เสน่ห์ตลาดโต้รุ่งองค์พระปฐมเจดีย์ "ถ้าอยากกินร้านอร่อย ต้องรอ...รอไหวไหม"

ถ้ากล่าวถึงตลาดโต้รุ่ง หลายคนเป็นต้องนึกถึงบรรยากาศที่วุ่นวายในร้านอาหารที่มีอยู่จำนวนมาก ซึ่งการขายอาหารลักษณะนี้ แม้จะละม้ายคล้ายจีน แต่ก็มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกัน คนไทยมีความละเมียดละไมในการกินมากกว่า แต่คำนึงถึงส่วนผสมที่มีต่อสุขภาพน้อยกว่า

ถ้าอย่างนั้น ขอเล่าถึง ตลาดโต้รุ่ง องค์พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม จะเปิดขายกลางลานกว้างๆ ในวัดพระปฐมเจดีย์ ซึ่งคนนครปฐมจะเรียกว่า โต้รุ่งองค์พระ ในช่วงหน้าฝนก็ยังขายปกติ บางร้านมีเต็นท์ไว้บริการ บางร้านก็ปล่อยให้ธรรมชาติจัดสรร ฝนหยุดค่อยกางโต๊ะให้ลูกค้านั่ง

ตลาดโต้รุ่ง องค์พระปฐมเจดีย์ จะมีเอกลักษณ์อย่างหนึ่งคือ ทุกๆ วันจะมีเสียงตามสายชวนให้ทำบุญ ขณะที่ร้านค้าต่างๆ กำลังขายอาหารต่างๆ ตั้งแต่ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ หอยทอด ทอดมัน บัวลอยแต้จิ๋ว ขนมหวาน ไอศกรีม น้ำแข็งไส ลูกชิ้นทอด ฯลฯ เริ่มขายตั้งแต่เวลา 18.00 -22.00 น. ช่วงแดดร่ม ลมตก และวันหยุดเสาร์อาทิตย์ คนต่างถิ่นจะแวะมาชิมช้อปเยอะมาก

เนื่องจากองค์พระปฐมเจดีย์มีทั้งหมดสี่ประตู หน้าพระ หลังพระ ด้านซ้าย และด้านขวา โดยก่อนหน้านี้ตลาดโต้รุ่งองค์พระ ตั้งอยู่ด้านหน้าบริเวณพระร่วงโรจนฤทธิ์ ปัจจุบันอยู่อีกด้านขวามือของพระร่วงฯ 

   

ว่ากันว่า อาหารในตลาดโต้รุ่งองค์พระปฐมเจดีย์ ไม่ได้อร่อยสุดยอด หรือไม่เหมือนใคร หากินที่ไหนไม่ได้ แต่ด้วยวิถีคนนครปฐมชอบกินอาหารนอกบ้าน และส่วนใหญ่อาหารที่ขายราคาไม่แพงเกินไป ปกติคนเมืองนี้ชอบกินเส้น ตลาดแห่งนี้ก็มีเส้นให้เลือกเยอะซะด้วย ไม่ว่าก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ ก๋วยจั๊บ ฯลฯ 

แม้เมืองนครปฐมจะไม่โดดเด่นในเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว ไม่ได้มีร้านกาแฟฮิปๆ ร้านอาหารดังๆ มากมาย แต่มีตลาดโต้รุ่งองค์พระฯ เป็นศูนย์รวมการกินของคนทุกเพศทุกวัย 

และคนที่นี่เวลาไปนั่งกินอาหารที่อื่น เจอข้าวขาหมู ข้าวหมูแดงที่หั่นชิ้นบางๆ มีไม่กี่ชิ้น จะรู้สึกหงุดหงิดมาก เพราะกินที่นครปฐมหมูเต็มจาน รอนานแค่ไหน ก็ต้องยอม

หลักๆ แล้วคนนครปฐมที่อยู่ในตัวเมืองจะเป็นคนเชื้อสายจีน และเมืองนี้เลี้ยงหมูเป็นอาชีพหลัก ฝีมือเรื่องการย่างหมู และการทำโต๊ะจีนโด่งดังแค่ไหน คงต้องบอกเล่าสักนิด เอาง่ายๆ ทำไมข้าวหมูแดงต้องกินที่นครปฐม

จุดเด่นคือ การย่างหมูให้นุ่มอร่อย กรอบ หอม และเคี่ยวน้ำซอสข้าวหมูแดงให้ได้ที่

ร้านข้าวหมูแดงที่คนนครปฐมกินเป็นอันดับแรกๆ คือ ร้านฉั่ว ตลาดล่าง ใกล้ๆ ร้านรองเท้า ปกติจะมีคนยืนรอคิวไม่ต่ำกว่าสิบยี่สิบคน จะรอนานมาก หากใครใจร้อน อย่าริอาจไปกินร้านนี้เชียว เป็นร้านที่ขายในช่วงกลางวัน ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวที่มีพ่อแม่ลูกมาช่วยกันขาย

ก่อนจะเล่าถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยประวัติศาสตร์เมือง คงต้องเล่าถึงความโดดเด่นการสร้างสรรค์อาหารสไตล์คนนครปฐม เหมือนที่เล่าค้างไว้ว่า ในตลาดโต้รุ่งองค์พระฯ มีกว่าร้อยร้าน และส่วนใหญ่ขายมาหลายสิบปี

