รีสอร์ทนักรักษ์ ‘เขาหลัก เมอร์ลิน’
ชวนคนรู้ใจไปเช็คอินที่ "เขาหลัก เมอร์ลิน รีสอร์ท" ที่พักรักษ์โลกใน "เขาหลัก" จังหวัดพังงา ความสุขในวันพักผ่อนที่แวดล้อมด้วยป่าไม้ ภูเขา และท้องทะเลอันเงียบสงบ
“ธรรมชาติจะเยียวยาทุกสิ่ง” ...คำกล่าวนี้ไม่เกินจริงเลยเมื่อเราได้มาพักผ่อนในอ้อมกอดธรรมชาติ ณ ที่พักรักษ์โลก อย่าง เขาหลัก เมอร์ลิน รีสอร์ท จังหวัดพังงา
บนชายหาดสีทองที่ทอดยาวสุดสายตา เบื้องหน้าคือจุดบรรจบของขอบฟ้ากับท้องทะเล ส่วนด้านหลังคือรีสอร์ทซึ่งซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าเนินเขาอันอุดมสมบูรณ์ ที่นี่คุณไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่าง ‘ภูเขา’ หรือ ‘ทะเล’ แค่เตรียมใจมาหลง ‘รักษ์’ ก็พอ
แม้จะเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 หรือก่อนเหตุการณ์สึนามิเพียง 1 ปี แต่นับจนถึงวันนี้ ‘เขาหลัก เมอร์ลิน’ ก็ยังคงรักษาสภาพธรรมชาติแบบเดิมๆ ของพื้นที่เขาหลักไว้ได้อย่างดี
“เราเป็นโรงแรมแรกๆ บริเวณเขาหลัก โชคดีมากที่ตัวโรงแรมติดเขาก็เลยไม่ได้รับผลกระทบมากตอนสึนามิ ตอนนั้นพอเห็นน้ำเริ่มลดและคลื่นมาแต่ไกล ผู้จัดการโรงแรมก็บอกแขกว่าให้รีบขึ้นไปอยู่ที่ล็อบบี้ซึ่งอยู่บนเขา เลยไม่มีใครเสียชีวิต แต่สิ่งก่อสร้างพวกพูลวิลล่าต่างๆ ร้านอาหารบริเวณใกล้ชายหาด โดนคลื่นซัดไป ดีที่ป่าในโซนเขายังอุดมสมบูรณ์”
ชานน วงศ์สัตยนนท์ ผู้บริหาร 'เขาหลัก เมอร์ลิน รีสอร์ท' เล่าถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้รีสอร์ทแห่งนี้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ว่าเป็นเพราะผู้บริหารในเจเนอเรชั่นก่อนต้องการรักษาความเป็นป่าไว้ให้ได้มากที่สุด
“ตอนที่สร้างโรงแรม บริเวณเขาหลักยังค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ คุณพ่อคุณแม่และญาติๆ รู้สึกว่าเสียดายถ้าจะต้องตัดต้นไม้ เขาก็เลยสร้างตัวอาคาร โดยพยายามรักษาต้นไม้ไว้มากที่สุด สังเกตดูว่าต้นไม้ใหญ่ๆ จะมีอยู่ทุกจุดเลยในโรงแรม ทาง Big Trees เคยมาดูและคอนเฟิร์มว่าแต่ละต้นอายุมากกว่า 50 ปีทั้งนั้น ส่วนจะเกินร้อยปีมั้ยต้องพิสูจน์กันอีกที”
นอกจากจะโชคดีที่ตอนสึนามิถล่มชายฝั่งอันดามัน ต้นไม้เหล่านี้ไม่ได้รับความเสียหาย ความตั้งใจในการดูแลระบบนิเวศภายในโรงแรมก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ที่นี่เปรียบเสมือนโอเอซิสกลางเขาหลัก ความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่น้อย ธารน้ำที่ไหลวนอยู่ทั่วบริเวณ ช่วยทำให้อากาศเย็นสบายไม่อบอ้าวแม้ในวันที่ร้อนระอุ ขณะที่ตัวอาคารถูกออกแบบให้สอดรับกับธรรมชาติ โดยมีหาดทรายและเกลียวคลื่นเติมเต็มวันพักผ่อนได้อย่างลงตัว
“ตัวสถาปัตยกรรมเป็นสไตล์ไทย เน้นความกลมกลืนกับธรรมชาติ ทั้งวัสดุ สี และการตกแต่ง ส่วนสระว่ายน้ำเราก็พยายามสร้างให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของป่า มีน้ำตก มีโขดหินอะไรต่างๆ เพื่อให้รู้สึกเหมือนลำธารในป่า” ชานน บอกและว่าการรักษาสภาพป่ามีต้นทุนสูงก็จริง แต่คุ้มค่า
