ทส. เตรียมวางแผนฟื้นฟูป่าภาคเหนือ ดีเดย์วันต้นไม้ประจำปีของชาติ

เครือข่ายฯ ชุมชนภาคเหนือ เสนอรัฐทำงานร่วมกับชุมชนแก้ปัญหาไฟป่า
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยถึงแผนการฟื้นฟูป่าทางภาคเหนือที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ไฟป่าที่ผ่านมาว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ให้เตรียมวางแผนสำหรับการฟื้นฟูสภาพป่าภาคเหนือ โดยเปิดให้หน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนในการเข้ามามีส่วนร่วมในการฟื้นฟูผืนป่า พร้อมทั้งได้มอบให้กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเตรียมแผนฯ
ในส่วนของกรมป่าไม้ นายอรรถพลกล่าวว่า ได้จัดเตรียมกล้าไม้สำหรับใช้ในการปลูกป่าจำนวนกว่า 10 ล้านกล้า เป็นพันธุ์ไม้ยืนต้นและเป็นพืชเศรษฐกิจ เช่น ประดู่ป่า สัก พะยูง ฯลฯ และวางแผนในการปลูกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าภาคเหนือ ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่มีวันที่ตรงกับวันต้นไม้ประจำปีของชาติ โดยได้กำหนดกิจกรรมจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ฟื้นฟูพื้นที่ป่า ในวันที่ 21 พฤษภาคม 63
สำหรับสถานการณ์ไฟป่า ทางกรมฯ เปิดเผยว่า จุดความร้อนลดลงอย่างต่อเนื่องตลอดระยะอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยวานนี้ พบน้อยกว่า 28 จุด จากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครดับไฟป่า ตลอดจนการสนับสนุนอุปกรณ์ดับไฟป่า จากหลาย ๆ แห่ง ทำให้แนวโน้นที่ดีขึ้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทั้งนี้ ในพื้นที่มีพายุฤดูร้อนทำให้เกิดฝนตกในพื้นที่ไฟป่าติดต่อกันทำให้ช่วยลดความรุนแรงและความร้อนสะสมของไฟป่าได้อีกทางหนึ่ง
จากการสำรวจพื้นที่ป่าที่เกิดความเสียหายจากไฟป่าในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน พบว่า มีพื้นที่ป่าที่เสียหายจำนวน 55,266 ไร่ คิดเป็น 0.18 % ของพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (30,148,622 ไร่) ซึ่งพื้นที่ความเสียหายส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 17,771 ไร่
และในส่วนของการดำเนินคดี มีคดีสะสมอยู่ 963 คดี (ตั้งแต่ 30 มี.ค.-17 เม.ย. 63) มีผู้ต้องหาเพิ่ม 5 ราย ในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ 4 ราย สะสมรวม 38 ราย
ในขณะเดียวกัน ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี เสนอการแก้ไขสถานการณ์ไฟป่าที่เกี่ยวข้องกับชุมชนในพื้นที่ โดยเห็นว่า วิกฤติหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ เกิดจากสาเหตุปัญหาในหลายประการ ทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ โดยเฉพาะกลไกและนโยบายรัฐรวมศูนย์ ทำให้ส่วนต่าง ๆ ไม่สามารถดูแลพื้นที่ป่าในวงกว้างได้อย่างทั่วถึง จึงเสนอให้หน่วยงานรัฐควรเรียนรู้และสร้างความร่วมมือกับชุมชนมากกว่าที่จะมองเห็นชาวบ้านเป็นแค่ต้นเหตุ
นอกจากนี้ เครือข่ายยังเสนอให้มีการพิจารณาแผนการจัดการเชื้อเพลิงของชุมชนในแปลงเกษตรหรือไร่หมุนเวียนตามบริบทของแต่ละพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาการห้ามเผาตามมาตรการของจังหวัด
และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประชุมเพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหาดังกล่าวในระดับนโยบายด้วยอีกทาง