ลูกจ้างเฮ! ครม.เคาะบรรจุ 'ข้าราชการ' กระทรวงสาธารณสุข 3,179 อัตรา

วันนี้ (16 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ประจำวันที่ 16 มีนาคม 2564 ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติการบรรจุลูกจ้างประจำ ของกระทรวงสาธารณสุขให้เป็นข้าราชการ จำนวน 3,179 อัตรา โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติม ดังนี้

1. บรรจุ "ข้าราชการ" เพิ่ม เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19

การบรรจุข้าราชการ กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 3,179 อัตรานี้ มาจากมติ ครม. เดิม เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2563 ที่ ครม. เคยมีมติเห็นชอบให้จัดสรรอัตราข้าราชการตั้งใหม่ จำนวน 38,105 อัตรา โดยกระทรวงสาธารณสุขก็ได้ดำเนินการคัดเลือก และได้บรรจุพนักงานให้เข้ารับราชการไปแล้ว 34,926 อัตรา ซึ่งทำให้เหลือตำแหน่งว่างอยู่ 3,179 อัตรา

เนื่องจากขณะนั้น มีปัญหาอุปสรรคที่ทำให้ไม่สามารถบรรจุข้าราชการในอัตราตั้งใหม่นี้ได้ครบในรอบแรก เช่น มีคุณสมบัติไม่ครบตามตำแหน่ง หรือชื่อตำแหน่งที่ได้รับการจ้างงานอยู่เดิม ไม่ตรงกับชื่อตำแหน่งในสายงานที่จะเข้ารับการคัดเลือกและบรรจุ ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงได้เสนอคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) เพื่อขอนำอัตราที่เหลือไปบรรจุลูกจ้างประจำของกระทรวงสาธารณสุข ในอัตราข้าราชการตั้งใหม่ เพื่อรองรับภาวะสถานการณ์ฉุกเฉินของการระบาดโรคโควิด-19

2. หากเหลืออัตราว่างอีก ก็จะบรรจุ "ข้าราชการ" เพิ่มตามความจำเป็น

อย่างไรก็ตาม หากดำเนินการข้างต้นแล้ว ยังมีตำแหน่งว่างคงเหลืออีก ก็อาจจะพิจารณาบรรจุบุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานใน สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ได้ตามเหตุผลความจำเป็น โดยให้คำนึงถึงความเป็นธรรม เป็นที่ยอมรับ และการป้องกันผลกระทบอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นมาภายหลังตามหลักเกณฑ์ที่ ก.พ. กำหนดไว้เดิม

3. ให้ยกเลิกตำแหน่งที่จ้างงานด้วยรูปแบบอื่น

นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขก็ให้ชี้แจงทำความเข้าใจกับบุคลากรที่ได้รับการคัดเลือกบรรจุ และแต่งตั้งเป็นข้าราชการ ให้ทราบแลเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์อย่างถูกต้อง และเมื่อได้ดำเนินการบรรจุบุคลากรครบถ้วนตามที่ได้รับอัตรามาทั้งหมด 38,105 อัตราแล้ว ก็ให้กระทรวงสาธารณสุข รายงานผลการดำเนินการ ตลอดจนให้แจ้งการยกเลิกตำแหน่งที่จ้างงานด้วยรูปแบบอื่นให้ คปร.ทราบ ภายในเดือนมีนาคม 2564 ด้วย

----------------------

ที่มา : มติ ครม. 16 มี.ค.64 ไทยคู่ฟ้า