พิธีกรหญิงศบค.สัมผัสเสี่ยงสูงผู้ประกาศชายช่องNBTติด'โควิด-19'
ผู้ประกาศข่าวช่องNBTติดโควิด-19 สธ.-ศบค.ชุดเล็กถกด่วน 23 ม.ค.วางแผน ปูพรมตรวจค้นหาเชิงรุกเข้มโรงงานสมุทรสาครทั้งจังหวัด ส่วนกรุงเทพฯ ลุยตรวจเขตรอยต่อที่ตั้งโรงงานมีประวัติพบผู้ติดเชื้อ ก่อนนำข้อมูลประเมินผลสิ้นม.ค. ผ่อนหรือเพิ่มมาตรการขึ้น
วันที่ 22 ม.ค. ที่ ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19(ศบค.) กล่าวว่า วันนี้ต้องทำหน้าที่คนเดียว เพราะมีรายงานผู้ประกาศข่าวชายของช่อง NBT ติดโควิด-19 ทั้งนี้ คุณปาวีณา ฟักทอง พิธีกรประจำการแถลงข่าว ศบค. อยู่ในกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง จึงต้องไปตรวจหาโควิด-19 และตนก็เป็นผู้สัมผัสของผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีกที ในความหมายถือว่าเป็นผู้มี่ความเสี่ยงต่ำ แต่ต้องรับผิดชอบตนเอง โดยหลังจากจบการแถลงข่าวเสร็จแล้ว ก็จะต้องไปตรวจหาเชื้อเช่นกัน
“กรมประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่าได้นำรถชีวนิรภัยพะราชทานไปที่ช่อง NBT ตรวจพนักงานทั้งหมด เพื่อป้องกันควบคุมโรค ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีกลุ่มเสี่ยงสูง ปานกลางและต่ำกี่ราย จะต้องรอการสอบสวนโรคจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง(สปคม.) และกรมควบคุมโรค ในระหว่างนี้ผมก็จะกักกันตัวเอง หากไม่มีการติดเชื้อ ก็จะได้พิจารณาวิธีการดูแลตัวเองอีกที” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า จะเห็นว่าจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในจ.สมุทรสาครมีจำนวนมากกว่า 5,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแรงงาน ซึ่งในศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคโควิด-19ของกระทรวงสาธารณสุข และศบร.ชุดเล็ก ได้หารือร่วมกันและวางแผนการค้นหาเชิงรุกให้มากขึ้นในสัปดาห์ โดยเฉพาะในโรงงานขนาดที่มีแรงงานกว่า 10,000 คน ที่อาจจะมีกาาตรวจไปแล้ว 4,000-5,000 คน จะมีการตรวจเพิ่มเติมค้นหาผู้ติดเชื้อและแยกกักผู้ติดเชื้อ ลดการแพร่เชื้อ โดยจะเป็นการปูพรมตรวจโรงงานทั้งจังหวัด ตามวิธีการระบาดวิทยา
ส่วนพื้นที่กทม.ที่มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 648 ราย โดยเฉพาะเขตบางขุนเทียน ที่มีการเชื่อมโยงมาจากจ.สมุทรสาครทและมีโรงงาน เพราะฉะนั้นความเสี่ยงไม่ต่างจากตงจ.สมุทรสาคร จึงต้องวางแผนสุ่มตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อในโรงงานต่างๆด้วย โดยเน้นเจาะไปที่การเชื่อมโยงกับ 4 โรงงานที่พบผู้ติดเชื้อมาก่อนนี้แล้ว ซึ่งมีเขตต่างๆเกี่ยวข้องถึง 5 เขต
"ในวันเสาร์ที่23 ม.ค.นี้ สธ.และศบค.ชุดเล็กจะประชุมและวางแผนการตรวจค้นหาเชิงรุกเพิ่มเติม กำหนดแผนการทำงานบูรณาการทั้งสธ. กระทรวงอุตสาหกรรม แรงงาน มหาดไทยและทุกฝ่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการตรวจค้นเชิงรุกเข้มข้นในสัปดาห์หน้า เพื่อนำข้อมูลมาประเมินผล ประกอบการพิจารณาว่าเมื่อสิ้นเดือนม.ค.แล้วจะผ่อนปรนหรือเพิ่มมาตรการต่างๆให้เข้มข้นขึ้น"นพ.ทวีศิลป์กล่าว