ถ้าอยากรู้ว่า บัวลอยแต้จิ๋วทั้งร้อนและเย็น (คนส่วนใหญ่เรียกว่า เต้าทึงร้อน เต้าทึงเย็น) อร่อยกว่าที่อื่นอย่างไร ต้องชิมร้านนี้ ในเรื่องการเคี่ยวน้ำตาล ขอยกนิ้วให้ เป็นอีกร้านที่คนต่อคิวเยอะมาก แต่ถ้าไม่อยากเสียเวลา ขอแนะว่า หยิบบัตรคิวแล้วไปชิมร้านอื่นก่อน ค่อยกลับมารับของ

ถ้าสายเปรี้ยว ชอบมะม่วงน้ำปลาหวาน ต้องร้านระฆังทอง อร่อยแน่นอน ในตลาดโต้รุ่งมีร้านน้ำปลาหวานสองร้าน อีกร้านป้าติ๋มน้ำปลาหวาน รสชาติน้ำปลาหวานจะอ่อนกว่าเล็กน้อย ถ้าชอบรสชาติกลมกล่อมได้ที่ ต้องร้านแรก แต่ไม่ถึงกับจี๊ดจ๊าด

คงต้องยอมรับว่า การทำอาหารเป็นเรื่องของรสมือ และความคิดสร้างสรรค์อย่างหนึ่งที่เลียนแบบไม่ได้ เคยกินบะหมี่มาหลายสิบร้าน ถ้าใครคิดว่า รอไหว ร้านบะหมี่เกี๊ยวจอนยาว ที่ตอนนี้เป็นรุ่นลูกขาย บะหมี่ทำเอง หมูย่างนุ่ม น้ำซุปอร่อย แต่รอไหวไหม

ส่วนร้านหอยทอด ทั้งสี่ร้าน ก็ฝีมือใกล้เคียงกัน ไม่ว่าร้านนายผอม นายอ้วน คิ้ม และร้านช.CHOR'S ก็อยู่ที่ว่า ร้านนี้แป้งกรอบไป แป้งนุ่ม หอยน้อย ถั่วงอกดิบสุก  แต่ที่เด่นๆ คือ ออส่วนกระทะร้อน อย่างที่บอกราคาไม่สูงเกินเอื้อม 

ถ้าเป็นราดหน้า ต้องร้านจั๊ว ราดหน้ายอดผัก ,โตราดหน้า และมีอีกร้าน (จำชื่อไม่ได้)

ส่วนขนมครก ถ้าต้องการรสชาติดั้งเดิม ต้องในตลาดโต้รุ่ง มีสองร้านด้วยกัน คือแม่สงัด และอีกร้านลุงแว๊บ ขายมาหลายสิบปีแล้ว ส่วนอีกร้านเพิ่งโด่งดัง ตั้งอยู่บนถนนซ้ายพระ หน้าธนาคารธนชาติ มีการสร้างสรรค์สไตล์ใหม่ ทั้งสีสันขนมครกและสไตล์คนขาย ชื่อร้านเจ๊แขกแหกปาก ถ้าจะกิน ต้องคิดก่อนว่า รอไหวไหม

เหล่านี้คือ ความคิดสร้างสรรค์ที่ยังมีอีกเยอะ แต่ขอวกมาเรื่องประวัติศาสตร์สักนิด เพราะนครปฐมเป็นเมืองที่คนเดินทางผ่านมา แล้วก็ผ่านไป แวะไหว้พระร่วงโรจนฤทธิ์นิดหนึ่ง กินข้าวหมูแดงแล้วก็ไป

ว่ากันว่า ก่อนที่ นครปฐม จะกลายเป็นชื่อจังหวัด เคยเป็นชื่อเมืองมาก่อน เป็นเมืองโบราณตั้งแต่สมัยทวารวดี เป็นแหล่งเผยแพร่พุทธศาสนาแห่งแรกในประเทศไทย มีปูชนียสถานที่มีคนเลื่อมใสศรัทธาตั้งแต่ยุคทวารวดี คือ พระปฐมเจดีย์

พระปฐมเจดีย์องค์ปัจจุบัน ทรงระฆังสูงจากพื้นดินถึงยอด 226.85 เมตร เป็นเจดีย์ที่สร้างครอบพระปฐมเจดีย์องค์เดิม เริ่มปฏิสังขรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 6 ทรงมีพระราชศรัทธาในองค์พระปฐมเจดีย์ เคยให้มีการบูรณะและตกแต่งโดยรอบ โปรดให้หล่อพระพุทธรูปเก่าจากเมืองศรีสัชนาลัย ซึ่งเหลือแต่พระเศียร พระหัตถ์ และพระบาท ให้เป็นองค์สมบูรณ์พุทธลักษณะปางห้ามญาติ ศิลปะสุโขทัย ประดิษฐานที่พระวิหารด้านทิศเหนือของพระปฐมเจดีย์ ปัจจุบันเรียกว่า พระร่วงโรจนฤทธิ์

ถ้ามานครปฐม แล้วไหว้พระร่วมโรจนฤทธิ์ เย็นย่ำ แดดร่ม ลมตก ฝนไม่ตก ลองแวะมากินอาหารในตลาดโต้รุ่งองค์พระปฐมเจดีย์ แล้วจะรู้ว่ารสมือและความคิดสร้างสรรค์แบบเดิมๆ ในเรื่องอาหารการกินของคนนครปฐม ไม่เป็นรองใครเลย