ชวนเสนอชื่อ "ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้าฯ" ครูเปลี่ยนศิษย์

ชวนเสนอชื่อ "ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้าฯ" ครูเปลี่ยนศิษย์

มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ร่วมกับ ศธ.มท.กสศ. ชวนเสนอชื่อ "ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี" ครั้งที่ 4 ครูผู้ใช้ทั้งชีวิตเปลี่ยนแปลงลูกศิษย์และมีคุณูปการต่อวงการศึกษา ชี้บทบาทครูสำคัญช่วยลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ

วานนี้( 25 ส.ค.) ที่อาคารคุรุสภา มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และกระทรวงมหาดไทย แถลงข่าวเปิดตัวการสรรหาครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่4

ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานคณะกรรมการมูลนิธิ รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี กล่าวว่า รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เป็นรางวัลเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงพระปรีชาและทรงมีคุณูปการอย่างยิ่งต่อการศึกษาทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

รางวัลพระราชทานระดับนานาชาติเพื่อเชิดชูเกียรติครูดีเด่นในอาเซียนและติมอร์-เลสเต 11 ประเทศ ดำเนินการโดยมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ร่วมกับคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ กสศ. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพมหานคร หน่วยงานรัฐ เอกชน และภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะมีการคัดเลือก ประเทศละ 1 คน เป็นเวลา 2 ปีครั้ง

159836827569

การคัดเลือกครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 4 มีกำหนดพระราชทานรางวัลในวันที่ 29 ตุลาคม 2564 ระหว่างนี้ประเทศไทยและประเทศในอาเซียนและติมอร์-เลสเต กำลังคัดเลือกครูผู้มีผลงานดีเด่นและสร้างคุณประโยชน์ต่อการศึกษา สำหรับประเทศไทยได้กำหนดคุณสมบัติเฉพาะของครูคือ การเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตลูกศิษย์และมีคุณูปการต่อวงการศึกษา โดยเป็นหรือเคยเป็นครูผู้สอนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในสถานศึกษาทุกสังกัด ซึ่งรวมถึงครูนอกสถานศึกษาที่สอนผู้เรียนในวัยการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีประสบการณ์สอนอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 15 ปี และปฏิบัติงานสอนหรืองานด้านการศึกษาอยู่จนถึงวันรับพระราชทานรางวัล

ดร.กฤษณพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้มีสิทธิ์เสนอชื่อครู แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก ศิษย์เก่าอายุ 25 ปีขึ้นไป สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน องค์กรนิติบุคคลและมีภารกิจส่งเสริมการเรียนรู้ และคณาจารย์ที่เคยเป็นผู้สอนครู เสนอชื่อครูได้ที่คณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด กลุ่มที่ 2 องค์กรภาครัฐและเอกชนมีการคัดเลือกครูระดับประเทศเสนอชื่อครูมาที่คณะกรรมการคัดเลือกส่วนกลาง

จากนั้นจะมีการคัดเลือกและลงพื้นที่เพื่อพิจารณาครูผู้สมควรได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เพียง 1 คนของประเทศไทย และเนื่องจากการคัดเลือกมาจากสุดยอดครูของแต่ละจังหวัด มูลนิธิฯ จึงมอบรางวัลครูขวัญศิษย์ ซึ่งมาจากสุดยอดครูของจังหวัด รางวัลครูยิ่งคุณ 17 คน และรางวัลคุณากร 2 คน เพื่อให้สังคมร่วมกันเห็นคุณค่าและเชิดชูครูผู้ทุ่มเทเปลี่ยนแปลงชีวิตลูกศิษย์ตลอดทั้งชีวิตของความเป็นครู

159836828081

"โจทย์ท้าทายการทำงานของครูและการเรียนรู้ของผู้เรียนในยุค New Normal ที่กำลังเกิดขึ้น คือการเผชิญกับดิจิทัลดีรัปชั่น ที่โควิด-19 เป็นตัวเร่งให้เร็วขึ้น ครูต้องปรับตัวเร็วเช่นการสอนออนไลน์ การสอนที่ถูกกำหนดด้วย social distancing การช่วยเด็กที่ครอบครัวช่วยไม่ได้ บังคับให้ครูต้องปรับให้ทันกับเทคโนโลยีและเหตุการณ์ เหตุการณ์โควิดจะเป็นตัวเร่งการเปลี่ยนแปลงให้เร็วขึ้น คนถูกบีบให้ต้องกักตัว ดิจิตอลเทคโนโลยีจึงเข้ามาทดแทน รวมถึงความยากจนและความเหลื่อมล้ำที่มีแนวโน้มสูงขึ้น"” ดร.กฤษณพงศ์ กล่าว

