อัพเดท! 5 โครงการ ‘แจกของฟรี’ ช่วยผู้เดือดร้อนสู้ภัยโควิด-19
ชี้เป้า! โครงการ "แจกของฟรี" โดยรวบรวมจากสิ่งของบริจาค ของใช้จำเป็น อาหารแห้ง รวมถึงจุด "แจกอาหารฟรี" พร้อมรับประทาน จากคนไทยใจดีสู่พี่น้องที่กำลังเดือดร้อนจากวิกฤติโควิด-19
กระแสคนไทยใจดียังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยพี่น้องร่วมชาติผู้เดือดร้อนจากวิกฤติ "โควิด-19" นอกจากมีเศรษฐีไทยใจดีออกมา "แจกเงิน" แล้ว ยังมีภาคประชาชนอีกหลายส่วนออกมาทำกิจกรรมจิตอาสาร่วม "แจกของฟรี" ได้แก่ สิ่งของจำเป็น ของใช้ด้านสุขอนามัย อาหารแห้ง รวมทั้งอาหารพร้อมทานแบบข้าวกล่อง เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในสังคมไทย
และนี่คือ 5 โครงการดีๆ ที่พร้อมเป็นตัวกลางส่งมอบ “ของบริจาคฟรี” จากน้ำใจพี่น้องคนไทยที่ยังพอมีกำลังและอยากแบ่งปัน เพื่อนำไป “แจกฟรี” ให้ผู้ยากไร้ที่ขาดรายได้ เพื่อให้พวกเขาได้อิ่มท้องและผ่านพ้นวิกฤติโควิดไปด้วยกัน เข้ามาเช็คลิสต์ทางนี้เลย
1. “กล่องแบ่งปัน” สิ่งของบริจาคแจกฟรี
“มูลนิธิกระจกเงา” จัดโครงการ “อาสามาเยี่ยม” เพื่อเป็นตัวกลางในการส่งมอบสิ่งของและอาหารแห้งที่รับบริจาคมาจากผู้ใจบุญ ผ่านเพจเฟซบุ๊คของมูลนิธิฯ ผ่านกล่องยังชีพที่เรียกว่า “กล่องแบ่งปัน” ระบุว่า
“สถานการณ์ผู้เดือดร้อนจากโควิด-19 ขณะนี้ มีเด็กจำนวนมากกำลังขาดสารอาหาร เด็กบางครอบครัวได้ทานแต่ข้าวและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ทำให้เริ่มมีอาการป่วย หมดเรี่ยวแรง อาหารที่มีโปรตีนหรือวิตามินเป็นส่วนประกอบ เช่น ปลาแห้ง หมูหยอง หมูแผ่น กุนเชียง ฯลฯ จึงสำคัญสำหรับเด็กๆ เราต้องการนมผง นมเด็ก อาหารแห้งในปริมาณมาก หากต้องการร่วมสนับสนุน สามารถบริจาคมาได้ที่ “มูลนิธิกระจกเงา” 191 ซอย วิภาวดีรังสิต 62 แยก 4-7 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 ข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 094-878-6447”
สำหรับผู้ที่เดือดร้อนและต้องการรับ “กล่องแบ่งปัน” สามารถลงทะเบียนออนไลน์เพื่อรับ “ของแจกฟรี” ได้ที่นี่ >> mirror.or.th โดยการลงทะเบียนทางออนไลน์เพื่อรับกล่องแบ่งปันนั้น จะสามารถลงทะเบียนได้วันต่อวัน โดยแจก 1 กล่องต่อ 1 ครอบครัวเท่านั้น และแจกวันละ 300 กล่อง หากลงทะเบียนไม่ทัน สามารถมาลงทะเบียนในวันถัดไปได้ในวันถัดไป โดยจะแจกกล่องแบ่งปันไปตลอดเดือนมิถุนายน 2563
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
2. “ตู้ปันสุข” หยิบให้พอดี ถ้ามีช่วยแบ่งปัน
สุภกฤษ กุลชาติวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซูปเปอร์คิทแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด เจ้าของเพจ “รู้รอบตอบโจทย์ธุรกิจ” และเจ้าของซอฟต์แวร์ในอุตสาหกรรม ผู้ก่อตั้งเพจ “อิฐน้อย” ได้ระดมพลเหล่าจิตอาสาเพื่อตั้งทีมช่วยเหลือคนไทยผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 โดยการจัดตั้ง “ตู้ปันสุข” (Pantry of Sharing) และมีการเปิดตัวไปตั้งแต่ 27 เม.ย. 2563
ทีมงานได้ตั้งตู้ปันสุขนำร่องไว้ 5 ตู้ กระจายไปใน 5 ชุมชนใน กทม. เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ คนตกงาน ขาดเงินซื้ออาหารเลี้ยงปากท้อง และจากนั้นไม่นานก็เกิดการแพร่ขยายไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็วที่สุด ครอบคลุม 77 จังหวัด ภายใน 5 วัน ปัจจุบันมีทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน ติดตั้งแล้ว 1,400 ตู้ ในจำนวนนี้ถ้าช่วยเหลือคนได้อย่างต่ำที่สุด 20 คนต่อวัน ภายใน 1 เดือนสามารถช่วยคนได้มากถึง 840,000 ครั้งต่อเดือน ซึ่งถือว่าเป็นสเกลที่สูงมาก
อีกทั้ง “ตู้ปันสุข” ยังกระจายไปทั่วองค์กรภาครัฐและเอกชน เช่น กระทรวงต่างๆ หน่วยงานต่างๆ โรงพยาบาล สถานีตำรวจ และห้างร้านภาคเอกชนที่อยู่ใกล้ชิดชุมชน รูปแบบของตู้ปันสุขไม่ใช่เพียงอยู่ในรูปตู้กับข้าว แต่ยังอยู่ในรูปของรถคาราวาน รถเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่น แปลงผัก และอื่นๆ
