากกรณีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเคยออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับสารสกัด "ฟ้าทะลายโจร" ของไทย ว่าสามารถยับยั้งการเติบโตของไวรัสในหลอดทดลองได้ เป็นที่มาของการเริ่มต้นการศึกษาวิจัยเรื่องนี้ในห้องปฏิบัติการเพื่อหายาต้าน Covid-19 อย่างจริงจัง มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม จนถึงวันนี้ก็ร่วมสองเดือนแล้ว และคนไทยกำลังจะได้รู้ผลการวิจัยเร็วๆ นี้ว่า สรุปแล้วสมุนไพร "ฟ้าทะลายโจร" สามารถนำไปผลิตยาต้านโควิด-19 ได้จริงหรือไม่?
โดยล่าสุด วานนี้ (19 เม.ย.) ดร.สุภาพร ภูมิอมร ผู้อำนวยการสถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ร่วมแถลงความคืบหน้างานวิจัยว่า โดยเบื้องต้นพบว่า ฟ้าทะลายโจร ไม่สามารถกินเพื่อป้องกันติดโควิด-19 ได้ แต่กลับแสดงผลได้ดีในการฆ่าเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 จากการทดลองในหลอดทดลอง (อ่านข่าว - ผลวิจัยหลอดทดลอง 'ฟ้าทะลายโจร' ฆ่าไวรัสโควิด-19 ได้)
ฉะนั้น อย่างน้อยๆ ก็เป็นข่าวดีที่ให้เราได้ลุ้นกันต่อว่า ทีมไทยแลนด์ ทั้งหลายจะสามารถพัฒนาให้นำมาใช้งานได้จริงเมื่อไหร่ แต่ระหว่างที่ยังลุ้น ยังรอกันอยู่นี้ "กรุงเทพธุรกิจ" จะพาไปทบทวนสรรพคุณดีๆ ของ "ฟ้าทะลายโจร" กันอีกสักครั้ง
• "ฟ้าทะลายโจร" สมุนไพรท้องถิ่นของเอเชียใต้
"ฟ้าทะลายโจร" (Andrographis paniculata) จัดเป็นสมุนไพรท้องถิ่นของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทย อินเดีย ศรีลังกา จีน ฯลฯ รวมถึงประเทศแถบสแกนดิเนเวียด้วย ส่วนใหญ่นิยมนำใบและลำต้นใต้ดินมาทำเป็นยารักษาโรคพื้นฐานได้หลากหลายโรค เช่น โรคหวัด โรคไข้หวัด โรคท้องเสีย เป็นต้น นอกจากนี้ "ฟ้าทะลายโจร" ยังเป็นสมุนไพรที่ได้รับการบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ. 2542 (บัญชียาสมุนไพร) กระทรวงสาธารณสุขด้วย
มีข้อบ่งใช้เกี่ยวกับการใช้ยา "ฟ้าทะลายโจร" คือ แก้ไข้ เจ็บคอ รักษาอาการท้องเสียไม่ติดเชื้อ โดยใช้เป็นแคปซูล, ยาเม็ด, ยาเม็ดลูกกลอน ที่บรรจุผงฟ้าทะลายโจรอบแห้งปริมาณต่างๆ กัน ปัจจุบันมีสมุนไพรฟ้าทะลายโจรจำหน่ายในท้องตลาด ทั้งที่ผลิตจากโรงงานผลิตยาที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข และในลักษณะผลิตภัณฑ์จากชุมชน (OTOP)
มีรายงานผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ระบุว่าสารสกัดจาก "ฟ้าทะลายโจร" มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาหลากหลาย โดยสารสำคัญที่มีฤทธิ์รักษาโรคมีอยู่ 4 ชนิด ได้แก่ สารแอนโดรกราโฟไลด์, ดิออกซีไดดีไฮโดรแอนโดรกราโฟไลด์ และ นีโอแอนโดรกราโฟไลด์ ต่อมาทางสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์สามารถแยกสารบริสุทธิ์จากฟ้าทะลายโจรได้อีก 1 ชนิด คือ สารดิออกซีแอนโดรกราโฟไลด์ ซึ่งเป็นสารสำคัญอีกชนิดหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคได้ดีเช่นกัน
ก่อนหน้านี้มีข่าวปลอมออกมาหลอกลวงมากมายว่า "ฟ้าทะลายโจร" สามารถใช้รักษาโรค โควิด-19 ได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง! เพราะประเทศไทยเพิ่งเริ่มต้นวิจัยและทดลองเท่านั้น ต้องย้ำกันอีกทีว่า "ฟ้าทะลายโจร" ไม่ใช่ยารักษาโรค COVID-19 แต่สามารถกินเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันป้องกันไม่ให้เป็นหวัดง่าย และช่วยรักษาอาการป่วยไข้ธรรมดาทั่วไปเท่านั้น ส่วนในเรื่องผลการวิจัยเกี่ยวกับ "ฟ้าทะลายโจร" ทางกรมการแพทย์แผนไทยกำลังจะแถลงผลให้ทราบเร็วๆ นี้
- เปิดสรรพคุณ "ฟ้าทะลายโจร" ชัดๆ อีกครั้ง
