ออกหมายเรียก "ผอ.สารสาสน์ฯราชพฤกษ์"รับข้อกล่าวหา7 ต.ค.นี้
สช.สั่งตั้งรองผอ.โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์เพิ่ม3คน หลังผู้รับใบอนุญาตถอดถอน "นันทิภา ยงค์กมล"ผอ.โรงเรียนคนเก่าออก ตั้งผอ.คนใหม่แทน ขณะที่ผู้ปกครองเข้าแจ้งความทั้งหมด 32 ราย รวม 58 คดี ออกหมายเรียกผอ.โรงเรียนรับข้อกล่าวหา 7 ต.ค.นี้
จากกรณีเด็กเล็กโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ถูกพี่เลี้ยง และครูทำร้าย ขณะนี้มีผู้ปกครองเข้าแจ้งความแล้วทั้งหมด 32 ราย รวม 58 คดี กับครูและพี่เลี้ยงทั้งหมด 13 คน ซึ่งมีครูและพี่เลี้ยงที่เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 9 รายขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียน จะมารับทราบข้อกล่าวหาในวันพุธที่7 ต.ค.นี้ ส่วนการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงเรียน ได้ตรวจสอบครบทั้งหมดแล้ว
ทั้งนี้ คดีดังกล่าว แบ่งคดีในการส่งฟ้องทั้งศาลเด็กและเยาวชน รวมทั้งศาลแขวง โดยทางพนักงานสอบสวนประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวมข้อมูลใช้ประกอบสำนวนคดีทั้งในส่วนความผิดตามพ.ร.บ.สภาครู พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน เพื่อสรุปสำนวนคดีส่งให้กับพนักงานอัยการ โดยแบ่งการดำเนินคดี ดังนี้ ดำเนินคดีกับผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา ครูผู้สอน และบุคลากรอื่นที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษา
นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่าจากการลงพื้นที่โรงเรียนของคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงที่สช.ตั้งขึ้น และการรายงานให้ผู้บริหารรับทราบรายวันโดยผู้รับใบอนุญาตได้ถอดถอน นางนันทิภา ยงค์กมล ผอ.โรงเรียนคนเก่าออก เนื่องจากหย่อนยานในการปฏิบัติหน้าที่ และแต่งตั้ง นางรัตนาภรณ์ มูรี่ ผอ.คนใหม่ ซึ่งมีดีกรีปริญญาเอก และใบประกอบผู้บริหารสถานศึกษา ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.เป็นต้นไป โดย สช.ได้แนะนำให้โรงเรียนตั้งรองผอ.อีก 3 คน ให้แล้วเสร็จภายในเดือนนี้
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเมื่อวันที่ 5 ต.ค. มีนักเรียนแจ้งขอลาออกและขอคืนเงินค่าเล่าเรียน จำนวน 6 คน โดย 2 คน เป็นเด็กที่อยู่ในห้องเรียนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง จากเดิมเมื่อวันที่ 2 ต.ค. ได้รับแจ้งว่ามีนักเรียนจะขอลาออก 40 คน ซึ่งการที่มีผู้ปกครองลาออกน้อยลง เพราะโรงเรียน มีการปรับปรุงตามข้อเสนอของผู้ปกครอง เช่น ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่ม ปรับปรุงคุณภาพอาหารกลางวันให้ถูกหลักโภชนาการ แจ้งเมนูล่วงหน้าเป็นสัปดาห์ทางเว็บไซต์โรงเรียน จัดห้องดูแลสุขภาพจิต ที่มีนักจิตวิทยาประจำการ และเปิดห้องรับเรื่องร้องทุกข์
นายอรรถพล กล่าวต่อว่า สำหรับข้อร้องเรียนค่าธรรมเนียมการศึกษา เบื้องต้น ตรวจสอบไม่พบว่ามีการเก็บเกินจากอัตราที่กำหนด เนื่องจากโรงเรียนมีทั้งหมด 130 ห้อง ในจำนวนนี้มี 45 ห้องที่รับเงินอุดหนุนจาก สช. ส่วนห้องที่เหลือสามารถเก็บได้ลอยตัว สำหรับจำนวนนักเรียนต่อห้องไม่พบว่ามีการรับเกินจำนวน เนื่องจากห้องเรียนที่กำหนดจำนวนนักเรียนไม่เกิน 25 คนต่อห้องเป็นห้องเรียนEP
สำหรับ เรื่องใบประกอบวิชาชีพครู จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบครูผู้สอนมีใบประกอบวิชาชีพครูทุกคน ส่วนครูต่างชาติ 76 คนมีหนังสืออนุญาตประกอบวิชาชีพจากคุรุสภา แต่มี 51 คนที่โรงเรียนอยู่ระหว่างทำสัญญาจ้าง แต่ยังไม่จ่ายเงินเดือน โดยให้ทำหน้าที่สังเกตการณ์ก่อนระหว่างรอเอกสารการประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง เนื่องจากกลุ่มเหล่านี้ถือวีซ่านักท่องเที่ยว ที่โรงเรียนจ้างมาทดแทนครูต่างชาติที่เข้ามาไม่ได้เพราะสถานการณ์โควิด-19