BNK48 โอกาสในวันที่ฟ้า (เริ่ม) เป็นใจ
ด้วยปัจจัยต่างๆ ทำให้โอกาสไม่ได้มีสำหรับทุกคน แต่กับ 6 สาว BNK48 ตัวแทนของเซ็มบัตสึเพลงรอง โอกาสไม่ได้มีไว้ให้รอเข้ามาหา ทว่าต้องเดินหน้าไปคว้าไว้
‘โอกาส’ ก็เหมือน ‘อากาศ’ อาจมองไม่เห็นแต่จำเป็นต่อชีวิต โดยเฉพาะกับวงไอดอลอย่าง BNK48 ที่ความอยู่รอดขึ้นอยู่กับโอกาส สำหรับ 6 สาว ตัวแทนจาก Under Girl และ Next Girl แม้ในวันที่โอกาสไม่เกิดขึ้นเอง แต่พวกเธอพยายามสร้างมันขึ้นมา
- โอกาสไม่ใช่ ‘พรสวรรค์’ แต่สร้างได้ด้วย ‘พรแสวง’
“หนูชอบเพลงนี้ ชอบบล็อกกิ้ง ชอบชุด รู้สึกว่าทุกอย่างมันลงตัวแล้ว แต่แฟนคลับจะมีคนที่รู้สึกว่าทำไมไข่มุกไม่เด่นเลย ทำไมไข่มุกไม่ยืนตรงกลางทั้งเพลง ซึ่งหนูรู้สึกว่าด้วยความที่เป็นเพลงที่มีความเป็นทีมเวิร์ค ความสามัคคีของเพนกวิน ทุกคนควรจะได้สลับสับเปลี่ยนขึ้นมา มีบล็อกกิ้งสลับสับเปลี่ยนกัน มันคงจะดีถ้าทุกคนมีซีนเด่นเป็นของตัวเอง หนูไม่ต้องยืนตรงกลางตลอดก็ได้” ความในใจของ ไข่มุก BNK48 เมื่อถูกถามถึงการตั้งข้อสังเกตจากแฟนคลับเกี่ยวกับตำแหน่งเซ็นเตอร์เพลง Hashire Penguin วิ่งไปสิ...เพนกวิน เพลงรองของซิงเกิลที่ 9 เพราะโดยปกติแล้วเซ็นเตอร์ของแต่ละเพลงจะโดดเด่นเป็นพิเศษ ซึ่งมุมมองอย่างที่ไข่มุกบอกนั้นสะท้อนถึงความเปิดกว้างเรื่องโอกาส
การได้มีแอร์ไทม์ เฉลี่ยพอๆ กันใน MV ดังกล่าว เมมเบอร์หลายคนมองว่านี่คือ โอกาส ที่ไม่ได้จะมีขึ้นง่ายๆ อย่าง สตางค์ BNK48 บอกว่าเมื่อโอกาสมาแล้วก็ต้องคว้าไว้
“โอกาสไม่ได้มาบ่อยๆ ครั้งหนึ่งที่เราได้รับโอกาสก็รู้สึกดีใจมาก อยากขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่มอบโอกาสนี้ให้เรา และขอบคุณพี่ไข่มุกมากที่เลือกเพลงนี้ให้เราได้มีโอกาสแสดง”
สำหรับ ผักขม BNK48 มองว่าเรื่องแบบนี้เป็นนานาจิตตัง ต่างคนต่างคิด เรื่องโอกาสเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ทุกคนมีหน้าที่ทำให้ดีที่สุดพอ
“ต่างคนต่างมุมมอง อยู่ที่ว่าใครชอบใครเราก็จะเห็นเขาอยู่ในสายตาเสมอไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็ตาม เราก็ทำผลงานของเราออกมาให้ดีที่สุด อยากให้ทุกคนมองว่าเราคือ BNK48 เหมือนๆ กัน”
สำหรับเซ็นเตอร์เพลง Wink wa 3 kai วิ๊งค์ 3 ครั้ง ของ Next Girl อย่าง จ๋า BNK48 เรื่องโอกาสเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากได้รับ และทุกคนมีความสามารถพอที่จะได้รับโอกาสนั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ตำแหน่งไหน ต่างมีความสำคัญไม่แตกต่างกัน
