รองผู้ว่าฯ สุราษฏร์ธานีย้ำ รื้อขนำเฝ้าคอกหอยอ่าวบ้านดอนก่อน 12 ส.ค. นี้

วันนี้ เจ้าหน้าที่ของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ยังคงออกลาดตระเวนในอ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่งระหว่างผู้จับจองพื้นที่กั้นคอกหอย กับกลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน ซึ่งความขัดแย้งกำลังได้รับการแก้ไขโดยและอยู่ในระหว่างภาครัฐที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ศรชล. เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน

ซึ่งในอ่าวบ้านดอนยังมีชาวประมงพื้นบ้านออกเก็บหาหอยอยู่บ้างแต่ค่อนข้างน้อยกว่าที่ผ่านมา อาจจะด้วยปริมาณหอยที่ลดลงและสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย

ส่วนความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาข้อพิพาท ที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานีวันนี้ มีการประชุมคณะกรรมการประมงเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน โดยมีนายธีระ อนันตเสรีวิทยา รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี เป็นประธานการประชุม พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมทั้งจาก ศรชล. โดยใช้เวลาการประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง

ที่ประชุมสรุปให้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยมีตัวแทนของทุกภาคส่วนร่วมเป็นกรรมการ และเน้นย้ำให้เร่งประชาสัมพันธ์แจ้งผู้ที่ครอบครอบหรือบุกรุกให้ดำเนินการตามประกาศจังหวัดที่ให้รื้อสิ่งบุกรุกออกทั้งหมดภายใน 60 วัน ซึ่งประกาศ ณ วันที่ 12 มิ.ย. และจะสิ้นสุดวันที่ 12 ส.ค.นี้

หากเกินกำหนดจะบังคับใช้กฎหมายโดยเด็ดขาดนำร่องพื้นที่ อ.เมือง และ อ.พุนพิน เป็นแผนแรก ก่อนจะขยับขยายเข้าสู่ระยะที่ 2 และ3 ต่อไป

ซึ่งก่อนหน้านี้ วันที่ 24 มิถุนายน 2563 เมื่อเวลา 09.30 น. ผู้บัญชาการทหารเรือ และรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ และพลเรือเอก สิทธิพร มาศเกษม เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะ เลขาธิการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (เลขาธิการ ศรชล.) พร้อม คณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจเยี่ยมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะบริเวณอ่าวบ้านดอน

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองผู้อำนวยการ ศรชล. ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ โดยสั่งการให้ทัพเรือภาคที่ 2 ในฐานะศูนย์อำนวยการการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 (ศรชล.ภาค2) ดำเนินการพบปะเพื่อเจรจาผู้เกี่ยวข้อง ในการกำหนดเป้าหมาย แนวทาง และระยะดำเนินการ ประกอบด้วย 1.) ให้กลุ่มผู้ประกอบการหรือผู้ที่อ้างสิทธิ์ในการครอบครองพื้นที่สาธารณะโดยมิชอบด้วยกฎหมายบริเวณอ่าวบ้านดอน คืนพื้นที่สาธารณะด้วยความเต็มใจ 2.) สำรวจสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำและดำเนินการทางกฎหมาย กับผู้ที่ครอบครองพื้นที่สาธารณะโดยมิชอบด้วยกฎหมาย 3.) รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งปวง เช่น คอกหอย ขนำ และดำเนินคดีถึงที่สุด 4.) จัดระเบียบ กำหนดมาตรการหรือแนวทางต่างๆ เพื่อความยั่งยืนในอนาคต

สำหรับระยะเวลาในการดำเนินการแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ดำเนินการ ตามแผนงานในพื้นที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี และ อ.พุนพิน ระยะที่ 2 ดำเนินการตามแผนงานในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ ระยะที่ 3 ดำเนินการตามแผนงานในพื้นที่ อ.ไชยา และ อ.ท่าฉาง