"ไทยโอซูก้า" ส่ง “วันซ์ คอมพลีท” รุกตลาดอาหารทางการแพทย์

สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ชีวิตประจำวันเปลี่ยนไป คนไทยตื่นตัวหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น เช่น การออกกำลังกาย อยู่ในที่อากาศบริสุทธิ์ และดูแลสุขภาพ ดังนั้น แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ยังมีการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ เช่น วิตามิน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมถึงอาหารทางการแพทย์ซึ่งถูกวิจัยและพัฒนา เพื่อดูแลสุขภาพโดยตรง เสริมให้ร่างกายแข็งแรง และมีภูมิคุ้มกันโรคที่ดี

เพราะอาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่สำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ การทานอาหารให้ครบถ้วนช่วยให้มีสุขภาพแข็งแรง และป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ แต่ด้วยวิถีชีวิตที่เร่งรีบทำให้การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วนน้อยลง รวมถึงผู้ป่วยที่ไม่สามารถทานอาหารได้ ส่งผลให้เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะทุพโภชนาการ ดังนั้น การเสริมสารอาหารด้วยผลิตภัณฑ์ ที่เชื่อถือได้จึงเป็นทางเลือกในยุคนี้

ชินสึเกะ ยุอาสะ ประธานบริษัท ไทยโอซูก้า จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ชีวิตประจำวันเปลี่ยนไป คนไทยตื่นตัวหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น เช่น การออกกำลังกาย อยู่ในที่อากาศบริสุทธิ์ และดูแลสุขภาพ ดังนั้น แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ยังมีการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ เช่น วิตามิน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมถึงอาหารทางการแพทย์ซึ่งถูกวิจัยและพัฒนา เพื่อดูแลสุขภาพโดยตรง เสริมให้ร่างกายแข็งแรง และมีภูมิคุ้มกันโรคที่ดี

สำหรับมูลค่าตลาดรวมของ “อาหารทางการแพทย์” เติบโตประมาณ 20% คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 3,000 ล้านบาท หรือเติบโต 2 ดิจิททุกปี ต่อเนื่องเป็น 10 ปี ถือเป็นขาขึ้นของอาหารทางการแพทย์ แสดงให้เห็นว่าคนไทยมีเทรนด์ที่ดูแลสุขภาพมากขึ้น

ขณะที่ภาพรวมธุรกิจบริษัทฯ เติบโต 5% ในปีที่ผ่านมา ขณะที่ ครึ่งปีแรกปี 2563 แบ่งเป็น ยอดขายจากเวชภัณฑ์ยา 67% เครื่องมือแพทย์ 3% และ อาหารทางการแพทย์ 30%

เภสัชกร วัฒนชัย อิสระเสนารักษ์ผู้อำนวยการส่วนงานธุรกิจ น้ำเกลือและอาหารทางการแพทย์บริษัท ไทยโอซูก้า จำกัด กล่าวเสริมว่า หลังโควิด-19 เห็นแนวโน้มตลาดยาลดลง แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้น คือ อาหารทางการแพทย์ เป็นเทรนด์ที่คนหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น รวมถึงออกกำลังกาย มองหาสิ่งที่ทำให้ชีวิตยืนยาว และรูปร่างดีขึ้น ดังนั้น อาหารทางการแพทย์จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยเสริม เนื่องจากมีทั้งโปรตีน แร่ธาตุ คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินครบถ้วนในการดำรงชีพ

ถึงแม้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทฯ ยังคงมีอัตราการเติบโตในภาพรวมของธุรกิจไปในทิศทางบวก และคาดว่าจะสามารถขยายธุรกิจอาหารทางการแพทย์ได้ถึง 15% ในปีนี้เพราะมีโรงงานผลิตเอง มีแผนกวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีการค้นคว้างานวิจัยใหม่ๆ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ออกมาเหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มให้มากที่สุดได้ 

ทั้งนี้ บริษัท ไทยโอซูก้า จำกัด ถือเป็นบริษัทร่วมทุนนอกประเทศญี่ปุ่นแห่งแรกของกลุ่มโอซูกะ ดำเนินธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา รวมทั้งคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลากว่า 47 ปีล่าสุดคิดค้นผลิตภัณฑ์ “วันซ์ คอมพลีท” (ONCE COMPLETE) ขึ้นทะเบียนเป็นอาหารทางการแพทย์ โดยทำการทดสอบเน้นไปที่ผู้ป่วย เป้าหมายหลัก คือ ผู้ป่วยทั่วไปที่รับสารอาหารไม่เพียงพอ ทาน 1 แก้ว จะได้สารอาหารครอบคลุมมากกว่านม หรือ น้ำเกลือคนทั่วไปจึงสามารถทานได้ทั้งดื่มเสริม หรือทดแทนมื้ออาหาร ยกเว้นคนที่แพ้นมวัวควรงดดื่ม

อาหารทางการแพทย์ชนิดนี้ จะช่วยเติมเต็มความต้องการสารอาหาร ด้วยโปรตีนคุณภาพดีจากเวย์โปรตีนไอโซเลทให้กรดอะมิโน, น้ำมันเอ็มซีทีช่วยให้พลังงาน, โอเมก้า 3,6,9 , และมีใยอาหารช่วยระบบขับถ่ายช่วยให้ผู้ป่วยที่ลำบากในการทานอาหาร ซึ่งเสี่ยงต่อการมีภาวะทุพโภชนาการได้รับสารอาหารครบถ้วน

• เมื่อร่างกายขาดสารอาหาร

ปัญหาภาวะทุพโภชนาการของคนไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี สาเหตุสำคัญประการหนึ่งคือ การขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องภาวะทุพโภชนาการ ผศ.นพ. กุลพงษ์ ชัยนามโรงเรียนแพทย์รามาธิบดี สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายถึง สัญญาณที่บ่งบอกว่าร่างกายอาจจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอมี 7 อย่าง ได้แก่