“ทุกๆ ตำแหน่งมีความสำคัญเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะอยู่ตรงกลาง ข้างๆ ข้างหลัง ทุกตำแหน่งสำคัญหมด ขาดใครไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเพลงนี้จะเป็นเพลงที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็จะคว้าโอกาสไว้แล้วทำให้ดีที่สุด”
มาถึงน้องเล็กของรุ่นสอง นิกี้ BNK48 มองว่าโอกาสเป็นสิ่งที่ไม่ว่าจะได้รับหรือไม่ได้รับ คือความยินดีทั้งหมด
“โอกาสสำหรับหนู มันคือสิ่งที่ทุกคนอยากได้ ถ้าเราได้รับโอกาสนั้นมาแล้ว ก็ถือว่าเรายินดีกับโอกาส ถ้าเราไม่ได้ก็ยินดีกับเพื่อนเราที่ได้ ส่วนเรื่องตำแหน่งไม่ว่าเซ็นเตอร์จะยืนตรงไหน หรือเราจะยืนตรงไหนของเพลง สำหรับแฟนคลับเราคือเซ็นเตอร์ของเขา และเขาก็คือเซ็นเตอร์ของเราเหมือนกัน”
ด้าน นายน์ BNK48 แม้จะเป็นหนึ่งในคนที่มีความสามารถมาก แต่อาจได้รับโอกาสไม่มากนัก เมื่อครั้งนี้เธอได้รับโอกาสในเพลง วิ๊งค์ 3 ครั้ง จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำมันให้ดีที่สุด
“เมื่อแฟนคลับมอบโอกาสนี้ให้หนู ซึ่งเมื่อปีที่แล้วหนูไม่มีโอกาสยืนตรงนี้ พอมีโอกาสมีชุดเซ็มฯเป็นของตัวเอง มีตำแหน่งเป็นของตัวเอง นี่คือสิ่งที่หลายคนอยากมีอยู่แล้ว เอาจริงๆ ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน แฟนคลับก็จะเห็นเราเสมอ แต่หนูดู MV แล้วหาว่าอยู่ตรงไหน (ฮา) สำหรับแฟนคลับต่อให้หนูอยู่ข้างหลัง เขาก็จะเห็นเราเสมอ เราจึงแค่ทำหน้าที่ให้ดีก็พอ”
ในวันที่โอกาสมาถึง ทุกคนต่างคว้าไว้ แต่กับวันที่โอกาสหลุดลอยไป หรือแม้กระทั่งไม่เฉียดเข้ามาใกล้ อาจบั่นทอนหัวใจ แต่หลายคนก็มีวิธีรับมือ เช่น ไข่มุก ซึ่งเป็นหนึ่งในเมมเบอร์ BNK48 ที่ผู้คนรู้จักแม้จะไม่ใช่แฟนคลับวงตัวยงก็ตาม วันที่ชีวิตมีขึ้นเธอทำอย่างเต็มที่ แต่วันที่เรียกว่าขาลง เธอเล่าว่าเป็นเวลาที่ได้มองหาแง่ดีมาเติมแรงใจ
“แง่ดีคือเรามีเวลาว่างมากขึ้น ได้มีเวลาฝึกซ้อมมากขึ้น ได้ฝึกตัวเอง มีเวลากับตัวเอง กลับมาอีกครั้งก็ต้องเก่งขึ้นกว่าเดิมให้ได้”
ส่วนนายน์ยอมรับว่ามีบ้างที่เกิดความรู้สึกน้อยใจ แต่ไม่เคยปล่อยให้ความรู้สึกนั้นมาบั่นทอน หน้าที่ของเมมเบอร์ทุกคนคือสู้ต่อ
“เพลงนี้เราอาจจะไม่เหมาะ แต่เพลงหน้าเราอาจจะเหมาะก็ได้ มันต้องมีวันที่เป็นของเรา ถ้าเราพยายามมันมากพอและเราฝึกฝน โอกาสก็จะมาถึงเรา”