“การดูแลรักษามันมีความลำบากอยู่ 2 จุด อย่างแรกคือต้องใช้น้ำปริมาณมหาศาล อีกอย่างคือ เวลาที่มีกิ่งไม้หักหล่นลงมามักจะสร้างความเสียหายให้กับหลังคา ทำให้ต้องซ่อมแซมบ่อย เราก็ต้องมาจัดการความเสี่ยงตรงนี้ ต้องตัดแต่งตลอด
ส่วนเรื่องการดูแลรดน้ำต้นไม้ในพื้นที่ใหญ่ขนาดนี้ เราก็มีระบบบำบัดน้ำเสียอยู่ภายในโรงแรม อันนี้เป็นคอนเซ็ปต์ตั้งแต่เริ่มแรก โดยมีการวางระบบให้น้ำหลังการบำบัดแล้วไหลวนไปตามลำธารรอบโรงแรม ซึ่งตอนนี้เป็นบ่อเลี้ยงปลา เป็นพื้นที่ที่มีระบบนิเวศครบ มีความอุดมสมบูรณ์ จากนั้นน้ำในลำธารก็จะไหลลงสู่บ่อมรกต ซึ่งเราสูบน้ำมารดน้ำต้นไม้อีกที ช่วยประหยัดน้ำได้มาก”
ในฐานะเจเนอเรชั่นที่สามที่เข้ามาช่วยบริหารจัดการ เขามองว่าแนวคิดในเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติที่คนรุ่นก่อนได้ออกแบบไว้ เป็นสิ่งที่มีประโยชน์และสามารถต่อยอดในการนำเสนอได้หลากหลาย จึงได้เริ่มสร้างความร่วมมือกับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น Big Trees หรือมูลนิธิ Love Wildlife
“เกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพภายในโรงแรม เราพบเห็นสัตว์หลายชนิดตั้งแต่นกต่างๆ กิ้งก่าบิน ไปจนถึงสัตว์หายากอย่างนางอาย ก็เลยให้ Love Wildlife มาสำรวจสัตว์ที่อาศัยอยู่ในโรงแรม พบกว่า 100 ชนิด เราทำโครงการร่วมกันเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศ รวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพทั้งหมด ซึ่งเป็นที่มาของป้ายให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในโรงแรม”
ดังนั้น นอกจากจะมาพักผ่อนสบายๆ นั่งกินลมชมวิวกันแล้ว ยังสามารถเดินชมนกชมไม้ในเส้นทางที่เหมือนป่าขนาดย่อม โดยมีกิจกรรมแสตมป์แรลลี่ ‘Khaolak Merlin Explorer’ ให้ได้สนุกกับการออกสำรวจสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ที่ระบุไว้ในป้ายข้อมูล ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 11 จุด ใครแสตมป์ได้ครบจะได้รับประกาศนียบัตรเป็นที่ระลึก
“ตอนนี้เรากำลังทำกิจกรรมแนวสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น โดย Love Wildlife จะเทรนนิ่งให้พนักงานมีความรู้เกี่ยวกับสัตว์ในโรงแรม จะได้พาแขกสังเกตสัตว์ หรืออาจจะเป็นไนท์ทัวร์โดยเราจะใช้ไฟฉายสีแดงเพื่อส่องดูนางอาย ไฟสีแดงนี้จะไม่ทำให้นางอายตกใจ เป็นเซอร์เวย์ที่ไม่ได้รบกวนมันมากเกินไป”
สำหรับใครที่ชอบกิจกรรมทางน้ำ ที่นี่มีเรือคายัคและแพดเดิ้ลบอร์ดไว้คอยบริการ แต่ถ้าต้องการผ่อนคลายร่างกายจากความเหนื่อยล้า ‘สปา’ ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
ในส่วนของห้องพักมีทั้งหมด 236 ห้อง บนพื้นที่กว่า 30 ไร่ แบ่งเป็นซูพีเรีย เดอลักซ์ และพูลวิลล่า แตกต่างกันไปตามพื้นที่ใช้สอยและการตกแต่ง เริ่มจาก SUPERIOR, SUPERIOR FAMILY, SUPERIOR POOL ACCESS, DELUXE NATURAL, DELUXE MODERN, DELUXE FAMILY, DELUXE POOL ACCESS, ONE BEDROOM POOL VILLA และ TWO BEDROOM POOL VILLA ทุกห้องจัดเตรียมสิ่งอำนวยสะดวกไว้ให้ครบ มีห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วน พร้อมอ่างอาบน้ำและเรนชาวเวอร์ ห้องอาหารมีทั้งวิวสวน TROPICAL GARDEN และวิวทะเลที่ VERANDA BEACHSIDE เลือกอิ่มอร่อยได้ตามรสนิยม
