เกาะเปริด และค่ายเนินวง แหล่งท่องเที่ยวที่ทำให้รู้จักอีกมุมของเมืองจันทบุรี

เกาะเปริด และค่ายเนินวง แหล่งท่องเที่ยวที่ทำให้รู้จักอีกมุมของเมืองจันทบุรี

นอกจากชุมชนริมน้ำ และโบสถ์คาทอลิคแล้ว จันทบุรีมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย และสถานที่เรียบๆ 2 แห่งนี้ ก็มีประวัติศาสตร์ และเสน่ห์เฉพาะจนอยากบอกต่อ

เพราะเป็นคนเมืองจันท์ ที่ไม่ค่อยได้เที่ยวซอกแซกในจังหวัดบ้านเกิดเท่าไร อาศัยเทศกาลวันหยุดทำตัวเป็นนักท่องเที่ยว เที่ยวบางที่ที่คนไม่ค่อยไป หรือเราเองที่ได้แต่นั่งรถผ่านไม่เคยแวะเวียนเข้าไปต่างหาก พอได้ไปขึ้นมา ก็สงสัยว่าที่ผ่านมาพลาดไปได้ยังไง

เกาะเปริด ชื่อแปลก มีประวัติ

เราเคยไปเกาะเปริดครั้งหนึ่งสมัยยังเป็นเด็กประถม มีความทรงจำจางๆ ถึงหมู่บ้านเล็กๆ กับกลิ่นคาวปลาและอวลไอทะเล ที่ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ จึงจำไม่ได้เลยว่ามีอะไรน่าสนุกสำหรับเด็ก

เร็วๆ นี้ ทางชุมชนได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวขึ้นมา โดยเจ้าอาวาสวัดเกาะเปริด ซึ่งมีปริญญาระดับดอกเตอร์ได้ร่วมกับชุมชนและจังหวัด เผยแพร่มุมดีๆ ของเกาะเปริดขึ้นมา แม้จะใช้แนวคิดดึงดูดแบบทั่วไปอย่าง  “มาที่นี่ก็ไม่ต้องไปถึงบาหลี”  ซึ่งเราไม่เคยเห็นดีว่าการนำสถานที่ชื่อดังมาเปรียบเทียบกับความงามในท้องถิ่นตัวเองคือสิ่งจำเป็น ทุกที่ต่างมีข้อดีอยู่ในตัวโดยไม่ต้องยกอ้างสิ่งใดขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้น เราก็รู้สึกถึงเสน่ห์แท้ๆ ของเกาะเปริด ที่รสนิยมซ้ำซากไม่อาจบดบังได้

20181231_135135

มองจากจุดชมวิวซันชายน์

จากแหล่งท่องเที่ยวลึกลับที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ถึงตอนนี้ก็มีนักท่องเที่ยวไปไม่น้อย ที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวประมง ซึ่งเป็นจุดแวะพักของชาวจีนที่แต่งสำเภามาค้าขายแต่อดีต มีผลิตภัณฑ์พื้นบ้านคุณภาพอย่าง ปลากุเลาเค็ม ปลาหมึกแห้ง โรงน้ำปลา และอาหารทะเลอร่อยๆ พร้อมโฮมสเตย์หลายจุด

ช่วงหลังมีการโปรโมทท่องเที่ยวสถานที่ที่ไม่ค่อยมีใครไป ทำให้ลานหินสีชมพู (ซึ่งจริงๆ แล้วออกส้มมากกว่า) ของที่นี่เริ่มเป็นที่รู้จักขึ้นมาในหมู่ฮิปสเตอร์ แต่ชื่อของเกาะเปริดเพิ่งตามมาภายหลัง

20181231_140145

หมู่บ้านชาวประมงที่มีอาชีพเสริมทำโฮมเสตย์ไปด้วย

เกาะเปริด ซึ่งอยู่ใน อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี นั้น ที่จริงไม่ได้เป็นเกาะ แต่เป็นติ่งแผ่นดินที่ยื่นออกไปในทะเล เชื่อมด้วยถนนเฉลิมบูรพาทิศ เส้นทางทัศนียภาพที่ทางจังหวัดส่งเสริมให้เป็นเส้นทางจักรยาน (และกำลังพัฒนาเส้นทางปั่นขึ้นเขาที่เกาะเปริดด้วย) ภูมิประเทศโดยรอบจึงคล้ายเกาะเล็กๆ ซึ่งมีผาและทะเลล้อมด้านหลังเกาะ

