ประเพณีลอยกระทง ถ้าเปลี่ยนชื่อจะลดขยะหรือไม่?

ประเพณีลอยกระทง ถ้าเปลี่ยนชื่อจะลดขยะหรือไม่?

เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมาอย่างต่อเนื่องกับ "ประเพณีลอยกระทง" ว่ากระทงแบบใดเหมาะสมทั้งในแง่วัฒนธรรม และจะไม่ทำให้เกิดขยะหรือน้ำเสีย ขณะที่หลายคนอาจตั้งคำถามว่า หรือจริงๆ แล้วเราหลงประเด็นที่แท้จริงของประเพณีนี้กันแน่?

ลอยกระทงปีนี้เป็นวันเสาร์ที่มีฝนกระหน่ำตอนบ่ายๆ ในกรุงเทพฯ และเป็นช่วงโควิด ไม่แน่ใจว่าประเด็นเหล่านี้จะประกอบกันทำให้คนไปลอยกระทงน้อยลงหรือไม่ แต่ในแง่ของการออกไปเดินเล่นไปสังสรรค์อาจจะมีคนอยากออกไปมากขึ้น เนื่องจากตรงกับเทศการฮัลโลวีนของฝรั่งเข้าด้วย 

หลังจากลอยกระทง ข่าวเช้าผู้สื่อข่าวรายงานดังนี้ “ลอยกระทงปีนี้กรุงเทพมหานครได้ระดมเจ้าหน้าที่เก็บกระทงออกจากแหล่งน้ำทั่วกรุงเทพฯ เสร็จสิ้นในเวลา 6 โมงเช้า และนับกระทงได้รวม 492,537 ใบ ลดลงจากปี 2562 ซึ่งจัดเก็บได้ 502,024 ใบ คิดเป็นร้อยละ 1.89 โดยเป็นกระทงจากวัสดุธรรมชาติ 474,806 ใบ หรือร้อยละ 96.4 และกระทงโฟม 17,731 ใบ ร้อยละ 3.6 (ขณะปี 61 ยอดกระทงเก็บได้กว่า 8 แสนใบ) (สนับสนุนข้อมูลโดย ONEP.go.th)” ฟังข่าวแล้วว้าว กระทงเยอะจัง นี่ขนาดลดลงแล้ว

ผู้เขียนจึงขอเสนอแนวคิดหัวข้อ กระทงแบบไหนดีสุดสำหรับลอยกระทง ทั้งในแง่วัฒนธรรมและด้านการไม่เกิดขยะ-น้ำเสีย

  • กระทงโฟม แย่เพราะเป็นขยะที่เอาไปทำอะไรต่อไม่ได้ กำจัดโดยการฝังกลบก็เปลืองพื้นที่ เอาไปกำจัดโดยเผาก็ต้องควบคุมอุณหภูมิและมีการเผาควัน หากเผาที่อุณหภูมิต่ำๆ ก็มีก๊าซพิษพวกไดออกซิน-ฟิวราน

  • กระทงที่ทำจากวัสดุอินทรีย์ย่อยสลายได้ เช่น ใบตองกาบกล้วย ก็เพิ่มความสกปรกให้แหล่งน้ำถ้าเก็บไม่หมด กทม.เก็บหมดก็ต้องเอาไปหมักปุ๋ย เหนื่อยเจ้าหน้าที่ หมุดเข็มอะไรก็ต้องเก็บออก

  • กระทงอาหารปลา ถ้าไปลอยท่าน้ำวัดตรงเขตอภัยทาน ปลาก็ได้กินแต่ก็ไม่สวยเพราะกระทงไม่ทันลอยไปไหน ปลาก็จะโผมากินอย่างมูมมาม เด็กๆที่ลอยคอคอยเก็บเงินจากกระทงก็ต้องแย่งกันกับปลา ถ้าเอากระทงอาหารปลา ไปลอยที่อื่นที่ไม่ใช่เขตปลาเยอะก็เน่าแม่น้ำอยู่ดี
  • มีผู้คิดลอยกระทงน้ำแข็ง ซึ่งก็ดูจะเป็นภาระต่อพระแม่คงคาค่อนข้างน้อย แต่ก้ไม่สะดวกเพราะละลายง่าย

แต่ก็มีคำถามว่า เราจำเป็นต้องลอยกระทงที่เป็นวัสดุจริงๆ หรือไม่ นำไปสู่ทางเลือกในปัจจุบัน ได้แก่ การลอยกระทงแบบออนไลน์ ถูกใจวัยรุ่น ผู้เขียนเคยทำสำรวจกับนิสิตในมหาวิทยาลัยพบว่า พอพูดถึงประเด็นการลอยกระทงส่งผลกระทบสร้างขยะและน้ำเสีย พวกเขาเลือกลอยกระทงออนไลน์อันดับ 1 และระบุว่าการออกมาลอยกระทงมีสาเหตุอันดับแรกเพราะต้องการมาเที่ยวงานลอยกระทงออกร้าน แต่การลอยกระทงออนไลน์ก็มีผู้กล่าวหาว่า ไม่สืบสานวัฒนธรรมการที่จะต้องมีการลอยกระทงลงไปในน้ำจริงๆ 

อย่างไรก็ดีหลักฐานประวัติศาสตร์ในปัจจุบันก็ได้อธิบายว่า การนำกระทงมาลอยตามที่ปัจจุบันเข้าใจนั้นเริ่มนำกลับมาเป็นแบบแผนเมื่อต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ในสมัยโบราณก็ไม่ใช่แบบนี้และนางนพมาศก็อาจจะไม่มี ดังนั้น ขนบและประเพณีน่าจะปรับปรุงได้ให้เป็นไปตามความเหมาะสมของปัจจุบันมากกว่าการปล่อยไว้เช่นเดิม ซึ่งส่งผลร้ายมากกว่าผลดีต่อพระแม่คงคา

ประเด็นของการลอยกระทงคือ การขออภัยพระแม่คงคา มีการระบุว่าเป็นการลอยทุกข์ลอยโศกไปกับกระทงและสายน้ำ ผู้เขียนจึงขอตั้งคำถามว่า ถ้าเปลี่ยนชื่อประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีขอขมาพระแม่คงคา ไม่ต้องไปยึดติดกับกระทง จะทำให้ขยะลดลงหรือไม่ น้ำเสียจากขยะกระทงจะลดลงหรือไม่ แต่ถ้ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีการบ้านส่วนตัว ให้เวลาอีก 1 ปี ที่จะคิดว่าปีหน้าจะลอยกระทงอะไรในเทศการลอยกระทง 2564