'ฮาโลวีน' 2563 ชวนดู ‘หนังผี' ที่น่ากลัวที่สุดตามหลักวิทยาศาสตร์
‘ฮาโลวีน 2563’ ชวนคุณผู้อ่านมาทำความรู้จักกับ 'หนังผี' 35 เรื่องที่ได้รับการทดสอบตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วว่า ‘น่ากลัวที่สุด’ นำทีมโดย Sinister หนังที่ทำให้หัวใจของคนดูมีอัตราการเต้นถี่แรงที่สุด ขณะที่ ‘เจมส์ วาน’ มีหนังติด Top Ten ถึง 3 เรื่องด้วยกัน
หนังผีเรื่องไหนน่ากลัวที่สุด?
หากนำคำถามนี้ไปถามคนร้อยคนก็อาจจะได้คำตอบร้อยแบบ เพราะความกลัวเป็นเรื่องของปัจเจกที่มีปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ส่วนตัว ความเชื่อ สิ่งที่ได้รับการพร่ำสอนมา หรือระดับความกล้าของแต่ละคนที่ไม่เท่ากัน
ด้วยเหตุนี้เองจึงมีคนคิดจัดอันดับ ‘หนังผีที่น่ากลัวที่สุด’ โดยนำหลักการทางวิทยาศาสตร์มาใช้เป็นเครื่องวัด แล้วเครื่องมือที่ว่านั่นก็คือ การวัด ‘อัตราการเต้นของหัวใจ’ คนดูระหว่างรับชมหนังผีแต่ละเรื่องนั่นเอง
เจ้าของความคิดสุดแหวกแนวนี้คือ BroadbandChoices บริษัทบรอดแบนด์จากสหราชอาณาจักร ผู้ริเริ่มโปรเจคท์ ‘Science of Scare’ หรือ ‘ศาสตร์แห่งความกลัว’ ขึ้น โดยทำการวัดอัตราการเต้นของหัวใจผู้เข้ารับการทดสอบ 50 คน ระหว่างรับชมภาพยนตร์สยองขวัญเป็นเวลานานกว่า 100 ชั่วโมง เพื่อเฟ้นหาว่าหนังเรื่องไหนเป็น ‘หนังผีที่น่ากลัวที่สุดตลอดกาลตามหลักวิทยาศาสตร์ 35 เรื่อง’
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘หนังผี’ ชนโรงรับสัปดาห์ ‘Halloween 2020’
- ‘Halloween 2020’ ชวรรู้ที่มาปาร์ตี้วันปล่อยผี คนสนุก...กินอร่อย
- ต้อนรับ ‘Halloween 2020’ จริงไหม..เด็กทารกไทยมีผีประจำตัว?
ผลการทดสอบปรากฎออกมาว่า ‘Sinister’ หนังผีปี 2012 ทำให้คนดูหัวใจเต้นถี่แรงมากที่สุด 32% โดยอัตราการเต้นของหัวใจของพวกเขาจะพุ่งขึ้นจาก 65 ครั้งต่อนาที (bpm) ไปเป็น 86 bpm กันเลยทีเดียว
Sinister ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจคนดูพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 131 bpm ซึ่งน้อยกว่าภาพยนตร์เรื่อง Insidious ที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจคนดูพุ่งขึ้นได้มากสุดที่ 133 bpm แต่ถ้าพิจารณาจากหลายปัจจัยประกอบกันแล้ว Insidious กลับแพ้ Sinister ไปแบบฉิวเฉียด เพราะทำให้คนดูมีอัตราการเต้นของหัวใจเฉลี่ยอยู่ที่ 85 bpm เลยทำให้ได้อันดับ 2 ไปครอง
ส่วนหนังผีที่มีความน่ากลัวที่สุดตามหลักวิทยาศาสตร์อันดับ 3 คือ The Conjuring (84 bpm)
อันดับ 4 คือ Hereditary (83 bpm) อันดับ 5 คือ Paranormal Activity (82 bpm)
