จาก 'ดีเจ' สู่การปั้นแบรนด์ 'แซนวิส' ฝ่าวิกฤติโควิด-19
“การปรับตัว” ภายใต้ "ภาวะวิกฤติ" ไม่ใช่เพียงแค่ในสภาวะจำยอมเท่านั้น แต่เป็นการมองเห็นโอกาส และพัฒนาทักษะในการดำเนินชีวิต เช่นเดียวกับ อาทิตย์ ศรีวงษ์ชัย (จ็อบ) ดีเจหนุ่มที่ผ่านวิกฤติโควิด-19 โดยการปั้นแบรนด์แซนวิชสร้างรายได้เสริมหลักหมื่นต่อเดือน
การระบาดของ COVID 19 ส่งผลกระทบกับมวลมนุษยชาติอย่างกว้างขวางโดยไม่เลือกชนชั้น ชนชาติ และ อาชีพ ทุกคนต่างต้องปรับตัวและต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของวีถีชีวิตในสภาวะไร้วัคซีนกันอย่างสุดความสามารถจนอยู่ในระดับประคองตัวได้
"อาทิตย์ ศรีวงษ์ชัย" หรือ จ็อบ ดีเจหนุ่มประจำ HI SO Rooftop โรงแรม So Bangkok ศิษย์เก่าคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ หรือ DPU เป็นอีกคนหนึ่งที่เลือกใช้ “การปรับตัว” แก้โจทย์ของชีวิตในยุค COVID19 จ็อบมีความชอบในงานบริการและรู้สึกดีเสมอที่ได้เห็นผู้คนรอบตัวมีความสุข แรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต การศึกษา และ การทำงานล้วนมาจากสิ่งที่ตนชอบเป็นหลัก
งานในทุกๆ วันของจ็อบ คือ การเปิดเพลงให้กับ Rooftop Bar เพื่อสร้างบรรยากาศให้กับแขกที่มาใช้บริการได้มีความสุขอย่างเต็มที่ โดยมองว่างานที่ทำอยู่ขณะนี้ทำให้ตนเองได้ใช้ทักษะในสิ่งที่ถนัดและชื่นชอบ ทั้งจังหวะเพลง วิวจากชั้นสูงสุดของโรงแรม บรรยากาศยามเย็น ต่างก็เป็นสุนทรียะ และ ศิลปะ ที่ควรค่ากับการส่งมอบให้แขกผู้ที่เลือกมาใช้บริการที่โรงแรมแห่งนี้ จนกลายเป็นความสุขในที่ทำงาน และ ความสุขในการทำงาน และเวลาหลังเลิกงานยังสามารถนำไปทำธุระส่วนตัวหรือพักผ่อนได้อย่างลงตัว
ช่วงที่โรงแรมได้รับผลกระทบจาก COVID19 โรงแรมขาดรายได้และผู้ใช้บริการลดลงจำนวนมาก จ็อบเองแม้ไม่ใช่พนักงานประจำแต่ก็มีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับองค์กรในทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการลดชั่วโมงในการทำงานที่จะส่งผลให้รายได้ลดลงไปด้วยก็ตาม
จ็อบรับรู้และเข้าใจในภาวะที่องค์กรกำลังลำบาก สิ่งที่จะทำให้ผ่านไปได้ด้วยดีคือทุกคนต้องร่วมมือกัน เสียสละ ตั้งใจทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดรวมทั้งรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะการที่ยังมีงานทำถึงแม้รายได้จะลดลงอย่างมาก แต่นี่คือโอกาสที่จ็อบยังสามารถเปิดเพลงให้แขกฟังได้ในทุกๆวัน
อย่างไรก็ตามรายได้เพื่อการดำเนินชีวิตก็เป็นสิ่งสำคัญ แม้จะมีคำพูดว่า “อุดมการณ์กินไม่ได้” จ็อบผู้ไม่เคยยอมแพ้ มีความเชื่อว่าจะสามารถรักษางานที่เค้ารักและอนาคตที่เค้าหวง ให้รอดไปพร้อมๆกันได้
ตั้งแต่สมัยเรียนที่คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ถึงแม้จ็อบจะเรียนด้านการโรงแรม แต่ก็มีความสนใจเรื่องของการดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ จ็อบเล่าว่าแรงบันดาลใจเรื่องสุขภาพนี้มาจากอาจารย์ผู้สอนท่านหนึ่ง ซึ่งให้คำปรึกษาและเป็นแบบอย่างเรื่องการดูแลสุขภาพจนเป็นภาพจำ จึงทำให้ตนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพและรูปร่างอย่างจริงจัง ซึ่งเมื่อได้ตั้งใจทำแล้วรู้สึกว่าบุคลิกภาพดีขึ้นแบบจับต้องได้ มีความมั่นใจในตนเองอย่างเห็นได้ชัด
จ็อบเลือกที่จะดูแลสุขภาพและใส่ใจในเรื่องโภชนาการเป็นสำคัญ เพราะมีความเชื่อส่วนตัวว่าร่างกายจะแข็งแรงได้ต้องมาจากอาหารที่ดีด้วย เมื่อก้าวเข้าสู่สายสุขภาพอย่างเต็มตัวก็พบว่าอาหารและขนมขบเคี้ยวในท้องตลาดส่วนใหญ่ยังไม่ตอบโจทย์ในเรื่องโภชนาการเท่าที่ควร จ็อบเริ่มทำอาหารสุขภาพง่ายๆไว้รับประทานเอง โดยเลือกวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ สด ใหม่ และ รสชาติถูกใจ ซึ่งนี่ก็คือต้นกำเนิดของแซนด์วิชสูตรลับส่วนตัว ที่กลายเป็นเพื่อนสนิทพกติดตัวไปได้ทุกที่ แซนด์วิชเป็นอาหารที่รับประทานง่าย สะดวก รวดเร็ว และ ให้คุณค่าทางอาหารครบถ้วน จากการทำแซนด์วิชรับประทานเองส่วนตัวได้ต่อยอดมาเป็นแบรนด์ Real Box Sandwich.Th
