'อนุทิน' ขอร้อง 'ม็อบ' ขีดเพดานข้อเรียกร้องอยู่แค่ 'รัฐบาล'

'อนุทิน' ขอร้อง 'ม็อบ' ขีดเพดานข้อเรียกร้องอยู่แค่ 'รัฐบาล'

“อนุทิน”ลั่นภูมิใจไทยเทิดทูนสถาบัน ไม่มืทางเห็นด้วยม็อบกระทบเบื้องสูง ย้ำเป็นเรื่องการเมืองขีดเพดานอยู่ที่รัฐบาล ยันพรรคโหวตแก้รัฐธรรมนูญมีสสร.จากประชาชนเลือกแน่นอน ขอให้ทุกคนเคารพระบบรัฐสภาหาทางออกประเทศ เชื่อนักท่องเที่ยว-นักลงทุนไม่ถอดใจจากไทย

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) กล่าวถึงกรณีม็อบกดดันให้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ไม่เช่นนั้นจะมาประท้วงที่กระทรวงสาธารณสุข ว่า ไม่ใช่คำว่ากดดัน การที่เราทำงานร่วมกันในรัฐบาล ต้องมีสปิริตในการทำงานร่วมกัน และเหตุการณ์ความขัดแย้งอะไรต่างๆ เราทุกคนในรัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหากันอยู่ ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้เลยแม้แต่น้อย เราต้องทำงานแต่ละห้วงเวลาอย่างดีที่สุด ประชาชนเลือกมาทำงานเพื่อบ้านเมือง


กรณีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เรียกหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคไปหารือนายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปอยู่แล้ว อะไรก็ตามที่ทำแล้วลดความขัดแย้งเกิดความสงบสุข ก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ เพียงแต่ตอนนี้ หลายๆ คนอาจจะตอบคำถามไม่เป็นที่น่าพอใจ เช่น “จะเปิดประชุมสภาวิสามัญทำไม เนื่องจากว่าอีกไม่กี่วันก็จะเปิดสมัยสามัญแล้ว” อาจจะเป็นการตอบคำถามที่ทำให้ถูกมองว่าไม่ได้แคร์ความรู้สึกประชาชน แต่จริงๆ แล้ว ยืนยันว่าแคร์กันทุกคน ไม่มีใครนอนหลับ ในครม.ตี 1 ตี 2 ยังทำงานกันอยู่เลย ไม่มีใครสบายใจในเรื่องนี้ ทุกคนทำงานกันอย่างเต็มที่


“ส่วนตัวได้บอกให้สมาชิกในพรรคทุกคน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้หาวิธีการที่จะทำความเข้าใจและสร้างความสงบให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองให้เร็วที่สุด สิ่งใดก็ตามที่ทำแล้วเกิดความสงบเรียบร้อยเข้าใจกัน แล้วประเทศเดินหน้าต่อไปได้เราก็ต้องเอาด้วยอยู่แล้ว แต่ไม่ต้องกดดันกัน อย่าไปกดดันกันเลย การกดดันจะทำให้เกิดความเครียด เกิดการคิดอะไรที่ไม่รอบคอบ มีวันหนึ่งผมส่งไลน์ไปหาท่านนายกฯ ตอนตี 5 เพื่อที่จะส่งข้อมูลไปให้ดูเฉยๆ ท่านตอบกลับมาในทันทีเลย แล้วบอกว่ายังไม่ได้นอนเลยทั้งคืน เพราะฉะนั้นไม่มีใครสบายใจกับเหตุการณ์แบบนี้ทุกคนก็ต้องทำงานอย่างเต็มที่" นายอนุทินกล่าว


นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองถ้าไม่พอใจรัฐบาล ก็ให้รัฐบาลได้มีโอกาสปรับปรุงแก้ไข หรือหาวิธีชี้แจง ไม่มีตรงไหนที่เกี่ยวข้องกับเบื้องสูงเลย น่าจะขีดเพดานเอาไว้แล้วมาคุยกัน ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟังประชาชน ส่วนพรรคภูมิใจไทยเห็นด้วยตั้งแต่แรกในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยการแก้มาตรา 256 ให้มีการตั้ง สสร. โดยมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมาเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน แต่ถ้าเป้าหมายที่บอกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่มากกว่านั้นตนไม่มีทางเห็นด้วยอยู่แล้ว พรรคภูมิใจไทยปกป้องเทิดทูนสถาบัน


ผู้สื่อข่าวถามว่า จากที่หลายประเทศสนใจเข้ามาลงทุนหรือท่องเที่ยวในประเทศไทยจากการที่คุมโควิด19ได้ดี แต่จากการชุมนุมเกิดการถอดใจไปหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า การหาวิธีการ มาตรการต่างๆ เพื่อให้เกิดการเดินทางของคนต่างชาติเข้ามา หรือคนไทยสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ วิธีการที่จะผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เพื่อให้ความเป็นปกติเกิดขึ้นได้มากที่สุด ซึ่งประเทศไทยถึงแม้มีการชุมนุม แต่ก็ไม่เคยมีความรุนแรง ไม่เคยมีการทำร้ายผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ทำร้ายนักท่องเที่ยว หรือทำร้ายคนต่างชาติ ต่อให้มีความไม่มั่นคงทางการเมือง มีการประท้วง แต่การเดินทางของนักท่องเที่ยวก็ยังเป็นปกติ คนไทยสามารถแยกแยะได้นี่คือความน่ารักของคนไทย

“ไม่คิดว่ามีต่างชาติถอดใจ อย่าไปคิดว่ามีเพียงนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา แต่นักธุรกิจก็อยากจะเข้ามาในประเทศที่ไม่มีการติดเชื้อ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศในอาเซียนที่มีการติดเชื้อน้อย มีหลายคนที่อยากจะเข้ามารับการรักษาโรคอื่นๆ มาตรวจร่างกายในเมืองไทย คิดถึงประเทศไทยเป็นประเทศแรก”นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามต่อว่าภาคเอกชนกังวลว่าหากสถานการณ์การเมืองยืดเยื้ออาจจะมีการถอนการลงทุนไปที่เวียดนาม นายอนุทิน กล่าวว่า คงไม่ถึงขั้นนั้น การชุมนุมยังอยู่ในสภาพที่อยู่ในความสงบ ไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้กับประชาชน ผู้ประกอบกิจการโดยทั่วไป ตอนนี้รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาอยู่ ขอเวลาสักนิด จะเปิดสภาฯแน่นอน อย่าไปคิดว่ารัฐบาลไม่อยากให้เปิดสภา อยากให้ประชาชนเชื่อมั่นในกลไกรัฐสภา ทุกคนคือผู้แทนของปวงชนชาวไทย การที่ผู้แทนปวงชนชาวไทยได้มาร่วมกัน หารือหาทางออกก็จะทำให้ทุกคนต้องยอมรับ ขอให้รักษารัฐสภาเอาไว้ รักษาระบอบนี้เอาไว้ ถ้าวุ่นวายมาก สิทธิของประชาชนอาจจะถูกลิดรอนไปอีก