สิ่งที่น่าสังเกตคือ หนังผีคลาสสิกในตำนาน หรือหนังผีที่มีอายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไป ติดอันดับเข้ามาเพียง 4 เรื่องเท่านั้น ได้แก่ The Exorcist, Nightmare on Elm Street, Halloween และ The Texas Chainsaw Massacre
อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ไม่น่าแปลกใจเท่าใดนัก เพราะหนังผียุคแรก ๆ มักไม่มีฉาก jump scare (การใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น การตัดต่อ, เสียง ฯลฯ ทำให้ผู้ชมกลัวหรือสะดุ้งออกมาโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า) ที่ทำให้คนดูตกใจจนหัวใจเต้นแรง แต่มักจะเป็นการสร้างบรรยากาศให้เกิดความหลอนลึก ๆ ชนิดที่ทำให้คนดูกลัวจนเก็บไปฝันมากกว่า
ขณะที่ เจมส์ วาน (James Wan) กลายเป็นผู้กำกับหนังผีที่น่ากลัวที่สุดไปโดยปริยาย เพราะมีหนังของเขาติดอันดับท็อปเท็นถึง 3 เรื่อง ได้แก่ Insidious (อันดับ 2) The Conjuring (อันดับ 3) และ The Conjuring 2 (อันดับ 7)
แดเนียล คลิฟฟอร์ด (Daniel Clifford) เจ้าของโปรเจคท์ ‘Science of Scare’ บอกเอาไว้ว่าปีนี้คนจำนวนไม่น้อยต้องฉลองฮาโลวีนกันอยู่ที่บ้าน (เพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19) โปรเจคท์นี้จึงถูกออกแบบมาช่วยให้คนประหยัดเวลาในการค้นหาหนังผีที่น่ากลัวมาดู ท่ามกลางหนังสยองขวัญหลายร้อยหลายพันเรื่องที่มีอยู่ตามผู้ให้บริการสตรีมมิงภาพยนตร์อย่าง Amazon, Netflix, Disney Plus ฯลฯ
“ถ้าคุณเป็นคนขี้ตกใจ อันดับหนังสยองขวัญนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับคุณ แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นคนมองหาสิ่งที่ทำให้หัวใจเต้นแรงในช่วงฮาโลวีนนี้ละก็ จงปิดไฟซะ เปิดเสียงให้ดัง แล้วอย่าลืมดูใต้เตียงให้ดีก่อนเข้านอนล่ะ”
- หนังผีน่ากลัวที่สุดตลอดกาล 35 เรื่อง
ผลการศึกษาหาหนังผีที่น่ากลัวที่สุดตลอดกาลครั้งนี้กระทำโดยการรวบรวมรายชื่อหนังผีที่น่ากลัวที่สุดมา 50 เรื่อง โดยพิจารณาจากคะแนนรีวิวในเว็บ IMBD, Rotten Tomatoes รวมไปถึงการจัดอันดับของนักวิจารณ์ภาพยนตร์หลายคน และการจัดอันดับในเว็บบอร์ดยอดนิยมอย่าง Reddit
เมื่อได้หนังผีที่ต้องการแล้วก็นำมาเปิดให้ผู้เข้ารับการทดสอบจำนวน 50 คนดูด้วยระบบเสียง 5.1 surround เป็นเวลากว่า 120 ชั่วโมง คนเหล่านี้ซึ่งถูกคัดเลือกมาจากคนหลากหลายเพศและวัยจะถูกติดเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจเอาไว้ แล้วมีคนคอยมอนิเตอร์ตลอดเวลาที่พวกเขาดูหนัง