- เพลงรอง...ของขวัญแด่ความพยายาม (1)
หลังจากงานเลือกตั้ง BNK48 9th Senbatsu General Election สิ้นสุดลง รายชื่อของเมมเบอร์ทั้ง 48 คน ถูกจัดอันดับโดยปริยาย อันดับที่ 1-16 ถูกเรียกว่า Senbatsu (เซ็มบัตสึ) ได้รับโอกาสให้แสดงในซิงเกิลหลัก ซึ่งในซิงเกิลที่ 9 นี้เป็นหนึ่งในเพลงสุดฮิตของวงพี่ AKB48 คือ Heavy Rotation ส่วนเมมเบอร์ที่ติดอันดับ 17-32 จะถูกเรียกว่า Under Girl และ อันดับ 33-48 คือ Next Girl
ถึงแม้อันดับจะไม่ได้ยืนยันถึงความสามารถหรือความนิยมที่แท้จริง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Under Girl กับ Next Girl มักจะถูกมองว่าไม่ popular ทำให้สองซิงเกิลของเมมเบอร์สองกลุ่มนี้จึงถูกเรียกว่า เพลงรอง
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสามซิงเกิล ทั้งหลักและรอง ได้รับการโปรโมทพอๆ กัน และมี MV ทั้งสามเพลง ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก
ไข่มุก BNK48 เล่าถึงซิงเกิล Hashire Penguin หรือชื่อภาษาไทย วิ่งไปสิ...เพนกวิน ในฐานะที่เป็นเซ็นเตอร์ของเพลงนี้ว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับการที่แอบชอบใครสักคนแต่ไม่กล้าบอก เหมือนเพนกวินที่อยู่กันเป็นฝูงแล้วได้แต่แอบมองเขา หลบตัวเองอยู่ในฝูง ไม่กล้าออกมายืนอยู่ข้างหน้า
“ในเนื้อเพลงมีท่อนหนึ่งที่บอกว่า ชนะได้ที่หนึ่ง เป้าหมายต้องไปให้ถึงจะยากเพียงใด ก็เหมือนกับว่าเราจะต้องมั่นใจแล้วกล้าวิ่งไปข้างหน้าเพื่อที่จะทำตามเป้าหมาย ทำตามสิ่งที่เรารัก เพลงนี้นอกจากจะสดใสเหมือนเพนกวินแล้วยังมีความหมายที่ซ่อนอยู่ในเพลงด้วยค่ะ”
สำหรับไข่มุกนั้นวางคาแรกเตอร์มาตั้งแต่แรกว่าเป็นเสมือนเพนกวินตัวน้อย (ที่แข็งแรง) เมื่อเป็นเซ็นเตอร์เพลงนี้จึงเป็นความลงตัวที่สุด เจ้าตัวเปิดเผยว่าดีใจและตื่นเต้นมาก แต่ก็อดกังวลไม่ได้ว่าสมาชิกอีก 15 คนที่จะต้องมาเป็นฝูงเพนกวินด้วยกัน
“ในความเป็นเพนกวินของหนูมีความดุ๊กดิ๊กแบบเด็กผู้หญิงอยู่แล้ว หนูเลยคิดว่าทุกคนน่าจะดึงเอกลักษณ์ของตัวเองออกมาได้ เป็นเพนกวินที่น่ารักในแบบของตัวเอง และเป็นเพลงที่แฟนคลับรอคอยมานานแล้ว ได้ฟังสักที
กับเพลงนี้หนูก็มีส่วนในการเลือกชุด ตอนที่ทีมงานส่งแบบมาให้เลือกหนูก็อยากให้เป็นกระโปรงเพราะรู้สึกว่าทุกคนน่าจะชอบใส่กระโปรงกัน และหมวกตอนแรกหนูเลือกหมวกแบบลูกเสือแล้วมีขนนกเพนกวินอยู่ข้างบน แต่เขาบอกว่ามันดูไม่เหมือนเพนกวินนะ ก็เลยเลือกแค่กระโปรง ส่วนหมวกให้เขาเลือกให้”
