ท่องเที่ยวป่าชายเลนปากน้ำประแส ลดโลกร้อน
เมื่อโลกมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นเฉลี่ย 1.1 องศา ส่งผลให้ทุกประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นร้อนหนัก ฝนตกหนัก แล้งหนัก พายุ น้ำแข็งละลาย ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น หรือสภาพอากาศที่หลายคนไม่คาดคิดมาก่อน
ข้อตกลงปารีสในการประชุมสัมมนาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(UNFCCC) ครั้งที่ 21 หรือ COP 21 เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2558 ทั่วโลกได้มีข้อตกลงร่วมกันจะให้อุณหภูมิโลกไม่สูงกว่า 2 องศาเซลเซียส และพยายามลิมิตไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส เพราะหากโลกร้อนเกิน 1.5 หรือ 2 องศาเซลเซียส หรือมากกว่านั้น จะเผชิญวิกฤตสภาพภูมิอากาศรุนแรงกว่าปัจจุบันหลายเท่าตัว
“โลกร้อน” เป็นวิกฤตที่ทุกประเทศทั่วโลกต้องร่วมมือกันหานโยบาย หาแนวทางในการแก้ปัญหา “โครงการดาวและภาคีป่าชายเลนประเทศไทย” อีกหนึ่งกิจกรรมในการช่วยลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อนผ่านการปลูกป่าชายเลนที่สามารถช่วยลดโลกร้อนได้มากกว่าป่าบกถึง 6 เท่า
“อภิรดี ภู่ภิรมย์” ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่ากลุ่มบริษัทดาวประเทศไทย เป็นบริษัทด้านแมททีเรียลส์ ไซแอนซ์(Materials science) หรือวัสดุศาสตร์ ซึ่งพัฒนาและผลิตวัสดุโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เป็นวัสดุสังเคราะห์ที่นำมาใช้ในอุปกรณ์ต่างๆในชีวิตประจำวันของมนุษย์
เช่น เครื่องแต่งกายที่มีนำวัสดุสังเคราะห์มาใช้ผลิต ซิลิโคนมือถือ พลาสติก หรือสารที่นำไปทำเบาะ ที่นอน หมอน ฯลฯ ล้วนเป็นวัสดุสังเคราะห์ที่มาจากกลุ่มบริษัท ดาว ทั้งสิ้น และด้วยปัญหาสิ่งแวดล้อม และโลกร้อนที่กำลังสร้างผลกระทบต่อผู้คนทั่วโลก กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย จึงได้มีเป้าหมายสำคัญในการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และความปลอดภัย
“โดยมีเป้าหมายชัดเจนช่วยลดปัญหาโลกร้อน โดยลดคาร์บอนต้านโลกร้อน ภายในปี2573 ดาวจะลดการปล่อยคาร์บอน จำนวน 5 ล้านตันต่อปี หรือลดลง 15% จากปี 2563 และตั้งใจจะเป็นองค์กรที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 ซึ่งโครงการป่าชายเลน เป็นโครงการที่จะช่วยลดโลกร้อน และลดขยะพลาสติก เนื่องจาก 2 เรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ทุกคนทั่วโลกต้องช่วยกันแก้ปัญหา”อภิรดี กล่าว
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้ทำงานร่วมกับเทศบาลตำบลปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง มา 10 กว่าปี และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในการเพื่อพัฒนาพื้นที่ป่าชายเลนปากน้ำประแสกว่า 600 ไร่ให้มีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากพื้นที่ก่อนหน้านี้ได้ถูกบุกรุกโดยมีการจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ การปลูกป่าชายเลน ซึ่งปัจจุบันปลูกไปแล้วกว่า 20,000 และมีการปรับพื้นที่ให้ป่าชายเลนเป็นแหล่งเรียนรู้ ห้องเรียนธรรมชาติ โดยสร้างเส้นทางเรียนรู้ป่าชายเลน ที่ทุกคนสามารถเดินสัมผัสเรียนรู้ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต หรือจะนั่งเรือชมป่าชายเลนก็ได้ รวมถึงมีการติดป้ายให้ความรู้ต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่หลงใหลรักธรรมชาติได้มาท่องเที่ยวและเติมเต็มความรู้ กระตุ้นให้เกิดการอนุรักษ์และไม่ทำลายป่าชายเลน เป็นต้น