3. BKK HELP แจกอาหารและสิ่งของฟรี!
กรุงเทพมหานครได้จัดตั้งระบบออนไลน์ที่มีชื่อว่า “BKK HELP” เป็นตัวช่วยในจัดการเกี่ยวกับระบบ “แจกของบริจาค” รับมอบจากคนไทยใจดีที่ยังพอมีกำลัง แล้วส่งต่อไปยังพี่น้องคนไทยผู้เดือดร้อนจากวิกฤติโควิด-19 ซึ่งแพลตฟอร์มนี้จัดทำขึ้นเพื่อแก้ปัญหาความแออัดในการรับแจกสิ่งของหรืออาหาร สามารถป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อได้อย่างมีมาตรฐานและป้องกันการติดเชื้อ
โดยสำนักงานเขตในพื้นที่จะจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก เช่น มีการตรวจวัดอุณหภูมิ, มีบริการแอลกอฮอล์เจลสำหรับล้างมือ, มีการจัดระเบียบเว้นระยะห่างทางกายภาพ (Physical Distancing), จัดพื้นที่นั่งรอ, พื้นที่นั่งทาน และพื้นที่สำหรับทิ้งขยะ พร้อมแนะนำวิธีการแจกของอย่างถูกต้องปลอดภัยทั้งผู้แจกและผู้รับ ซึ่งวิธีการแจกสิ่งของด้วยเองผ่านระบบ BKK HELP นั้น ทำให้ผู้แจกและผู้รับสามารถนัดหมายได้ล่วงหน้าได้ด้วยผ่านทางเว็บไซต์ >> http://bkkhelp.bangkok.go.th/
กรุงเทพมหานครได้กำหนดจุดแจกสิ่งของบริจาคและ “แจกอาหารฟรี” ไว้จำนวน 71 จุด ในพื้นที่ 50 สำนักงานเขต และจัดช่วงเวลาในการแจกออกเป็น 3 รอบ คือ รอบเช้า เวลา 07.00 - 09.00 น. รอบกลางวัน 11.00 - 13.00 น. และรอบเย็น เวลา 16.00 - 18.00 น. เพิ่มความสะดวกแก่ผู้ที่มีความประสงค์จะแจกอาหารหรือสิ่งของด้วยตนเอง ซึ่งสามารถเข้าไปแจ้งความประสงค์ตามวันและเวลาที่ต้องการในเว็บไซต์ดังกล่าวได้เลย
4. คลองเตยดีจัง ปันกันอิ่ม “แจกอาหารฟรี”
อีกหนึ่งโครงการที่น่าสนับสนุนก็คือ “คลองเตยดีจัง ปันกันอิ่ม” เป็นโครงการระดมทุนรับบริจาคเงิน 30 บาท เพื่อช่วยเป็นค่าอาหาร 1 มื้อให้ผู้ที่กำลังเดือดร้อน ไม่มีเงิน และตกงานจากสถานการณ์โควิด-19 โดยพุ่งเป้าความช่วยเหลือไปที่ชุมชนคลองเตย ครอบคลุม 6,178 คน เพื่อให้พวกเขาผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน นอกจากนี้ยังทำให้ร้านค้าในชุมชนสามารถขายของได้ เกิดการหมุนเวียนรายได้ในชุมชนอีกด้วย
โดยกิจกรรมที่โครงการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากรับสมัครร้านค้าในชุมชนคลองเตยที่มีความหลากหลายของอาหาร เข้าร่วมโครงการพร้อมชี้แจงเป้าหมายการทำงานครั้งนี้ อย่างน้อย 30 ร้าน โดยให้ร้านค้าเหล่านั้นเป็น 'สะพานบุญ' ที่ช่วยส่งต่อความช่วยเหลือจากผู้ให้สู่ผู้รับ โดยทางร้านจะให้คนที่เดือดร้อนมา “กินอาหารฟรี” และคนที่พอมีเงินสามารถ “ฝากข้าว” ให้คนที่เดือดร้อนได้ โดยการให้ยิงคิวอาร์โค้ดสนับสนุนอาหารจานละ 30 บาท