ผักขม BNK48 หนึ่งในสมาชิกฝูงเพนกวิน เล่าว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้สวมบทบาทเป็นเพนกวิน เปิดประสบการณ์ของสาวน้อยคริคริคนนี้มากทีเดียว
“เหมือนเราได้เต้นในที่ร้อน แต่ต้องทำตัวเย็นๆ ไว้ เพื่อมอบความสดใสให้ทุกคน”
ด้าน สตางค์ BNK48 ก็กล่าวถึงการเข้าร่วมฝูงเพนกวินครั้งนี้ว่าเป็นความน่ารักและแปลกใหม่ เพราะเป็นครั้งแรกที่มีมาสคอต Mr.P (มิสเตอร์พี) มาร่วมแสดงและใน MV
“MV เราเป็นธีมพาสเทลค่ะ ถ่ายตั้งแต่ตีห้าจนถึงตีสามของอีกวัน เราต้องบินไปถ่ายที่เชียงใหม่เพราะมีสมาชิก CGM48 อยู่ด้วย Mr.P ก็บินไปด้วยกัน”
ไข่มุกบอกว่า Mr.P เป็นขวัญใจของเด็กๆ เป็นขวัญใจของคนในกองถ่าย และทำให้เพลงนี้สดใสมากขึ้น นอกจากนี้มาสคอตตัวนี้ยังเป็นเสมือนตัวแทนแฟนคลับ เพราะในเนื้อเรื่องเมมเบอร์พยายามทำเซอร์ไพรส์วันเกิดให้ ระหว่างนั้มีอุปสรรคบ้าง แต่ก็ร่วมมือร่วมใจกันจนสำเร็จเพื่อคนที่รัก
- เพลงรอง...ของขวัญแด่ความพยายาม (2)
ส่วนซิงเกิลของ Next Girl คือเพลง Wink wa 3 kai หรือภาษาไทยคือ วิ๊งค์ 3 ครั้ง จ๋า BNK48 ซึ่งเป็นเซ็นเตอร์ของเพลงนี้บอกว่า เป็นเพลงที่มีเนื้อหาน่ารักๆ เกี่ยวกับการแอบชอบแต่ไม่กล้าบอก และการสื่อสารผ่านดวงตาที่เป็นหน้าต่างของหัวใจจะเป็นสัญลักษณ์ที่จะเผยความในใจ
“การวิ๊งค์ก็คือการขยิบตาให้เขา แต่ครั้งเดียวจะน้อยเกินไป สี่ครั้งก็จะมากเกินไป สามครั้งคือดีที่สุด เป็นกลยุทธ์ที่คิดไว้แล้ว (หัวเราะ)”
ถึงแม้จ๋าจะเคยเป็นเซ็นเตอร์ในเพลง Skirt Hirari หรือ พลิ้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เป็นเซ็นเตอร์ซิงเกิลที่มี 16 คน และเป็นซิงเกิลจากแรงสนับสนุนของแฟนคลับในการเลือกตั้ง GE แม้จะไม่ใช่อันดับที่คาดหวังไว้ แต่เธอมองว่าเป็นโชคดีที่อันดับมาลงที่ 33 จึงได้เป็นเซ็นเตอร์ของ Next Girl
“แอบกดดันนิดหน่อยค่ะ เพราะแต่ละคนที่ติด Next Girl เก่งๆ กันทั้งนั้น อย่างนิกี้ก็เต้นเก่งร้องเก่ง พี่นายน์ก็เล่นดนตรีเก่ง มีความสามารถ ก็แอบกดดันแต่พยายามทำเต็มที่ค่ะ เพราะอยากให้เราเห็นภาพเดียวกัน สามัคคีกัน จะได้ไปถึงเป้าหมายที่เราตั้งไว้
สำหรับเพลงนี้ ทางผู้บริหารเลือกเพลงให้ เพราะเขามองว่าเหมาะสมกับหนู ตอนที่บอกว่าเราจะมีเพลงนี้ ทุกคนก็แปลกใจว่าเป็นเพลงนี้เหรอ บางคนมาบอกว่าเพลงนี้น่ารักดี เข้ากับจ๋า แต่จะเข้ากับตัวเขาหรือเปล่า แต่เขาก็ทำได้และเป็นสไตล์ของตัวเอง การวิ๊งค์ไม่จำเป็นต้องน่ารักอย่างเดียว จะสายสวย สายเซ็กซี่ได้”