มีจุดชมวิวเด่นๆ ที่จุดชมวิวซันชายน์ และผาสุขนิรันดร์ ซึ่งห่างจากจุดตั้งต้นการท่องเที่ยวที่วัดเกาะเปริด เดินขึ้นเขาไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึง แต่ผู้สูงอายุที่เข่าไม่ค่อยดีอาจเหนื่อยนิดหน่อย แนะนำว่าพกไม้เท้าไป หรือยืมร่มที่วัดจัดเตรียมไว้ให้ กันแดดก็ได้ ใช้ต่างไม้เท้าก็ได้

20181231_132621

จุดชมวิวที่ผาสุขนิรันดร์นั้น คล้ายกับผาริมทะเลของที่อื่นๆ แต่มีเอกลักษณ์ตรงที่มองไปแล้วจะเห็นบันไดซีเมนต์ซึ่งสร้างไล่ลงไปตามความชันของผาไปแตะน้ำทะเลได้ นี่เป็นบันไดที่อาศัยช่างฝีมือชาวญวนก่อสร้างไว้ ทางเดินนี้ก็เดินลงไปได้ ระยะทางสั้นๆ แต่ชัน ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินสูง ไม่แนะนำสำหรับผู้สูงอายุ

20181231_133442

มุมมองจากจุดชมวิวผาสุขนิรันดร์

ประวัติศาสตร์หนึ่งที่มากับทำเลที่ตั้งคือการเคยมีค่ายอพยพของชาวญวน และชาวกัมพูชาซึ่งแสวงหาที่ลี้ภัยในปี 2518 – 2524 จากการอพยพครั้งใหญ่ของสงครามเวียดนาม ทำให้มีผู้ลี้ภัยมากกว่า 3 ล้านคน เป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก และยังต่อเนื่องมาถึงการลี้ภัยของผู้ที่รอดตายจากการปกครองของเขมรแดง ซึ่งในช่วงปีนั้น UNHCR ได้สร้างค่ายผู้ลี้ภัยตามชายแดนประเทศใกล้เคียง เพื่อเป็นแหล่งพำนัก ก่อนที่จะส่งตัวผู้ขอลี้ภัยไปประเทศที่ 3 ผู้ใหญ่ในชุมชนเล่าให้ฟังเสริมอีกว่า ยังมีตำนานของการฝังทองของชาวญวนบนภูเขาอีกด้วย

หมู่บ้านชาวประมงแห่งนี้จึงมีเรื่องเล่าคู่อยู่กับมุมต่างๆ บนภูเขา แทรกอยู่กับอนุสรณ์สถาน และบรรดาสุสานเก่าแก่ที่นี่ ให้บรรยากาศเฉพาะตัว

20181231_140137

ความที่เป็นผาโดยส่วนมาก ชายหาดที่นี่จึงน้อยนิด แต่น้ำก็ใสสะอาด มีมุมพอให้เด็กๆ เล่นน้ำได้ แต่หากอยากไปเล่นให้สนุกกว่านั้น คนท้องถิ่นบอกว่าควรนั่งเรือไปเกาะกวางที่เห็นอยู่ไม่ไกล ช่วงหลังตรุษจีนน้ำจะลงเพิ่มหาดจะขยายออกข้างไปอีกหน่อย มีที่เล่นน้ำเพิ่มมากขึ้น คราวหน้าจะเตรียมตัวมาให้พร้อมกว่านี้

ชื่อเกาะเปริด (ที่ไม่ได้อ่านว่า เป – ริด) มาจากไหน ไม่มีใครทราบแน่ชัด แต่มีสันนิษฐาน 3 อย่างด้วยกันคือมาจากคำว่า “เก๊าะเปิด” ภาษาเขมรซึ่งแปลว่ากวาง หรือมาจากชื่อหมู่บ้านซึ่งมาจากภาษาเขมรและชอง (ชนพื้นเมืองเดิมของจันทบุรี) และชื่อชุมชนที่มาจากชาวจีนที่ล่องสำเภามาค้าขาย เพราะเป็นทะเลเปิด จึงเรียกว่า “เกาะเปิด” แต่ต่อมามีโรคมาลาเรีย และอหิวาต์ระบาด คนตายกันมากจนคนที่เหลือหนี “เปิด” ไปหมด ภายหลังจึงมีการแก้เคล็ดด้วยการเติม “ร” ลงไปให้เป็นชื่อใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคล

