เตือน! ท้าย 'เขื่อนสิริกิติ์' ระดับน้ำสูงหลังพายุ 'ซินลากู' ถล่ม
เตือน! ท้าย "เขื่อนสิริกิติ์" ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น กรมชลฯเร่งประสานหยุดการระบายน้ำจากเขื่อนลงแม่น้ำน่าน หลังพายุ "ซินลากู" ถล่ม
เมื่อวันที่ 4 ส.ค.63 ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุซินลากู ในช่วงที่ผ่านมาทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ส่งผลให้มีปริมาณน้ำท่าไหลลงบริเวณท้ายเขื่อนสิริกิติ์จำนวนมาก ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำน่านเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน (4 ส.ค.63) จังหวัดพิษณุโลก ที่สถานีวัดน้ำ N27A อำเภอพรหมพิราม มีระดับน้ำอยู่ที่ +40.80 ม.รทก.(ระดับตลิ่ง 47.07 ม.รทก) และที่สถานีวัดน้ำ N5A อำเภอเมืองพิษณุโลก มีระดับน้ำอยู่ที่ +34.50 ม.รทก.(ระดับตลิ่ง 44.87 ม.รทก) คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม ในพรุ่งนี้(5 ส.ค. 63)จะมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 4-5 เมตร
ด้านจังหวัดพิจิตร ที่สถานีวัดน้ำ N7A อำเภอเมืองพิจิตร มีระดับน้ำอยู่ที่ +27.97 ม.รทก.(ระดับตลิ่ง 35.87 ม.รทก.) และที่สถานีวัดน้ำ N8 อำเภอบางมูลนาก มีระดับน้ำอยู่ที่ +21.53 ม.รทก. (ระดับตลิ่ง 29.42 ม.รทก.)คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม จะมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 4-5 เมตร ในช่วงวันที่ 6-7 สิงหาคม 2563 และที่จังหวัดนครสวรรค์ ที่สถานีวัดน้ำ N67 อำเภอชุมแสง มีระดับน้ำอยู่ที่ +18.467 ม.รทก.(ระดับตลิ่ง 28.30 ม.รทก.) คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม จะมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 4-5 เมตร ในช่วงวันที่ 7-8 ส.ค. 2563 ตามลำดับ
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ประสานขอความร่วมมือไปยังเขื่อนสิริกิติ์ ให้หยุดการระบายน้ำลงแม่น้ำน่าน รวมทั้งหยุดการระบายน้ำของเขื่อนแควน้อยฯ ตั้งแต่วันที่ 3-6 สิงหาคม 2563 เพื่อบรรเทาผลกระทบดังกล่าวแล้ว พร้อมเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้แจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้กับผู้ใช้น้ำจากแม่น้ำน่าน อาทิ ผู้เลี้ยงปลาในกระชัง แพร้านอาหาร และแพสูบน้ำ ให้ระมัดระวังการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ เพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ และเจ้าหน้าที่ไว้พร้อมช่วยเหลือพื้นที่ที่อาจจะได้รับผลกระทบได้อย่างทันท่วงที