นิกี้เล่าถึงเบื้องหลังการถ่ายทำ MV ว่านายน์แอบฝึกทำท่าวิ๊งค์ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลายเป็นความน่ารักปนฮา โดยที่นายน์อธิบายว่าจำได้ว่าทำท่าวิ๊งค์แบบตาเดียวเหมือนคนอื่นแล้ว แต่ทำไมใน MV ถึงกลายเป็นวิ๊งค์สองตา
“หนูก็ทำวิ๊งค์ตาเดียวนะ แต่ทำไมใน MV ถึงเป็นวิ๊งค์สองตา นี่ก็ไปแอบดูในทวิตเตอร์มา เขาบอกว่าน้องนายน์วิ๊งค์ไม่เป็นเหรอ เลยกลายเป็นเรื่องแซวที่ทุกคนจำได้ว่าน้องนายน์วิ๊งค์ไม่เป็น (หัวเราะ)”
ฝั่งเพนกวินมีมาสคอตครั้งแรก ฝั่งวิ๊งค์ก็มีพระเอก MV ครั้งแรกเช่นกัน เพราะที่ผ่านมาทุกซิงเกิลของ BNK48 ยังไม่เคยมีพระเอก MV ปรากฏ จ๋าบอกว่าถึงจะมีพระเอกแต่ก็ไม่เห็นหน้าว่าใคร เพราะเห็นแค่คอกับช่วงปาก โดยที่ต้องบินไปถ่ายกันที่เชียงใหม่เหมือนกัน และถ่ายรวดเดียววันเดียว
นายน์บอกว่าในซิงเกิลนี้ได้ร่วมงานกับ CGM48 และเป็นการทำงานที่มีความุสขและประทับใจมาก
“วันที่เราไป เขาต้อนรับพวกเราดีมาก มานั่งแนะนำตัวให้เรา เหมือนการทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น ตั้งแต่เปิดตัว CGM48 ก็ไม่เคยเจอหน้ากันเลย น้องๆ ทุกคนน่ารักมากค่ะ”
...
นอกจากซิงเกิลและ MV ที่ออกมาให้แฟนคลับได้ติดตาม BNK48 เพิ่งเปิดการแสดงในเธียร์เตอร์สเตจใหม่ ไปโดยแบ่งเป็นทีม BIII กับ NV ความแตกต่างจากสเตจเก่าคือมีเพลงเยอะกว่า โปรดักชั่นใหญ่กว่า จ๋าบอกว่าแม้กระทั่งชุดที่ใส่แสดงก็เยอะกว่าเดิม ต้องสวมทับหลายชั้นเพื่อให้เปลี่ยนได้ทัน จนบางทีเหมือนเต้นกันไม่แรงแต่ภายใต้ชุดที่ซ้อนทับ คือใส่กันสุดมากๆ
และมีผลงานอื่นๆ อีกเช่น ซีรีส์ The Underclass ห้องนี้ไม่มีห่วย และเร็วๆ นี้จะมีอีเวนท์ใหญ่แห่งปีคือ BNK48 Janken Tournament 2020 Senbatsu of Destiny งานแข่งเป่ายิ้งฉุบที่จะตัดสินชะตาการติดเซ็มบัตสึในซิงเกิลต่อไป ซึ่งบัตรเข้าชมงานนี้จำหน่ายหมดภายในสองชั่วโมงเป็นที่เรียบร้อย
ตลอดเดือนกันยายนมี BNK48 8th Single "High Tension" Mini Handshake Event งานจับมือขนาดย่อมให้แฟนคลับได้หายคิดถึงภายใต้มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด ส่วนในเดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายนจะมีงานจับมืออย่างเต็มรูปแบบด้วย และในเดือนธันวาคมจะมีงานกีฬาสีที่รวม BNK48 ทั้ง 3 รุ่น และ CGM48 ไว้ในงานเดียว