20181231_155201

มองออกไปเห็นเกาะกวาง ที่สามารถนั่งเรือไปพักผ่อนบนเกาะได้

เกาะเปริดไม่ได้สวยเลิศกว่าใคร แต่ทุกอย่างที่รวมกันแล้วให้ความรู้สึกสงบ สบาย ในวิถีชีวิตเดิมๆ แต่การตกแต่งสถานที่ด้วยความงามผลิตซ้ำเริ่มเข้ามาตามการท่องเที่ยว ถึงจะห่วงอยู่ลึกๆ ในแง่การรักษาอัตลักษณ์ แต่เราก็ปลงใจแล้วว่าเป็นเรื่องที่ชุมชนต้องเรียนรู้ร่วมกันเอง และเท่าที่เห็น เราก็รู้สึกได้ว่าชุมชนพร้อมที่จะปรับตัวไปกับการเปลี่ยนแปลง เราก็ต้องเฝ้าดูและเปิดใจไปพร้อมกัน

โบราณสถานค่ายเนินวง

สารภาพว่านั่งรถผ่านค่ายเนินวงมาตั้งแต่เด็ก โดยไม่เคยเข้าไปเลย แต่อดจ้องมองกำแพงสูงที่มีปืนใหญ่ยื่นออกมาตลอดแนวทุกครั้งไม่ได้ และคิดว่าที่นี่ห้ามเข้าด้วยซ้ำ

20190101_115538

โบราณสถานค่ายเนินวง ตั้งอยู่ใน ต. บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ด้วยเหตุจากเจ้าอนุวงศ์ เวียงจันทน์ยกทัพมาตีหัวเมืองทางภาคอีสาน ทางกรุงเทพฯ ส่งกองทัพไปปราบเจ้าอนุวงศ์ที่ลี้ภัยไปพึ่งญวน จนเกิดความบาดหมางกลายเป็นสงครามระหว่างไทยกับญวนขึ้น รัชกาลที่ 3 จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเมืองใหม่ขึ้นเพื่อเตรียมรับศึกญวน ซึ่งก็คือที่ค่ายเนินวงแห่งนี้ด้วยชัยภูมิเป็นเนินเล็กๆ และได้สร้างเป็นเมืองป้อม ซึ่งมีกำแพงล้อมเป็นรูปสี่เหลี่ยม

20190101_114628

แม้จะมีชัยภูมิเหมาะแก่การศึก แต่น้ำท่าสู้กับบริเวณเมืองเดิมริมแม่น้ำจันทบุรีไม่ได้ ชาวเมืองจึงไม่นิยมจะอยู่ เมื่อถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งมีการจัดรูปแบบการปกครองแบบใหม่ จึงโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายเมืองกลับไปอยู่ถิ่นที่ราบลุ่มแม่น้ำตามเดิม ภายหลังกรมศิลปากรได้เข้ามาบูรณะ และเป็นพื้นที่ของกลุ่มงานพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี จันทบุรีขึ้น พร้อมกับพิพิธภัณฑ์ที่เป็นแหล่งเรียนรู้ และรักษาโบราณวัตถุที่กู้ขึ้นมาได้จากงานโบราณคดีใต้น้ำ

20190101_123652

บนเรือสำเภาไทยจำลอง บอกเล่าถึงพื้นที่ต่างๆ บนเรือ และหุ่นจำลองพร้อมคำอธิบายโดยละเอียด

ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์พาณิชย์นาวีซึ่งสร้างมาตั้งแต่ปี 2542 ในยุคนั้นต้องนับว่าทันสมัยและมีแนวคิดที่ดีทีเดียว ถึงตอนนี้เรือสำเภาไทยจำลองซึ่งสามารถเดินขึ้นไปสำรวจและเรียนรู้ได้ก็ยังคงมีสภาพแข็งแรง การให้ข้อมูลก็น่าประทับใจอยู่ หรือการให้ข้อมูลเรือประเภทต่างๆ ก็ทำไว้อย่างดี หากได้มีการอัพเดทความรู้หรือปรับปรุงสถานที่ก็จะยิ่งเชิญชวนให้ผู้คนเข้ามาศึกษามากขึ้น

20190101_124314

อีกทั้งบริเวณป้อมกำแพงซึ่งมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นโดยรอบก็เป็นจุดเดินเล่นที่เหมาะแก่การหย่อนใจ วันที่เราไปมีคนแต่งชุดไทยมาถ่ายภาพให้บรรยากาศย้อนยุคดีมาก อาณาบริเวณของค่ายเนินวงนั้นกินพื้นที่สวนของชาวบ้านไว้ด้วย และถนนโดยรอบที่อยู่หลังกำแพงนั้นก็ทำไว้อย่างดี ร่มรื่น แม้จะไม่มีเลนเฉพาะ แต่ด้วยความที่รถสัญจรไม่มาก ก็เหมาะกับการขี่จักรยานอยู่เหมือนกัน

เป็นสถานที่เงียบๆ ที่ทำให้เราได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของเมืองจันท์ จนอยากชวนให้ลองมาเที่ยวกัน

20190101_114850

20190101_125304