ตลาด 'Silver Age' มาแรง...แซงทุกวัย!

มองมุมกว้างในการก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยของสังคมไทย ก็คือโอกาสทางการตลาดของสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ เพราะคนกลุ่มนี้ถือว่ามีกำลังซื้อสูง มีความลังเลในการใช้จ่ายน้อย และที่สำคัญคือ ทัศนคติในการใช้จ่ายที่เปลี่ยนไป 

     

• Silver Age โอกาสทางการตลาด

Silver Age เป็นคำที่ใช้เรียกกลุ่มผู้สูงอายุ โดยอ้างอิงสีผมของคนวัยนี้ ในเชิงการตลาด Silver Generation คือคนอายุ 55 ขึ้นไป 20-30 เปอร์เซ็นต์ การศึกษาดี มีรายได้ค่อนข้างสูง ตลาดค่อนข้างใหญ่ประมาณ 26 เปอร์เซ็นต์ แต่กลับมีสินค้าสำหรับคนกลุ่มนี้ในท้องตลาดเพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

“ตลาดซิลเวอร์เอจโตขึ้นทุกปี ถ้าเทียบกับตลาดกลุ่มเด็กจะค่อยๆ ลดลง ปีนี้เหลือแค่ 23 เปอร์เซ็นต์ เล็กกว่ากลุ่มซิลเวอร์แล้ว หลังจากนี้ก็จะลดลงไปอีก ซิลเวอร์เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง หลักการตลาดคือ First Come First Serve ใครมาก่อนเป็นที่รู้จักก่อนก็จะอยู่กับเขา แต่กลายเป็นว่าเชิงโปรดักส์ สินค้าอุปโภคบริโภค 9 แสนล้านของธุรกิจค้าปลีกทั้งหมดในประเทศไทยมีสินค้าที่ดีไซน์มาเฉพาะกลุ่มนี้น้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ แสดงว่าโอกาสยังมีอีกเยอะ และเป็นกลุ่มที่ไม่กังวลเรื่องราคามากนัก" สมวลี ลิมป์รัชตามร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ นีลเซ็น คอมปะนี (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลตลาดผู้สูงวัย

สำหรับพฤติกรรมในการจับจ่ายใช้สอย พบว่าการซื้อของออนไลน์โตขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ ในอดีตคนกลุ่มนี้จะเน้นเก็บเงินแต่อนาคตกำลังจะเปลี่ยนไป พวกเขาเริ่มบาลานซ์วันนี้กับพรุ่งนี้ ให้ความสนใจคนในครอบครัว เปิดโลกทัศน์ตัวเองมากขึ้น ลังเลในการใช้จ่ายน้อยลง 

“เงินไม่ใช่เครื่องวัดความสำเร็จ แต่เป็นเครื่องมือในการนำมาซึ่งความสุข ความสุขของเขาคือความสำเร็จ” สมวลี ชี้จุดเปลี่ยน พร้อมแสดงทัศนะว่า หากสินค้าและบริการใดๆ ช่วยให้การดำรงชีวิตของคนกลุ่มนี้ที่ไม่ต้องพึ่งพาใครมากนัก สามารถทำได้ด้วยตัวเอง จะมีโอกาสสูง สอดคล้องกับข้อมูลในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาที่ว่า คนกลุ่มซิลเวอร์อยู่คนเดียวมากขึ้น ทั้งจากการโสดและหย่าร้างทำให้มีอิสระในการใช้ชีวิตมากขึ้น

"ธุรกิจค้าปลีก 9 แสนล้าน น้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ เป็นสินค้าที่ดีไซน์มาเพื่อคนกลุ่มนี้ เป็น Blue Ocean ปัจจุบันสินค้าที่จะช่วยเขาดูดีได้มีแค่น้ำยาย้อมผม จริงๆ เขาต้องการมากกว่านั้นเยอะ อัตราการเติบโตของสินค้ากลุ่มนี้ ออฟไลน์โต 20 เปอร์เซ็นต์ทุกปี ออนไลน์โต 95 เปอร์เซ็นต์ทุกปี ในเชิงคอนเทนท์ก็เหมือนกัน นี่คือโอกาสหลังโควิด” 

• SCG โจทย์ชัด ตลาดผู้สูงวัย

 กลุ่มธุรกิจที่ถือเป็นตัวอย่างในการพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์กลุ่มซิลเวอร์เอจ ต้องยกให้บริษัทในเครือ SCG โดยเริ่มจากความปลอดภัยในห้องน้ำ ซึ่งถือเป็นจุดอันตรายที่สุดสำหรับผู้สูงวัย