1. รู้สึกอ่อนเพลีย อาการอ่อนเพลียเป็นอาการแสดงที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของร่างกายได้ในหลายระบบ เช่น ระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจ ระบบต่อมไร้ท่อ ระบบเลือด ระบบประสาท โรคติดเชื้อ เป็นต้น อย่างไรก็ตามอาการอ่อนเพลียอาจเป็นอีกสัญญาณที่บอกว่าร่างกายได้รับพลังงานไม่เพียงพอ เพราะการทำงานของระบบอวัยวะต่าง ๆ นั้นต้องการพลังงานที่ได้รับจากอาหารเป็นหลัก

2. เจ็บป่วยง่าย และฟื้นตัวช้า โปรตีนมีส่วนสำคัญในระบบภูมิคุ้มกัน การเจริญเติบโต และการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอไปของร่างกาย การที่ร่างกายเจ็บป่วยง่ายบ่งบอกว่าร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรง ซึ่งการรับประทานโปรตีนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายอาจทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง นอกจากนี้หากเจ็บป่วยผู้ป่วยที่รับประทานโปรตีนไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายจะหายจากโรคหรือจากการติดเชื้อช้า และการฟื้นตัวของร่างกายต้องใช้เวลานานกว่าจะกลับมาเหมือนปกติเมื่อเทียบกับคนทั่วไป

3. ท้องผูก นอกจากสาเหตุจากความผิดปกติของลำไส้ใหญ่และปัญหาทางพฤติกรรมการขับถ่ายแล้ว การรับประทานอาหารที่มีกากใยไม่เพียงพอและการดื่มน้ำน้อยก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ท้องผูก กากใยอาหารทั้งชนิดที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำมีส่วนช่วยให้อุจจาระเป็นก้อน อ่อนนุ่ม และขับถ่ายง่าย นอกจากนี้กากใยอาหารยังมีส่วนช่วยทำให้จุลินทรีย์ในลำไส้มีชนิดและจำนวนที่เหมาะสม ซึ่งทำให้การขับถ่ายเป็นปกติ ป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ และลดการเกิดโรคในระบบอื่น ๆ อีกมากมาย

4. ผมร่วง สาเหตุหนึ่งของผมร่วงคือรากผมและเส้นผมไม่แข็งแรง ซึ่งอาจจะเกิดจากการขาดสารอาหาร ได้แก่ โปรตีน กรดไขมันจำเป็น สังกะสี ธาตุเหล็ก ไนอะซิน (วิตามินบี 3) ไบโอติน และซีลีเนียม ผมร่วงจึงเป็นสัญญาณหนึ่งที่สำคัญของการได้รับสารอาหารเหล่านี้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

5. แผลหายช้า กระบวนการสมานแผลของร่างกายประกอบไปด้วย กระบวนการอักเสบ กระบวนการงอกของเส้นเลือดและเนื้อเยื่อ และกระบวนการตกแต่งบาดแผล ซึ่งต้องอาศัยสารอาหาร ได้แก่ โปรตีน กรดไขมันจำเป็น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี และสังกะสี การขาดสารอาหารเหล่านี้ทำให้กระบวนการอักเสบยาวนานขึ้น และ ความสามารถในการสร้างคอลาเจน เส้นเลือดและเนื้อเยื่อพังผืดลดลง ส่งผลให้แผลหายช้า

6. ขี้หนาว อาการขี้หนาวเป็นอีกสัญญาณหนึ่งของการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งมีสาเหตุสำคัญ ได้แก่ การมีชั้นไขมันใต้ผิวหนังน้อยทำให้ไม่สามารถทนต่ออุณหภูมิที่ต่ำลงได้ การได้รับพลังงานจากสารอาหารไม่เพียงพอทำให้ร่างกายไม่สามารถสร้างความอบอุ่นได้เมื่อเจออากาศเย็น และการขาดสารอาหารจำพวกธาตุเหล็ก โฟเลต และวิตามินบี 12 ซึ่งทำให้เกิดภาวะซีดและรู้สึกหนาวได้ง่าย

7. สมาธิสั้น สมาธิจะเกิดขึ้นได้เมื่อสมองได้รับสารอาหารเพียงพอ สารอาหารที่เป็นแหล่งพลังงานหลักของเซลล์สมอง คือ น้ำตาล การรับประทานพลังงานไม่เพียงพอโดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรตจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ทำให้เซลล์สมองมีพลังงานไม่เพียงพอ นอกจากนี้ระดับน้ำตาลที่ต่ำลงจะกระตุ้นในรู้สึกหิว อารมณ์หิวหรือความอยากจะทำให้ความจดจ่อต่องานที่ทำลดลง

หากพบว่ามี สัญญาณเตือนอย่างใดอย่างหนึ่งใน 7 อย่างนอกจากการไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคที่ทำให้เกิดความผิดปกติดังกล่าวแล้ว จึงควรใส่ใจดูแลการรับประทานอาหารในแต่ละวันให้ครบ 5 หมู่ และมีชนิดของอาหารที่หลากหลาย เพื่อที่จะได้รับพลังงานและสารอาหารครบถ้วนตามความต้องการของร่างกาย

อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถหาอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน หรือมีภาวะที่ไม่สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ ทำให้ได้สารอาหารไม่เพียงพอแก่ความต้องการของร่างกาย การดื่มอาหารเสริมที่เป็นอาหารปั่น หรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมทางการแพทย์ ก็อาจเป็นทางเลือกที่ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอต่อความต้องการ