หลายคนคงอยากรู้ว่าทำไม "ฟ้าทะลายโจร" ถึงสามารถช่วยป้องกันและต่อต้านเชื้อไวรัสได้? เรื่องนี้มีคำตอบจาก ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ นายกสภามหาวิทยาลัยเนชั่น และนายกสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสาธารณสุข อธิบายว่า ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรที่เมื่อทานเข้าไปแล้วสามารถสร้างความสมดุลให้ร่างกายได้ ไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้โดยตรง แต่จะเป็นยาเย็นที่ช่วยทำให้มีการหลั่งสารคัดหลั่งในทางเดินหายใจที่จะช่วยป้องกันเคลือบให้ไวรัสโจมตีเข้าถึงปอดได้ยากขึ้น ทำให้ร่างกายจะต่อสู้กับเชื้อโรคเหล่านั้นได้และช่วยให้ระบบทางเดินหายใจมีภูมิต้านทานมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากกลุ่มงานวิจัย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ระบุถึงสรรพคุณของ "ฟ้าทะลายโจร" เอาไว้ว่า สมุนไพรชนิดนี้มีสรรพคุณเด่นๆ 4 ประการคือ
1. แก้ไข้ทั่วๆ ไป เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่
2. ระงับอาการอักเสบ พวกไอ เจ็บคอ คออักเสบ ต่อมทอนซิล หลอดลมอักเสบ ขับเสมหะ รักษาโรคผิวหนังฝี
3. แก้ติดเชื้อ พวกทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย บิด และแก้กระเพาะลำไส้อักเสบ
4. เป็นยาขมช่วยกระตุ้นให้เจริญอาหาร
สำหรับสรรพคุณในการแก้ไข้นั้น พบว่า "ฟ้าทะลายโจร" มีความปลอดภัยสูงมากเมื่อเทียบกับบอระเพ็ด เนื่องจากบอระเพ็ดมีความเป็นพิษต่อตับสูงกว่าฟ้าทะลายโจร แถมการกินยาฟ้าทะลายในปริมาณที่กำหนดก็ไม่มีผลต่อการดื้อยาด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เปิดสรรพคุณ ‘ฟ้าทะลายโจร’ อาจพัฒนาสู่ยาต้าน Covid-19 ได้
- 3 วิธีกิน ‘ฟ้าทะลายโจร’ ให้ถูกต้องและปลอดภัยช่วยต้านไวรัส
สนใจสั่งซื้อฟ้าทะลายโจร คลิก
- วิธีกินยา "ฟ้าทะลายโจร" ให้ปลอดภัย
วิธีการรับประทานยา "ฟ้าทะลายโจร" ชนิดแคปซูล ให้รับประทานทันทีเมื่อมีอาการเจ็บคอ มีไข้ โดยกินครั้งละ 3-4 แคปซูล (ให้ดูตามปริมาณสมุนไพร เช่น หากในหนึ่งแคปซูลมีตัวยา 500 มิลลิกรัม ให้กิน 3 เม็ด แต่ถ้าในแคปซูลมีตัวยา 350 มิลลิกรัม ให้กิน 4 เม็ด) รวมแล้วให้ได้ในปริมาณ 1,500 มิลลิกรัมต่อครั้ง กินวันละ 4 ครั้ง คือ หลังอาหารทั้งสามมื้อและก่อนนอน และไม่ควรกินติดต่อกันนานเกิน 7 วัน หากกินได้ถูกต้องอาการจะทุเลาลง อย่าปล่อยให้เกิดอาการมากแล้วจึงจะรับประทาน แบบนั้นจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร
*หมายเหตุ: ยาแคปซูล "ฟ้าทะลายโจร" แต่ละยี่ห้อมีข้อบ่งใช้และปริมาณในการรับประทานที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นต้องอ่านฉลากยา อ่านวิธีและขนาดรับประทานให้ละเอียดและทำตามอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ มีข้อควรระวังสำหรับการใช้ยา "ฟ้าทะลายโจร" ได้แก่ ห้ามใช้ในผู้หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ห้ามใช้ในในผู้ป่วยที่เจ็บคอจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เและห้ามใช้ในผู้ที่มีการแพ้ฟ้าทะลายโจร หากมีอาการแพ้ฟ้าทะลายโจร เช่น เกิดผื่น ลมพิษ หน้าบวม ริมฝีปากบวม ให้หยุดใช้ยาทันที
- ว่าด้วยการวิจัย "ฟ้าทะลายโจร" อย่างจริงจังครั้งแรกในไทย!
ก่อนหน้านี้ กรมแพทย์แผนไทย ได้นําฟ้าทะลายโจรไปทดลองกับเชื้อโควิด-19 ใน หลอดทดลอง โดยทดสอบฤทธิ์ของสารสำคัญใน "ฟ้าทะลายโจร" (สารแอนโดรกราโฟไลด์) ว่ามีผลต่อการติดเชื้อของไวรัส "โควิด-19" หรือไม่ โดยทดลองเพื่อหาคำตอบในสามด้าน คือ ด้านการปกป้องเซลล์จากไวรัส / ด้านการทําให้ไวรัสอ่อนแรง / ด้านการต้านไวรัส
โดยมีการรายงานผลเมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา พบว่ามีผลต่อการทําลายและยับยั้งการแบ่งตัวได้จริง และทีมวิจัยก็ได้ทำการวิจัยในเรื่องอื่นๆ ต่อเนื่อง และนำมาสู่การรวบรวมผลและเตรียมแถลงผลการวิจัยให้คนไทยได้ทราบกันต่อไป
--------------------
สนใจสั่งซื้อฟ้าทะลายโจร คลิก
อ้างอิง: กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก, กลุ่มงานวิจัย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ, สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์