“เดิมเราทำสินค้าวัสดุก่อสร้าง ความปลอดภัยในห้องน้ำคือสิ่งสำคัญ เราพัฒนามาตลอด มีราวจับ มีขนาดเหมาะสม กระเบื้องที่ไม่ลื่น มีนักออกแบบให้บริการ พอสังคมเปลี่ยนไป เรารู้ว่าเขาไม่ได้ต้องการแค่นั้น เริ่มมีการออกแบบอุปกรณ์ต่างๆ ที่เหมาะสมกับผู้สูงวัยมากขึ้น จริงๆ แล้วสิ่งที่จะอำนวยความสะดวกความสบายให้กับซิลเวอร์เอจมันมีมากกว่านั้นเยอะ ทำให้เราคิดมาทำร้านต้นแบบ ‘ชีวิตดี’ คัดสรรสินค้าและบริการต่างๆ ที่เหมาะสมกับผู้สูงวัย พอเปิดร้าน เราคิดว่าลูกจะซื้อให้พ่อแม่ จากที่คิดว่าคนสูงวัยเป็นภาระ จะต้องป่วย จะต้องมีคนดูแล ซึ่งไม่จริงเลย เราไปเจอกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ที่เขาหาของของเขาเอง มีกำลังซื้อ อยากดูแลสุขภาพ ดูแลชีวิต ดูแลตัวเอง ออกมาเอนจอยเยอะมาก” 

วชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Living Solution Business บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด พูดถึงความต้องการของลูกค้ากลุ่มซิลเวอร์เอจว่า พวกเขาไม่ได้คิดว่าถึงวันนั้นแล้วจะไปพึ่งคนอื่น เพราะฉะนั้นต้องดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ 

"จะดูแลตัวเองยังไง ทั้งสุขภาพร่างกายจิตใจให้รับมือได้เมื่อถึงวันที่เข้าสู่ซิลเวอร์เอจ นี่เป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นแน่นอน เรายังมีอีกหลายบริการหลายสินค้าที่คัดสรรมาทำร้านชีวิตดี เราคิดถึงส่วนต่างๆ ของบ้าน อาจเป็นดีไวซ์ ถ้าล้มไปแล้วทำยังไงถึงจะให้คนมาช่วยได้ เราเริ่มหาอุปกรณ์ต่างๆ เข้ามา มีจัดกิจกรรมให้ความรู้ จัดลีลาศ เติมเต็มให้เขาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ทั้งสุขภาพกาย สุุขภาพใจและการดูแลตัวเอง” 

 

หทัยดิส มุ่งถิ่น เพจ CountUp.Life 

• แพลทฟอร์มเพื่อคนต่างวัย

ไม่ใช่แค่สินค้าอุปโภคบริโภคเท่านั้นที่มีโอกาสในตลาดใหญ่นี้ ‘คอนเทนต์’ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่มีแนวโน้มเติบโตและต่อยอดไปได้อย่างมากมาย ล่าสุด บริษัท ซิลเวอร์แอคทีฟ มองเห็นได้ผนึกกำลัง 4 สื่อออนไลน์ เป็น SILVERASTIC 4 เพื่อบุกเบิกกลุ่มธุรกิจสินค้าและบริการผู้สูงวัยอย่างครบวงจร นำโดย CountUp.Life, มนุษย์ต่างวัย, YoungHappy และ Beartai ภายใต้คอนเซ็ปต์ ร่วมสร้างสังคมพร้อมใช้ชีวิตหลังวัย 50 อย่างมีความสุข สุขภาพดี และมีพลัง

“ใครว่าอายุ 50 ต้องนั่งเหงาๆ เฉาๆ อยู่กับบ้าน เราเชื่อว่าคนในวัยนี้ยังทำอะไรได้อีกหลายอย่างที่เต็มที่กับชีวิตมากๆ ได้ ใช้เวลาทุกนาทีให้มีค่ามีความหมาย อายุเป็นตัวเลข แต่ใจสำคัญกว่า ถ้าใจมันบอกว่าใช่ ก็ไปต่อได้อีกไกล เราอยากจะเป็นแรงบันดาลใจ จุดประกายความคิดและการกระทำของคนในกลุ่มซิลเวอร์ ให้ออกมาใช้ชีวิตให้เต็มที่ในศักยภาพที่มีอยู่ในทุกมิติไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการกิน การฟิต การเที่ยว ในเพจเรามีเนื้อหาสาระ มีประเด็นสำคัญที่จะให้ทุกคนได้ติดตามเป็นแนวทางเสริมพลังให้กับตัวเองก้าวต่อไปในช่วงเวลาต่อๆ ไปของชีวิต” หทัยดิส มุ่งถิ่น กล่าวถึงสาระหลักของ CountUp.Life 

ประสาน อิงคนันท์ เพจมนุษย์ต่างวัย

ขณะที่เพจ ‘มนุษย์ต่างวัย’ พยายามทำให้คนสองเจนเนอเรชั่นได้มาใช้ชีวิตด้วยกันมากขึ้น ประสาน อิงคนันท์ เล่าถึงแนวคิดให้ฟังว่า

