เร่งเจาะบ่อบาดาล ‘ห้วยกระเจา-เมืองกาญจน์’ 6 บ่อ คาดแล้วเสร็จ มี.ค.นี้

จากกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.)มอบหมายให้นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งการให้นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เร่งดำเนินงานตามโครงการศึกษา สำรวจ และรูปแบบการพัฒนาน้ำบาดาลจากแหล่งน้ำกักเก็บในหินแข็งระดับลึกในพื้นที่ธรณีวิทยาโครงสร้างซับซ้อน เพื่อหาแหล่งน้ำบาดาลมาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาว ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ที่ประสบปัญหาภัยแล้งมานานกว่า 30 ปี

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ จึงได้มอบหมายให้นายเกรียงศักดิ์ ภิระไร ผู้อำนวยการสำนักสำรวจและประเมินศักยภาพน้ำบาดาล

น.ส.อัคปศร อัคราช ผู้อำนวยการส่วนวิจัยและพัฒนางานสำรวจน้ำบาดาล นายทนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่สำรวจในภาคสนามอย่างเข้มข้น โดยสามารถสำรวจพบแนวรอยแตกที่ซ่อนอยู่ข้างล่าง ในชั้นหินแปร จำพวกหินควอตซ์ไซต์ ซึ่งแนวรอยแตกดังกล่าว มีโครงสร้างคล้ายเส้นท่อขนาดใหญ่ ที่ไขว้กันไปมา ในหลายระดับความลึกและมีความกว้างประมาณ 2 กิโลเมตร ยาวมากกว่า 23 กิโลเมตร

และในที่สุดโครงการดังกล่าวก็ประสบความสำเร็จ เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเจาะพบน้ำบาดาลที่มีปริมาณน้ำใต้ดินเป็นจำนวนมหาศาล ที่บริเวณบ้านสระตาโล หมู่ 12 ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย และที่สำคัญน้ำที่พุพวยพุ่งขึ้นมามีรสชาดหวานและซ่าคล้ายโซดา สร้างความฮือฮาให้กับคนไทยทั้งประเทศ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 16 มี.ค.64 นายทนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี)เปิดเผยว่า สำหรับจุดที่พบพุแร่โซดาบาดาลนั้น ทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และจังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้ง อบจ.กาญจนบุรี และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จะร่มกันพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยมี อบจ.กาญจนบุรี เป็นเจ้าภาพ จึงต้องคงสภาพพุเอาไว้

ขณะนี้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาลในพื้นที่บ้านทุ่งคูณ หมู่ 19 ต.ห้วยกระเจาไปแล้วจำนวน 5 บ่อ มีปริมาณน้ำเฉลี่ยบ่อละมากกว่า 30 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ยังคงเหลืออยู่อีก 1 บ่อ อยู่ระหว่างการขุดเจาะ โดยใช้รถเจาะจำนวน 1 ชุด

ส่วนพื้นที่บ้านพะยอมงาม หมู่ 12 ต.ห้วยกระเจา ขณะนี้เจาะบ่อบาดาลไปแล้ว จำนวน 4 บ่อ แต่ละบ่อมีปริมาณน้ำบาดาลเฉลี่ยบ่อละมากกว่า 15 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และยังคงเหลืออีก 2 บ่อที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยทั้ง 2 บ่อจะใช้รถเจาะบ่อละ 2 ชุด คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ ส่วนบาดาลแต่ละบ่อจะพุหรือมีรสชาติคล้ายโซดาหรือไม่นั้น ต้องมาลุ้นกันต่อไป

นายทนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี)เปิดเผยว่า สำหรับการดำเนินการสำรวจและประเมินพื้นที่ที่มีศักยภาพน้ำบาดาลสูง โดยการสำรวจธรณีฟิสิกส์ เพื่อหาขอบเขตของชั้นหินให้น้ำและกำหนดจุดเจาะน้ำบาดาล เพื่อทำการเจาะสำรวจ และเจาะบ่อผลิต มี 2 สถานี

บ่อเจาะสำรวจ เจาะเสร็จเรียบร้อยแล้ว จำนวน 5 บ่อ ความลึกเจาะรวมกันประมาณ 1,178 เมตร ปริมาณน้ำเฉลี่ย 30 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ซึ่งต้องขอยืนยันว่าชาวตำบลห้วยกระเจาจะต้องได้น้ำดื่มสะอาดที่ได้มาตรฐานน้ำดื่มอย่างนานอน