ตำรวจตั้ง 4 ข้อหาหนัก ยิงช้างป่ากุยบุรี

ตำรวจตั้ง 4 ข้อหาหนัก ยิงช้างป่ากุยบุรี

ชาวบ้านร้องรัฐแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างในระยะยาวเพื่อยุติปัญหา

จากกรณีมีเหตุการณ์ช้างป่าซึ่งเป็นช้างสีดอ เพศผู้ไม่มีงา อายุ ระหว่าง 25-30 ปี น้ำหนักประมาณ 2.5 ตัน ถูกยิงบริเวณกกหูด้ายซ้าย จนหัวทิ่มลงไปในร่องน้ำในสวนยางของชาวบ้านที่อยู่ติดพื้นที่โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่า บริเวณป่าสงวนแห่งชาติ ป่ากุยบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (โครงการกุญชร) เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาทางพนักงานสอบสวนสามารถติดตามตัวคนยิงมาได้ภายในคืนเดียวกัน ทราบชื่อนายณรงค์ อรภักดี อายุ 49 ปี ชาวบ้านที่เฝ้าอยู่ในพื้นที่

จากการสอบสวน นายณรงค์ สารภาพว่าเป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงช้าง เนื่องจากขณะขับไล่ช้างป่าได้วิ่งเข้าใส่ในระยะกระชั้นชิด และที่ผ่านมาในหมู่บ้านเคยมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ถูกช้างป่าเหยียบ ขณะที่ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ รับแจ้งว่ามีช้างป่าออกมารบกวนพื้นที่การเกษตร จึงออกไปผลักดันให้ช้างกลับเข้าป่า แต่ช้างตัวดังกล่าวเดินแยกออกจากโขลง ฝูงมุ่งหน้ามาทางโครงการตามพระดำริ เป็นเหตุให้ถูกยิง

ล่าสุดวันนี้ ทางคณะเจ้าหน้าที่ฯ ประกอบด้วยนายอานนท์ พร้อมเพรียง นายอำเภอกุยบุรี พร้อมด้วยนายรักพงษ์ บุญย่อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี พร้อมชุดตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และทีมสัตว์แพทย์กรมอุทยานฯ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ

โดยทางตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าทำการตรวจสแกนโลหะบนลำตัวของช้างสีดอตัวดังกล่าว เพื่อหาวิถีกระสุน พบว่ามีร่องรอยการถูกยิงจากอาวุธปืนลูกซองเบอร์ 12 ซึ่งมีลูกปรายจำนวน 9 เม็ด ฝังอยู่ที่บริเวณขมับซ้ายและบริเวณใบหูทะลุหลังหู

ทางทีมสัตว์แพทย์ได้ทำการผ่าตามรอยกระสุน พบว่ามีเม็ดหนึ่งทะลุเข้าไปในกะโหลกฝังใน ซึ่งคาดว่ากระสุนเม็ดนี้ น่าจะเป็นเหตุที่ทำให้ช้างล้มลงดังกล่าว จากนั้นได้ฝ่าซากช้างเพื่อนำชิ้นเนื้อจากอวัยวะต่างๆภายในส่งตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุการตายที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง

ด้านพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหากับนายณรงค์ ผู้ต้องหา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะหรือในหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุควร และกระทำความผิดพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.. 2562 ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครอง

นายเงิน คงมั่น ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า จริงๆแล้ว คนที่ยิงช้างครั้งนี้เขาก็อาจจะป้องกันตัวเองจริงๆอย่างที่เขาพูด เนื่องจากไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เกษตรกร หรือชาวไร่ ก็ได้เสียชีวิตจากการถูกช้างกระทืบจนเสียชีวิต และมาวันนี้ช้างก็ได้ถูกชาวบ้านยิงตาย เพราะฉะนั้น จะช่วยกันหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างไร

อยากให้ทางราชการช่วยกัน แก้ไข ปัญหาที่เกิดขึ้นลักษณะแบบนี้จะได้ไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก เมื่อ 2-3 เดือนที่แล้วก็คนตายและมาวันนี้ ช้างก็ตาย ถ้าหากว่าเราไม่ช่วยกันแก้ปัญหาต่อไปก็จะเกิดปัญหาลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีกได้ แต่ถ้ามีการแก้ปัญหาที่ถูกจุด ปัญหาเช่นนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ถ้าไม่มีการแก้ปัญหาต่อไปก็คงต้องเป็นคนตายหรือไม่ก็ช้างตายไปเรื่อยๆอยู่เช่นนี้” นายเงินกล่าว

ทั้งนี้ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา มีช้างป่าในเขตอุทยานฯ กุยบุรีตายต่อเนื่องทั้งสิ้น 4 ตัวแล้วโดยเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา ช้างป่าเพศผู้มีงา อายุ 7 ปี น้ำหนักประมาณ 700 กิโลกรัม นอนเจ็บในไร่ขนุน มีร่องรอยถูกยิงด้วยปืนลูกซอง บริเวณที่ดิน สปก. หุบหนองเสือ บ้านวังไทร .สามร้อยยอด ก่อนทีมสัตว์แพทย์ช่วยชีวิตอย่างเต็มที่นาน 3 วัน จากนั้นสิ้นใจตายจากอาการติดเชื้อในหลอดอาหาร

ในวันที่ 2 มิถุนายน พบซากช้างป่าขนาดใหญ่ริมห้วย บริเวณสวนมะม่วง บ้านกระทุ่น .ปราณบุรี เป็นช้างป่าเพศผู้ อายุประมาณ 40 ปี น้ำหนักประมาณ 5 ตัน ที่งวงมีรอยไหม้พันติดอยู่กับลวดเหล็กและที่ศีรษะช้างนอนทับติดอยู่กับสายไฟ สาเหตุการตายมาจากการใช้รั้วไฟฟ้าแรงสูง

วันที่ 12 มิถุนายน จ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานพบซากช้างป่า ในสระน้ำ .หาดขาม อ.กุยบุรี ภายในพื้นที่โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี เป็นซากช้างเพศผู้อายุประมาณ 5 ปี ไม่มีงา พบภายในซากช้างมีกระสุนปืนลูกซองฝังอยู่ในผิวหนังช้างหลายจุด