“เราสื่อสารสองประเด็นหลักๆ หนึ่งคือสื่อสารให้เห็นว่ายังมีกลุ่มผู้สูงอายุุที่แอคทีฟ มีความสุขออกมาใช้ชีวิต อยากมีชีวิตเป็นของตัวเอง มีผู้สูงวัยที่เป็นไอดอลสำหรับผู้สูงวัยด้วยกัน ทำให้เห็นว่าเขาอยากมีชีวิตแบบนี้ ชีวิตที่มีความสุข และทำให้คนในวัยอื่นๆ มองเห็นว่าวันหนึ่งที่เขาอายุมาก เขาอยากจะเป็นแบบนี้ สอง เรานำเสนอความเข้าใจระหว่างคนสองรุ่นว่าสามารถอยู่ร่วมกันได้ ในอนาคตสังคมไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น เราจะทำให้คนสองรุ่นอยู่ร่วมกันได้โดยแสดงความสามารถแสดงศักยภาพของตัวเองออกมา” 

ธนากร พรหมยศ เพจ YoungHappy

สำหรับ ‘YoungHappy’ อยู่ในกลุ่มธุรกิจเพื่อสังคม มีโมบายแอพพลิเคชั่นให้ผู้สูงวัยเข้าถึงบริการต่างๆ ได้ดีมากขึ้น

“YoungHappy ตั้งขึ้นมาเพื่อสร้างสังคมที่มีความสุขให้กับพี่ๆ วัยเกษียณ มีเป้าหมายให้เขาสนุกมีคุณค่าแล้วก็พึ่งพาตัวเองได้ เราทำสร้างกิจกรรมหลายๆ อย่างให้พี่ๆ สูงวัยได้มาเจอกัน มาเรียนรู้อะไรใหม่ๆ มาเป็นจิตอาสา เอาศักยภาพที่มีไปแก้ปัญหาสังคม จากการวิจัยพบว่า ร้อยละ 60 ของผู้สูงอายุที่อยู่ในเขตเมืองกำลังมีปัญหาสุขภาพใจ ป่วยใจ เพราะเขาว่าง แล้วขาดกิจกรรมทำ ขาดสังคม ขาดการใช้ศักยภาพที่ดี YoungHappy จึงมีขึ้นเพื่อให้พี่ๆ ได้เป็นพลังของสังคมอีกครั้งหนึ่ง” ธนากร พรหมยศ กล่าว 

พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ เพจ Beartai แบไต๋

อีกหนึ่งสื่อออนไลน์ที่มารวมตัวกันในครั้งนี้ ‘Beartai’ โดย หนุ่ย - พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ บอกว่า แบไต๋เป็นสื่อยุคใหม่ นำเสนอเนื้อหากระชับเข้าใจง่ายเหมาะกับคนทุกวัย 

"วัยซิลเวอร์มีทักษะในการใช้เครื่องมือดิจิตอลและสื่อออนไลน์มากขึ้นมาก ยิ่งยุคโควิด พ่อแม่ อากงอาม่า ใช้เครื่องมือเหล่านี้เก่งยิ่งขึ้นกว่ายุคไหนๆ สั่งของชอปปิงออนไลน์เป็นว่าเล่น มีของมาส่งทุกวัน เพราะคนกลุ่มนี้มีเวลาและมีกำลังซื้อ เรามีช่วง ‘สุนทรสอนเฟี้ยว’ โดย สุนทร สุจริตฉันท์ วงรอยัลสไปรท์ จะมาคุยเรื่องมือถือทำอะไรได้บ้าง ชาร์จแบตเตอรี่ยังไง ฟาสท์ชาร์จมันคืออะไร มาพูดภาษาเดียวกันให้กับกลุ่มซิลเวอร์"

 

• สุขภาพคือความมั่งคั่ง

หากใช้เกณฑ์ว่า ประชากรในประเทศมีอายุเกิน 60 ปีมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ถือได้ว่าเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ปีหน้า 2564 ประเทศไทยก็จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ 

นพ.ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการและผู้อำนวยการ BDMS Wellness Climic ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันจำนวนคนอายุ 60 ปีขึ้นไปมี 13 ล้านคน ในเอเชียมี TOP 4 คือ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไทย เกาหลีใต้ 

"เมื่อ 30 ปีที่ก่อนคนไทยมีอายุไขเฉลี่ย 50 ปี แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ผู้ชายมีอายุไขเฉลี่ย 78 ปี ผู้หญิงเกิน 80 ปี เมื่อไปดูตัวเลขคนอายุเกิน 60 ปีที่ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเลยแม้แต่โรคเดียวมี 5-10 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์รอที่จะป่วย ซึ่งถ้าอายุยืนแล้วป่วยก็เศร้าสิครับ บางคนเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตก็ลำบากทั้งครอบครัว”  