จากข้อมูลเบื้องต้นของ กสศ. พบว่าจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบทางลบให้จำนวนนักเรียนยากจนพิเศษเพื่อจัดสรรทุนเสมอภาคถึง 1.8 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 17.5% สะท้อนให้เห็นว่าครัวเรือนยากจนและเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน บทบาทของครูจึงมีส่วนช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กเยาวชน  เพื่ออุดช่องว่างของการไม่ได้เรียนหนังสือเต็มที่ตามปรกติ  ความยากจนที่เพิ่มของครอบครัว เพิ่มความเหลื่อมล้ำ

159836831466

ที่ผ่านมามูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ได้สร้างพื้นที่การทำงานร่วมกันระหว่างครูไทยและครูในอาเซียน-ติมอร์เลสเต ผ่านเวทีวิชาการนานาชาติ การประชุมแลกเปลี่ยนการทำงานผ่านระบบออนไลน์ถึงรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบใหม่ที่ทั่วโลกต้องเผชิญ การส่งเสริมศักยภาพครูให้มีความฉลาดรู้ดิจิตัล (Digital literacy) การถอดบทเรียนจากประสบการณ์การทำงานของสุดยอดครู การสร้างจิตวิญญาณความเป็นครูให้กับครูรุ่นใหม่ รวมถึงการต่อยอดการทำงานของครูผู้ทุ่มเทในกลุ่มเด็กเยาวชนที่ขาดโอกาส  เพราะมากกว่าการคัดเลือกครูคือการสร้างพลังเครือข่ายการทำงานของครูในอาเซียนและติมอร์เลสเต ที่ส่งผลถึงลูกศิษย์ เพื่อนครู โรงเรียน และคุณภาพการศึกษา

นายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กลไกของคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด ซึ่งมาจากหน่วยงานภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และภาคสื่อมวลชน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน ศึกษาธิการจังหวัดเป็นเลขานุการ มีส่วนสำคัญในการสร้างความร่วมมือทุกภาคส่วนในสังคม เพื่อร่วมกันค้นหาครูที่มีจิตวิญญาณในการเปลี่ยนแปลงชีวิตลูกศิษย์และมีคุณูปการต่อวงการศึกษาในทุกจังหวัด จึงขอเชิญชวนร่วมกันส่งรายชื่อครูมาที่คณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด และเป็นปีแรกที่เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถมีส่วนร่วมในการเสนอชื่อได้ โดยส่งเรื่องราวของครูมาที่ www.PMCA.or.th โดยระบบจะส่งข้อมูลเพื่อแจ้งเบาะแสครูที่ดีให้กับคณะกรรมการจัดหวัดในการค้นหาครูต่อไป

นายอนุชิต วัฒนาพร อาจารย์คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย กล่าวว่า ได้แบบอย่างความเป็นครูจากครูปราณี วิจิตรโชติ ครูขวัญศิษย์ ปี 2558 ผู้ถ่ายทอดความมีวินัย ความเป็นระเบียบ ท่านเข้มงวดโดยใช้คำพูดให้อยู่ในร่องในรอยของการเรียน แต่ไม่เคยเห็นท่านใช้กำลังลงโทษเด็กซึ่งตรงนี้สำคัญมากที่ลูกศิษย์จะกล้าเข้าหาครูอย่างไม่กลัว ท่านดูแลลูกศิษย์ทุกคนอย่างเท่าเทียม และเมื่อครูปราณีได้มาเป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัยเพื่อสร้างแรงบันดาลใจของความเป็นครูให้กับครูรุ่นใหม่ก็รู้สึกประทับใจว่านี่คือครูของเรา สิ่งที่ตนได้จากครูปราณีและจะสร้างครูรุ่นต่อไปคือครูต้องมีอุดมการณ์ พัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลาเพื่อพัฒนาลูกศิษย์ ใช้ความรักนำและวิธีการจัดการศึกษาค่อยตามมา

159836829741

159836830079