“อภิรดี” กล่าวอีกว่า ในปีนี้ กลุ่มบริษัท ดาว ได้มีการส่งเสริมอาชีพให้แก่ชาวบ้าน โดยจะนำร่องเครดิตคาร์บอน ที่จะให้ชาวบ้านปลูกป่าชายเลน และนำคาร์บอนมาขาย เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่คนในชุมชน เพราะการจะทำให้ชุมชนหวงแห ดูแลป่าชายเลนนั้นต้องทำให้ชาวบ้านมีรายได้ ดังนั้น เรื่องโปรโมทที่นี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเรื่องคาร์บอนเครดิต เป็นแนวทางที่ทางกลุ่มบริษัท ดาว จะดำเนินการให้สำเร็จ
เบื้องต้นได้มีการทำความเข้าใจ ให้ความรุ้กับคนในชุมชน เพราะเรืองนี้เป็นเรื่องใหม่ และการจะคิดคำนวณคาร์บอนนั้น ด้วยพื้นที่ป่าชายเลนปากน้ำประแสเป็นพื้นที่สาธารณะ ต้องหารือกับทุกฝ่าย เพื่อทำให้ชาวบ้านได้รับผลประโยชน์จากการที่พวกเขาร่วมดูแลป่าชายเลนแห่งนี้ ป่าชายเลนของประเทศไทยสะสมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เหนือพื้นดินได้27.1ตันต่อเฮกตาร์ (6.25ไร่) และสะสมในดิน16.9ตันต่อเฮกตาร์ รวมแล้ว 44.0 ตันต่อเฮกตาร์
ประมาณการณ์ได้ว่าป่าชายเลนของประเทศไทยประมาณ1.5ล้านไร่ หรือประมาณ0.24ล้านเฮกแตร์ สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ11ล้านตันต่อปี "ดร.สนใจ หะวานนท์" ที่ปรึกษาอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่าการปลูกต้นไม้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาลกร้อนได้ดี โดยถ้าช่วยกันปลูกต้นไม้ทั่วโลกจำนวน1.2ล้านล้านต้น จะช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดโลกร้อนที่มนุษย์ได้สร้างเอาไว้ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา
ซึ่งการปลูกป่าชายเลนจะช่วยลดโลกร้อนได้ดีกว่าป่าปก เพราะดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าป่าอื่นๆ ถึง6เท่าและยังช่วยสะสมคาร์บอนในดินได้ยาวนานและมากกว่าป่าบกหลายเท่าตัว อีกทั้ง ป่าชายเลน เป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพ ไม่ว่าจะเป็น พืชพันธุ์ หรือสัตว์ต่างๆ อาทิ ต้นโกงเกง ต้นลำพูนทะเล ไม้แสม และทุ่งโปร่งทอง
“การพัฒนา อนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าได้ดี ส่วนหลักต้องเกิดจากความร่วมมือของชาวบ้าน ซึ่งป่าชายเลนปากน้ำประแส ชาวบ้านได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พวกเขาสร้างเส้นทางให้นักท่องเที่ยวได้มาเรียนรู้ ห้องเรียนธรรมชาติ รู้ถึงคุณค่าของป่าชายเลน รู้ถึงวิถีธรรมชาติที่ทุกคนจะต้องร่วมกันดูแล เพื่อลดปัญหาโลกร้อน ซึ่งป่าชายเลนปากน้ำประแส มีพืช สัตว์มากมาย แต่ละปีจะมีนกหายากจากไซบีเรียที่มี 3,000 ตัวทั่วโลกมาที่นี้ ปีละครั้ง ขณะเดียวกันที่นี้ยังเป็นแหล่งสร้างอาชีพ รายได้ให้แก่คนในชุมชนร่วมด้วย ดังนั้น อยากให้ทุกคนได้มาท่องเที่ยวป่าชายเลนแบบอนุรักษ์ และช่วยกันดูแล ไม่นำขยะมาทิ้ง หรือมาปล่อยสัตว์น้ำที่ไม่เหมาะสมในพื้นที่ป่าชายเลน” ดร.สนใจ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การพัฒนา อนุรักษ์ และฟื้นฟูป่าชายเลนพื้นที่ชายฝั่งทะเลของประเทศไทยครอบคลุมฝั่งอันดามันและอ่าวไทย 5,000 ไร่ ล้วนเป็นการป้องกัน และลดปัญหาขยะพลาสติกที่หลุดรอดลงสู่ทะเลอย่างยั่งยืน โดยในโครงการของกลุ่มบริษัท ดาว ครั้งนี้ จะเป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์ป่าชายเลนอย่างครบวงจร และมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคชุมชน และยกระดับพื้นที่เป้าหมายให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดยจะนำร่องในพื้นที่ จ.ระยอง ก่อนจะขยายผลไปยังจ.จันทบุรี ตราด ต่อไป