นพ.ตนุพล วิรุฬหการุญ

ด้วยเหตุนี้ คุณหมอบอกว่าปัจจุบันผู้สูงวัยได้เปลี่ยนจากการซื้อประกันชีวิตมาเป็นประกันสุขภาพกันมากขึ้น เพราะไม่อยากเป็นภาระใคร

"ทั่วโลกตอนนี้มุ่งเป้าไปที่ซิลเวอร์เอจกันหมดเลย ปีที่แล้วมูลค่าธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ กลุ่มไม่ป่วย มีมูลค่า 4.6 ล้านล้านเหรียญ พอโควิดมายิ่งหมุนมาทางนี้ไวขึ้น เมื่อก่อนเวลาเจอกันความสำเร็จก็คือ บริษัทต้องดี การเงินต้องดี ลูกหลานต้องเรียนดี แต่น้อยคนมากที่ตอบว่าอยากสุขภาพดี 

ก่อนที่จะมาเป็น Silver is The New Black จะมีกระแส Health is Wealth สุขภาพคือความมั่งคั่ง สุขภาพดีเป็นเทรนด์ใหม่ ไม่ว่าเจนไหนก็จะเข้าใจ Healthy Trend ในตอนนี้ความรู้ด้านการแพทย์ไม่ได้อยู่กับหมอคนเดียวแล้ว เด็กเดี๋ยวนี้อ่านเยอะ เรื่องกิน เรื่องออกกำลัง ใครๆ ก็เป็นกูรูด้านสุขภาพได้ เพราะเรามีอินเตอร์เน็ต คนรู้ว่าถ้าป่วยเปลืองกว่าไม่ป่วย ต้องใช้เวลาเยอะแล้วก็ไม่มีอะไหล่ กระแสเวชศาสตร์ป้องกันก็เลยมา”

ในด้านการท่องเที่ยวก็เช่นกัน จากไปเที่ยวแล้วต้องได้ไปหลายๆ ที่ เปลี่ยนมาเป็น Wellness Tourism วันหนึ่งไปแค่ 2 ที่พอ ไม่ตื่นเช้า นอนเร็ว ไม่ปาร์ตี้ บางคนโทรถามโรงแรมว่า ที่นี่มีราวจับในห้องน้ำไหม มีเครื่องปั้มหัวใจ AED ไหม เมื่อก่อนไม่มี แต่ตอนนี้มีเกือบทุกที่แล้ว อัตราการใช้จ่ายของคนกลุ่มนี้ตอนนี้มีมากกว่า 200-250 เปอร์เซนต์ และทุกประเทศพร้อมที่จะต้อนรับกลุ่มผู้สูงอายุ 

“สิ่งที่โรงพยาบาลจะต้องปรับตัวก็คือต้องให้ความรู้ว่าอย่าป่วยด้วยโรคทำเอง NCD (Non-communicable diseases ) เบาหวาน ความดัน ไขมัน โรคหัวใจ เส้นเลือดแตก เส้นเลือดตีบ เกิดจากกินชาไข่มุก กินเค้ก เราต้องลดจำนวนโรคทำเองเพื่อให้เหลือพื้นที่โรงพยาบาลไว้สำหรับโรคระบาดในอนาคต ถ้าเราไม่ช่วยกัน ลูกหลานก็จะไหลไปในทางกินจังค์ฟู้ด ไม่ออกกำลัง เป็นโรคอ้วน 

ปีที่แล้ว 2019 เมืองไทย เสียชีวิตด้วยโรค NCD จำนวน 4 แสนคน ทุกๆ ชั่วโมงมีคนตาย 37 คน ขณะที่โควิดทั่วโลกตาย 6 แสน แล้วส่วนใหญ่คนที่ตายมักมีโรคประจำตัว ประเทศไทยเป็นโรคอ้วนอันดับ 2 ของอาเซียน อันดับ 1 คือมาเลเซีย ถ้าอายุ 60 แล้วติดเตียงหมดก็จะไม่มีใครทำอะไรได้เลย แต่ถ้าทุกคน 60 แล้วไปเที่ยวได้ เป็นโอกาสให้กับกิจการต่างๆ ได้อีกมากมายถ้ามองเห็นกลุ่มเป้าหมายนี้ นี่คือกระแส Health is Wealth เพราะเราคงไม่อยากให้พ่อแม่เราติดเตียง หรือป่วยแก่ติดวีลแชร์แน่นอน”  นพ.ตนุพล กล่าวทิ้งท้าย

การตลาดผู้สูงวัย จึงถือเป็นโอกาสใหม่ๆ สำหรับธุรกิจหลังโควิดที่ชีวิตและสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