เปิดรับ "ทุนพระกนิษฐาสัมมาชีพ" ถึง 28 ก.ย.นี้
โค้งสุดท้าย ! สำหรับเยาวชนช้างเผือกสายอาชีพ กสศ. เปิดรับ "ทุนพระกนิษฐาสัมมาชีพ" ถึง 28 ก.ย.นี้ ทุนแรกของประเทศไทยที่จะเติมเต็มโอกาสและพัฒนาศักยภาพเยาวชนสายอาชีพสู่บุคลากรชั้นนำของประเทศ
น.ส.ธันว์ธิดา วงศ์ประสงค์ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมและทุนการศึกษา กสศ. เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเยาวชนสายอาชีพจากทั่วประเทศให้ความสนใจสมัครขอรับ “ทุนพระกนิษฐาสัมมาชีพ” แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่ยังอยู่ในขั้นตอนการแนบเอกสารแบบรับรอง โดยการสมัครมาจากหลายช่องทาง ทั้งผู้ที่สนใจสามารถสมัครขอรับทุนด้วยตัวเอง สถานศึกษาอาชีวศึกษาสามารถเสนอชื่อศิษย์เก่า และสถานศึกษาที่เปิดสอนปริญญาตรีเสนอชื่อศิษย์ปัจจุบัน
“ทุนพระกนิษฐาสัมมาชีพ” เป็นนามที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทุนนี้เป็นทุนแรกของประเทศไทยที่เติมเต็มโอกาสให้แก่เด็กช้างเผือกสายอาชีพ/อาชีวศึกษาสนับสนุนสร้างกำลังคนสายอาชีพเพื่อพัฒนาประเทศ โดยจากการสำรวจพบว่าเด็กด้อยโอกาสกว่าร้อยละ 80 คาดหวังอยากจะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ดังนั้นหากเด็กกลุ่มนี้ไม่ได้รับทุนการศึกษาก็มีแนวโน้มที่จะหลุดออกนอกระบบ ประเทศไทยจะสูญเสียทรัพยากรที่มีความสามารถไปอย่างน่าเสียดาย
สอดคล้องกับข้อมูลเด็กและเยาวชนด้อยโอกาส พบว่ามีโอกาสศึกษาต่อระดับสูงเพียงร้อยละ 5 หรือ 8,000 คนต่อรุ่นเทียบกับค่าเฉลี่ยของประชากรประเทศที่มีโอกาสถึงร้อยละ 30 เยาวชนช้างเผือกที่เป็นกลุ่มนักเรียนยากจน ต่างก็มีความฝันและมีศักยภาพ
"ทุนพระกนิษฐาสัมมาชีพ จึงเป็นการสานฝันและส่งเสริมเยาวชนสายอาชีพ/อาชีวศึกษาให้ได้เรียนต่อในระดับปริญญาตรีและต่อเนื่องไปจนถึงปริญญาโทและเอก โดยไม่มีข้อผูกมัด ทุนจะครอบคลุมตั้งแต่ค่าธรรมเนียมการศึกษาค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าสนับสนุนโครงการและงานวิจัย และค่าใช้จ่ายรายเดือน รวมมูลค่ากว่าปีละ 200,000 บาท” น.ส.ธันว์ธิดา กล่าว
สำหรับคุณสมบัติของผู้ขอรับทุน คือเยาวชนที่จบการศึกษาระดับ ปวช. หรือ ปวส. อนุปริญญา ในปีการศึกษา 2562 และกำลังเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 1 ในหลักสูตรต่อเนื่องหรือเทียบโอน หรือ 4 ปี ใน 10 สาขาวิชาที่เป็นเป้าหมายหลัก คือ First S-Curve อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ เช่น ยานยนต์สมัยใหม่ , อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ,การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ , เกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ การแปรรูปอาหาร และ New S-Curve อุตสาหกรรมอนาคต เช่นหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม,การบินและโลจิสติกส์ ,เชื้อเพลิง ,ดิจิทัล และการแพทย์ครบวงจร
รวมถึง สาขาด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งนี้ผู้สมัครต้องมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า3.00 และอยู่ในลำดับไม่เกินร้อยละ 20 บนของสาขาที่จบการศึกษา , มีผลงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับชาติหรือระดับภาค , ขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยมีรายได้ครัวเรือนเฉลี่ยไม่เกิน 3,000 บาทต่อคนต่อเดือน ซึ่งนักศึกษา ครูอาจารย์ และสถาบันการศึกษา สามารถสมัครขอทุนได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 28 กันยายน 2563 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครได้ทาง www.eef.or.th โทร.0-2079-5475 กด 4