จากคนที่ทำแซนด์วิชเพื่อตัวเองกลายมาเป็นผู้ผลิตที่ส่งต่อความสุขในรูปแบบของอาหาร สุขภาพเป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เสริมสร้างกล้ามเนื้อและดูแลสุขภาพ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากคนรู้จักและแนะนำต่อๆกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นรายได้เสริมจำนวนกว่า 8,000-10,000 บาทต่อเดือน
แม้จะจบการศึกษามาระยะหนึ่งแล้ว จ็อบรู้สึกเสมอว่านี่คือความโชคดีที่ได้เรียนจบจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เพราะทุกครั้งที่มีโอกาสได้แวะเวียนมาที่มหาวิทยาลัยก็จะได้รับคำแนะนำในเรื่องการทำธุรกิจ รสชาติของอาหาร หรือแม้กระทั่งการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายได้ง่าย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เขาคิดว่าเป็นแนวทางการทำธุรกิจที่ยั่งยืน ให้ความสำคัญกับทั้งมนุษย์และสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
ในทุกวิกฤติมีโอกาส ในทุกสถานการณ์ย่อมมีการปรับตัว และในทุกการปรับตัวคือโอกาสให้เราได้เรียนรู้พร้อมที่จะมีทักษะใหม่ๆ ทุกวันนี้แม้จะได้ทำงานโรงแรมที่รักน้อยลง แต่ก็มีหนทางที่ได้ทำในสิ่งที่รักเพิ่มขึ้น แม้จะไม่ได้เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ รายได้จะลดลง แต่ก็มีความสุขจากการได้เห็นรอยยิ้มของแขกที่มาใช้บริการโรงแรมทุกๆครั้งที่ไปทำงาน โดยเชื่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นและเลือกที่จะทำ คือ สิ่งที่ดีเสมอ สำหรับปัจจุบันกับความเป็นจริงของชีวิตที่จ็อบค้นพบด้วยตนเองคือ หากเราเข้าใจโลกได้ดีเราก็จะมีความสุขที่พอดีตามสถานการณ์และสถานภาพ
จ็อบ จึงเป็นศิษย์เก่า DPU อีกคนหนึ่งที่มีเงาของคำว่า “การปรับตัว” ที่มองเห็นได้ชัดและพร้อมที่จะพัฒนาต่อไปได้ในอนาคต ถึงแม้การมาของไวรัสCOVID-19 จะเขย่าวงการธุรกิจและกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนทั่วโลก แต่หากเราเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง และพร้อมที่จะพัฒนาตนเอง ยังมีโอกาสอีกมากมายที่ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางสังคมครั้งนี้
ธุรกิจโรงแรม คือ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบในลำดับต้นๆจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสCOVID-19 แต่จ็อบไม่เคยเสียดายหรือเสียใจเลยที่ได้เลือกเรียนสาขาการโรงแรมที่สอนให้มองเห็นถึงความไม่แน่นอน และสอนให้รู้จักปรับตัวอยู่เสมอ เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจโลกที่มีแนวคิดใหม่ๆ และเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
แม้วิกฤติในครั้งนี้จะพลิกโฉมวงการโรงแรมให้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล แต่ด้วยสัญชาติญาณการเอาตัวรอด “sense of survivor” ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ได้ปลูกฝังให้นักศึกษาทุกคนตระหนักถึง ทำให้จ็อบเชื่อมั่นว่าเขาพร้อมที่จะเป็นอีกหนึ่งแรงในการสร้างความไว้วางใจให้ผู้เข้าพักและแขกเลือกที่จะกลับมาใช้บริการอีกในอนาคต พร้อมที่จะใช้ความรู้ที่ได้ศึกษามา พร้อมที่จะนำทักษะและประสบการณ์ มาสร้างความประทับใจกับบริการแบบ New Normal ที่ต้องเข้มข้นไปด้วยมาตรฐานด้านสุขอนามัยเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
หลังวิกฤติครั้งนี้ เรามีความเชื่อมั่นว่าธุรกิจโรงแรมจะกลับมามีบทบาทสำคัญต่อการสร้างรายได้ สวัสดิการ และ ความมั่นคง ให้กับผู้ประกอบการและพนักงานในองค์กรทุกคน รวมทั้งประเทศชาติอย่างแน่นอน