หลังจากนั้นจะนำอัตราการเต้นของหัวใจที่เกิดขึ้นระหว่างดูหนังผีมาเทียบกับอัตราการเต้นของหัวใจโดยเฉลี่ยช่วงที่พักผ่อน ก่อนจะนำข้อมูลที่ได้มาหา ‘ค่าเฉลี่ยความน่ากลัว’ ของหนังแต่ละเรื่อง
รายชื่อหนังผีที่น่ากลัวที่สุดตลอดกาลตามหลักวิทยาศาสตร์ จำนวน 35 เรื่อง มีดังต่อไปนี้
-
Sinister
-
Insidious
-
The Conjuring
-
Hereditary
-
Paranormal Activity
-
It Follows
-
The Babadook
-
The Descent
-
The Visit
-
The Ring
-
A Quiet Place
-
A Nightmare on Elm Street
-
Halloween
-
The Texas Chainsaw Massacre
-
28 Days Later
-
The Exorcist
-
Hush
-
It
-
Scream
-
The Grudge
-
The Witch
-
The Blair Witch Project
-
Alien
-
The Thing
-
Poltergeist
-
Annabelle
-
Friday the 13th
-
The Orphanage
-
Dark Skies
-
Wolf Creek
-
The Omen
-
The Shining
-
Get Out
-
Audition
- Sinister – โลกจิตวิญญาณและโลกความเป็นจริงที่บรรจบกันอย่างลงตัว
แล้วองค์ประกอบอะไรบ้างที่ทำให้ Sinister เป็นหนังผีที่น่ากลัวที่สุดตามหลักวิทยาศาสตร์
Sinister (2012) เป็นผลงานการกำกับของ ‘สกอตต์ เดอร์ริคสัน’ (Scott Derrickson) ผู้กำกับชาวอเมริกันที่เคยฝากผลงานเอาไว้ในหนังผีอย่าง The Exorcism of Emily Rose, Deliver Us from Evil และหนังซูเปอร์ฮีโรเรื่องดังจากจักรวาลมาร์เวลอย่าง Doctor Strange
Sinister นำแสดงโดย ‘อีธาน ฮอว์ก’ ผู้รับบท แอลลิสัน ออสวอล์ด (Ellison Oswald) นักเขียนนิยายแนวอาชญากรรมจากเรื่องจริงที่ประสบภาวะหมดมุก ไม่มีหนังสือติดอันดับขายดีมานานกว่า 10 ปีแล้ว ออสวอล์ดจึงตัดสินใจพาครอบครัวย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ที่เกิดเหตุฆ่ายกครัวขึ้น โดยหวังว่าจะใช้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนี้มาเป็นวัตถุดิบเขียนหนังสือเล่มใหม่
แต่แล้วออสวอล์ดกลับไปพบกล่องเก็บฟุจเตจฟิล์มเก่าบนห้องใต้หลังคาที่เผยให้เห็นภาพการเสียชีวิตของคนในบ้านหลังนี้นอกเหนือจากที่เขารู้มา เขาจึงสงสัยว่าน่าจะมีการตายเกิดขึ้นในบ้านหลังนี้มากกว่าที่ตาเห็น แล้วยิ่งสืบไปเรื่อยๆ ออสวอล์ดก็ยิ่งพบว่าเขาคิดผิดที่พาครอบครัวเข้ามาอยู่ในบ้านสุดหลอนหลังนี้
ความโดดเด่นของ Sinister อยู่ตรงที่สามารถกระจายน้ำหนักความเป็นหนังแนวอาชญากรรม และหนังแนวเหนือธรรมชาติได้อย่างกลมกล่อมลงตัว ขณะเดียวกันก็ผสมผสานงานภาพที่ลึกลับน่ากลัวตามแบบฉบับหนังผีเข้ากับภาพความเป็นจริงผ่านฟุตเตจที่ตัวเอกของเรื่องพบได้
พูดง่าย ๆ ก็คือ Sinister ดึงเอาโลกคู่ขนานทั้งสองโลก คือ โลกแห่งความเป็นจริง และโลกแห่งจิตวิญญาณเข้ามาบรรจบกันได้อย่างลงตัวนั่นเอง