อว.เผย 50%ยอดจอง'วัคซีนโควิด-19' กระจุกประเทศรวย
อว. เผยการจัดหา"วัคซีนโควิด-19" ทั่วโลกมีความไม่เท่าเทียมกันชัดเจน ยอดการจองมากกว่า 50% อยู่ในกลุ่มประเทศรายได้สูง ครอบคลุมคนเพียง 16% ของประชากรโลกเท่านั้น แคนาดาจองไว้ 9.2 เท่าของประชากร สหรัฐอเมริกา 4.3 เท่า
ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รายงานสถานการณ์การจัดหาวัคซีนโควิด-19 โดยการวิเคราะห์ตามสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆทั่วโลก ซึ่งขณะนี้ทั่วโลกมีการฉีดวัคซีน-19 แล้วกว่า 200 ล้านโดส โดยสหรัฐอเมริกามีการให้วัคซีนมากที่สุด 55.2 ล้านโดส จีนเป็นลำดับสองที่ 40.5 ล้านโดส และเมื่อพิจารณาในสัดส่วนของประชากรแล้วอิสราเอลฉีดวัคซีนแล้ว 80% ของประชากร พบข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับวัคซีนโควิดในสัปดาห์ที่ผ่านมาสรุปได้ 6 ข้อสำคัญ ดังนี้ 1.ประเทศรวยได้วัคซีนมากกว่าประเทศยากจน มีความไม่เท่าเทียมกันในแง่การเข้าถึงวัคซีน โดยยอดการจองวัคซีนของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันระหว่างประเทศที่มีรายได้สูงและประเทศที่มีรายได้ต่ำ ซึ่งจำนวนวัคซีนโควิด-19 มากกว่า 50% นั้นถูกจองโดยประเทศที่มีรายได้สูงซึ่งมีประชากรเพียง 16% ของประชากรทั่วโลก 2.หลายประเทศจองวัคซีนมากกว่าจำนวนประชากร ประเทศรายได้สูงจำนวนมากได้จองวัคซีนไว้มากกว่าจำนวนประชากรของประเทศตนเอง ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดเนื่องจากไม่แน่ใจว่าวัคซีนชนิดใดจะมีประสิทธิภาพสูงหรือมีความปลอดภัย รวมทั้งการบริหารจัดการระยะเวลาการส่งมอบวัคซีน อาทิ แคนาดา ได้จองวัคซีนไว้ 9.2 เท่าของประชากร สหราชอาณาจักร 6.1 เท่าของประชากร ออสเตรเลีย 4.9 เท่าของประชากร นิวซีแลนด์ 4.4 เท่าของประชากร และสหรัฐอเมริกา 4.3 เท่าของประชากร เป็นต้น
3.ประเทศที่มีรายได้ต่ำและรายได้ปานกลาง เข้าถึงวัคซีนโดยโครงการ COVAX แผนการส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ของโครงการ COVAX ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการจัดหาและจัดสรรวัคซีนอย่างเท่าเทียมทั้งในประเทศรายได้สูง รายได้ปานกลางและรายได้ต่ำนั้น ได้ระบุว่ามีเป้าหมายการส่งมอบวัคซีนกว่า 2,000 ล้านโดสภายในปี 2564 โดยอย่างน้อย 1,800 ล้านโดสจะส่งมอบให้กับประเทศที่มีรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางกว่า 92 ประเทศ โดยครึ่งปีแรกของปี 2564 จะมี 145 ประเทศได้รับวัคซีน ซึ่งครอบคลุมประชากรประมาณ 3.3%
4.หลายประเทศใช้นโยบายการทูตเกี่ยวกับวัคซีน ประเทศที่มีกำลังในการผลิตวัคซีนได้เป็นจำนวนมาก เช่น จีน อืนเดีย และรัสเซีย ได้ใช้กลไกการบริจาคและช่วยเหลือโดยให้วัคซีนแก่ประเทศต่างๆ ในแง่การทูต ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และมนุษยธรรม เช่น จีน ได้ประกาศแนวทางที่ให้ความสำคัญกับการจัดสรรวัคซีนอย่างเท่าเทียมทั่วโลก ได้ให้ความช่วยเหลือบริจาควัคซีนที่ผลิตขึ้นในจีนให้กับประเทศกำลังพัฒนา 53 ประเทศ รวมทั้งได้ส่งออกไปแล้วกว่า 22 ประเทศ และประกาศว่าจะบริจาคให้กับโครงการ COVAX อีก 10 ล้านโดส
5.วัคซีนโควิด-19 ที่นำมาใช้แล้วมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และปลอดภัย ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีผลการศึกษาเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ที่สำคัญ คือประสิทธิภาพของวัคซีน สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี สามารถลดความรุนแรง ทำให้จำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตลดลงได้ชัดเจน, ความปลอดภัยของวัคซีน วัคซีนที่ใช้แล้วนั้นมีผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย ,วัคซีนสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ค่อนข้างดีหลังการฉีดเข็มแรก รวมทั้งน่าจะสามารถเพิ่มระยะเวลาระหว่างการฉีดเข็มที่หนึ่งและเข็มที่สองได้ เป็นการลดภาระในการเร่งฉีดเข็มที่สอง ทำให้สามารถกระจายวัคซีนที่มีอยู่ไปฉีดให้ครอบคลุมประชากรจำนวนมากขึ้น โดยแทนที่จะเร่งฉีดเข็มที่สองก็จะนำวัคซีนนำไปฉีดเป็นเข็มที่หนึ่งให้กับคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน จึงจะมีจำนวนประชากรที่ได้รับวัคซีนแล้วเพิ่มมากขึ้นอีก,ความคงทนของวัคซีน พบว่าสามารถเก็บและขนส่งวัคซีนได้ในอุณหภูมิที่สูงขึ้น ลดข้อจำกัดในการขนส่งและการกระจายวัคซีน ซึ่งจะทำให้สามารถเร่งฉีดได้จำนวนมากขึ้นแต่มีข้อกังวลเรื่องผลการป้องกันต่อเชื้อที่กลายพันธุ์ โดยวัคซีนมีประสิทธิผลลดลงต่อเชื้อโควิด-19 บางสายพันธุ์โดยเฉพาะจากแอฟริกาใต้
และ6.ประเทศที่จองวัคซีนไว้แล้วเกินจำนวน จะกระจายวัคซีนที่จองแล้วไปยังประเทศอื่นๆ จากผลการใช้วัคซีนที่ได้ผลดี จะทำให้หลายประเทศเริ่มเบาใจ และอาจจะสามารถผ่อนแรงการเร่งส่งมอบวัคซีนส่วนที่จองไว้เกินได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการกระจายวัคซีนระหว่างประเทศ นำวัคซีนที่ยังไม่ต้องเร่งใช้หรือส่วนที่จองไว้เกิน กระจายไปยังประเทศอื่นๆมากขึ้น