ทีมงานสำรวจความต้องการของคนที่ได้รับผลกระทบ แล้วจัดลำดับความช่วยเหลือเป็น 3 ระดับ คือ 1.เร่งด่วน 2.รอได้ 3.ไม่ขอรับการช่วยเหลือ จากนั้นคัดเลือกคนที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด้วยขึ้นมาก่อน แล้วให้แกนนำชุมชนนำคูปองไปแจกจ่ายให้ตามบ้านหลังละ 5 ใบต่อสัปดาห์ (เพื่อลดการรวมตัวแออัดจนอาจทำให้โรคโควิดแพร่ระบาด) ข้อดีของโครงการคือ คนในชุมชนอยู่ในพื้นที่ได้ ลดโอกาสการติดเชื้อ Covid-19 สามารถร่วมบริจาคเงินเป็นค่าอาหารดังกล่าวได้ที่ >> facebook.com/khlongtoeydeejung
5. COVID THAILAND AID ช่วยกลุ่มเปราะบาง
ปิดท้ายกันที่โครงการ “COVID THAILAND AID” เป็นโครงการเพื่อช่วยเหลือคน “กลุ่มเปราะบาง” ทั่วไทยที่ประสบความเดือดร้อนจากวิกฤติโควิด-19 ด้วยการส่งชุดยังชีพให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ครอบครัวรายได้น้อย ผู้รอคอยความช่วยเหลือ มอบอาหารให้คนไร้บ้าน และจัดตั้งกองทุนฉุกเฉินสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ที่อยู่แนวหน้ารับมือโรคนี้โดยตรง
COVID Thailand Aid คือกลุ่มอาสาสมัครกว่า 300 คนที่มาทุ่มเทเวลาและกำลังกายใจในการช่วยเหลือคนกลุ่มเปราะบางในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาด ซึ่งเป็นภาวะวิกฤติทั้งทางสุขอนามัยและทางเศรษฐกิจครั้งร้ายแรง โดยเป้าหมายของกลุ่มคือ ช่วยเหลือคนกลุ่มเปราะบางทั่วประเทศไทยที่กำลังเผชิญหน้ากับสภาวะที่โควิด-19 เพื่อทุกคนจะได้ก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบากไปด้วยกัน โดยทีมงานจะแบ่งเงินบริจาคออกเป็นอัตราส่วน 2 ต่อ 1 เพื่อที่จะทำกิจกรรมสองด้านดังต่อไปนี้
1.) สองล้านบาท: ใช้ในการจัดเตรียมชุดยังชีพ 8,000 ชุด (250 บาทต่อคน หรือ 500 บาทต่อครัวเรือน) ซึ่งในชุดยังชีพประกอบด้วย อาหารแห้ง ยาสามัญประจำบ้าน ของใช้เพื่อสุขอนามัย จากนั้นติดต่อผู้นำชุมชนเพื่อสอบถามถึงสิ่งของเฉพาะเจาะจงที่ต้องการอย่างจำเป็นเร่งด่วนเพื่อจัดสรรสิ่งของเหล่านั้นมอบให้ตามความเหมาะสม
2.) หนึ่งล้านบาท: แบ่งออกเป็น 2 กองๆ ละ 500,000 บาท โดยกองแรกนำไปใช้เป็นค่าอาหารคนไร้บ้านได้ 12,500 มื้อ หรือ 140 คนต่อวัน เป็นเวลา 3 เดือน (40 บาทต่อมื้อ) ส่วนกองที่สองจะใช้เป็นกองทุนฉุกเฉินสำหรับผู้ที่อยู่แนวหน้ารับมือโรคนี้โดยตรงและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ (180 บาทต่อหน้ากาก N95 1 ชิ้น) สำหรับผู้ที่สนใจอย่างเป็นส่วนหนึ่งในโครงการนี้สามารถร่วมบริจาคเงินได้ที่ >> facebook.com/groups/covidthailandaid
-----------------------------
อ้างอิง:
https://taejai.com/th/projects/covid-19/
https://web.facebook.com/mirrorf/