“ตอนนี้เราพยายามลดขยะพลาสติกอย่างเต็มที่ หลอดจะใช้เท่าที่จำเป็นและเป็นหลอดกระดาษ ส่วนของใช้ในห้องพักก็จะเป็นขวดแบบรีฟิล เพราะขวดพลาสติกเล็กๆ สร้างขยะเยอะมาก ถุงพลาสติก เราพยายามใช้ถุงผ้าแทน พยายามลดแพ็คเกจที่เป็นพลาสติก” ชานน ยืนยันความตั้งใจที่จะทำให้รีสอร์ทแห่งนี้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด แม้ว่าในสถานการณ์โควิด-19 ลูกค้ากลุ่มหลักจะหายไปจนหมดก็ตาม
“ก่อนโควิด แขกที่มาพักจะเป็นยุโรปเป็นหลัก เยอรมัน อังกฤษ สแกนดิเนเวีย กลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับธรรมชาติมาก การที่โรงแรมเรารับได้รับรางวัล Travelife Gold Certified for Accommodation Sustainability หรือการดำเนินธุรกิจโรงแรมที่นำไปสู่ความอย่างยั่งยืน ก็ทำให้ได้แขกกลุ่มนี้เยอะ เพราะเขารู้สึกว่าธรรมชาติเป็นสิ่งที่ทำให้ผ่อนคลาย แต่หลังจากการระบาดของโควิด ก็เริ่มมีคนไทยเข้ามามากขึ้น เราพยายามให้คนไทยรู้สึกตื่นตัวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่มี”
นอกจากจะเป็นคอนเซ็ปต์รีสอร์ทที่ตอบโจทย์เรื่องการอนุรักษ์แล้ว ในเรื่องของความสะดวกสบายและมาตรฐานด้านสุขอนามัย รวมถึงการให้บริการก็น่าประทับใจเช่นกัน ที่สำคัญในช่วงนี้ทางโรงแรมยังร่วมโครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ถือเป็นโอกาสดีๆ ที่คนไทยจะได้เข้าพักในรีสอร์ทติดดาวในราคาติดดิน
สำหรับการเดินทาง จากสนามบินภูเก็ตถึงเขาหลักเมอร์ลินใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ใครที่ชอบขับรถเที่ยว ทางโรงแรมร่วมกับผู้ให้บริการรถเช่าสนามบินภูเก็ต มอบส่วนลดพิเศษในราคา 500 บาทต่อวันพร้อมประกันชั้น 1 สามารถแวะไปเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ได้
“พังงาเป็นจังหวัดที่ธรรมชาติยังคงอุดมสมบูรณ์ มีทั้งป่าและทะเล แล้วเขาหลักเมอร์ลินก็มีทั้งเขาและทะเลอยู่ในที่เดียวกัน เราพยายามจะอนุรักษ์ธรรมชาติไว้ให้มากที่สุด อยากให้คนไทยได้มาพักกับเรา แล้วคุณจะรู้ว่าการพักผ่อนสบายๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ และอยู่ท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ ทำได้ที่นี่โดยไม่ต้องเลือก”
................................
เขาหลัก เมอร์ลิน รีสอร์ท ที่อยู่: เขาหลัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงาจุดเด่น: ติดทะเล แวดล้อมด้วยป่าธรรมชาติ มีกิจกรรมให้เลือกหลากหลาย สิ่งอำนวยความสะดวกครบ บริการได้มาตรฐานราคา: ห้องพักเริ่มต้นที่ 1,890 บาท (ใช้สิทธิโครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ใส่ access code: wetravel2 เมื่อทำการจองเพื่อรับส่วนลด 40% ตามเงื่อนไขของภาครัฐ)ติดต่อ: โทร 0 7 642 8300 เว็บไซต์ www.merlinkhaolak.com แฟนเพจ facebook : khaolakmerlinresort