‘มิสแกรนด์เมียนมา’ ขอ ‘Work Permit’ ในไทย ‘สถานะผู้ลี้ภัย’ เป็นเรื่องอนาคต
“ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ตอบชัด มิสแกรนด์เมียนมา “ฮาน เลย์” อยู่ในความดูแลของกองประกวด “มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล” เบื้องต้นจะยื่นเรื่องขอ Work Permit เพื่อให้ทำงานในไทยได้ ส่วนจะขอสถานะ “ผู้ลี้ภัย” หรือไม่นั้น เจ้าตัวบอกว่าเป็นเรื่องของอนาคต
ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานและผู้ก่อตั้งเวทีการประกวด ‘มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล’ (MGI) พร้อมด้วย ‘ฮาน เลย์’ (Han Lay) มิสแกรนด์เมียนมาร์ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวไขข้อข้องใจในทุกประเด็นขึ้นในวันนี้ (31 มีนาคม) ภายหลังจากที่ทางกองประกวดฯ ได้เปิดโอกาสให้เธอขึ้นพูดเกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรงในเมียนมาบนเวทีประกวดมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 รอบชิงชนะเลิศ จนทำให้หลายคนเป็นห่วงว่าอนาคตของเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป และจะมีปัญหากับทั้งทางการเมียนมา และทางการไทยตามมาหรือไม่
สำหรับสถานะความเป็นอยู่ของ ‘ฮาน เลย์’ ในปัจจุบันนั้น ณวัฒน์ อิสรไกรศีล กล่าวว่า อยู่ภายใต้การดูแลของ MGI ซึ่งออกค่าใช้จ่าย และรับผิดชอบทุกอย่างให้โดยไม่มีกำหนด เพราะยังไม่ทราบว่าเรื่องนี้จะยืดเยื้อไปอีกนานแค่ไหน แต่นโยบายเบื้องต้นคือ 3 เดือนก่อน
โดยตอนนี้ทางกองประกวดฯ กำลังยื่นเรื่องขอใบอนุญาตทำงาน หรือ Work Permit ให้กับ ฮาน เลย์ เพื่อที่เธอจะได้สามารถทำงานในไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ถ้าไม่ได้ Work Permit ก็คงต้องต่อวีซ่าท่องเที่ยวเพื่อให้สามารถอยู่ประเทศไทยต่อไปได้
- ไม่ห่วงเรื่องความปลอดภัย
ในส่วนความปลอดภัยของมิสแกรนด์เมียนมานั้น ณวัฒน์บอกว่า ฮาน เลย์ อยู่ในความดูแลของ MGI โดยจะมีพี่เลี้ยงอยู่ด้วย 24 ชั่วโมง แม้แต่เวลานอนก็นอนด้วยกัน จัดหาอาหารให้ การออกไปพบปะผู้คนก็จะไปในกรณีที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น
ส่วนเรื่องที่มีหน่วยงานราชการของไทยติดต่อมาขอรายละเอียดของ ‘ฮาน เลย์’ นั้นก็ต้องขออภัยด้วยที่ไม่สามารถให้ข้อมูลได้มากไปกว่านี้เพราะยังไม่แน่ใจถึงวัตถุประสงค์ในการมาสอบถาม
“ช่วงนี้อยากให้ทุกอย่างสเต็ปดาวน์ลงก่อน ใจเย็น ๆ ถ้าอยากจะสัมภาษณ์หรือคุยกับน้องจริงๆ ค่อยมาว่ากัน ณ ตอนนี้เราต้องช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน และคนที่มีความจำเป็นเฉพาะหน้าก่อน”
“สำหรับเรื่องความปลอดภัยในประเทศไทยผมไม่ค่อยเป็นห่วง เพราะผมมีทีมดูแล ผมจะไม่บอกที่อยู่ที่ชัดเจน เค้าไม่เคยได้ไปไหนตามลำพังเด็ดขาด เราขอไม่ให้เค้าตอบไอจีเพราะเราไม่รู้ว่าเป็นคนที่หวังดีหรือเป็นคนที่ใช้ให้มาสืบ เราเป็นห่วงเค้า ถ้าเหตุการณ์ยาวนาน เราจะอยู่กันอย่างนี้จนถึงสิ้นปีเพราะเค้ากลับไม่ได้อยู่แล้ว”
ณวัฒน์กล่าวด้วยว่าตอนนี้มีคนติดต่อมาขอบริจาคเงินและให้ความช่วยเหลือกับมิสแกรนด์เมียนมาเป็นจำนวนมาก แต่ ‘ฮาน เลย์’ ยืนยันว่าไม่ขอรับเงินบริจาคช่วยตัวเองอย่างเด็ดขาด แต่ขอให้บริจาคช่วยชาวเมียนมาซึ่งกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากแทน
ฮาน เลย์ บอกว่าตอนนี้ยังไม่มีแผนการอะไรนอกจากทำตามคุณณวัฒน์ ขณะที่เจ้าตัวบอกว่าขอรอดูจังหวะก่อน อาจขอเข้าพบเจรจากับสถานทูตเมียนมา แล้วตอนนี้ก็กำลังมองหางานง่าย ๆ ให้เธอทำ เช่น product placement เพราะฮาน เลย์พูดไทยไม่ได้เลย แต่พูดภาษาเกาหลีได้เพราะเรียนมา 2 ปี แล้วตอนนี้ก็มีผลิตภัณฑ์ของเกาหลีหลายตัวเสนอว่าจะช่วยซัพพอร์ตฮาน เลย์เพราะเรื่องมนุษยธรรม ไม่ได้คิดเรื่องการตลาด
- ‘สถานะผู้ลี้ภัย’ เป็นเรื่องของอนาคต
‘ฮาน เลย์’ ได้กล่าวขอบคุณคนทั่วโลกที่พูดถึงสถานการณ์ในเมียนมาตอนนี้ เธอบอกว่าการขึ้นพูดบนเวที MGI ของเธอทำให้คนรู้เรื่องนี้กันมากขึ้น โดยก่อนหน้านี้คนจะรู้กันแค่ว่าเกิดการปฏิวัติขึ้นในเมียนมา แต่ไม่รู้ว่ามีผู้เสียชีวิตและทุกข์ทนกันมากถึงขนาดนี้ และเธอยังไม่ได้ฟี้ดแบ็คในแง่ลบเกี่ยวกับเรื่องที่ออกมาพูด
สำหรับเรื่องที่มีข่าวชาวเมียนมาหลายพันคนอพยพมาอยู่ตามแนวชายแดนไทยนั้น ฮาน เลย์ บอกว่าในฐานะพลเมืองชาวเมียนมาเธอยากจะบอกว่าได้โปรดช่วยประชาชนชาวเมียนมาด้วย เพราะพวกเขาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและสันติ
“ฉันบอกได้แค่ว่านี่เป็นเรื่องของมนุษยธรรม ถ้าคุณคำนึงถึงมนุษยธรรมคุณต้องช่วยผู้คน มันไม่ใช่เรื่องการเมือง มันเป็นเรื่องของมนุษยธรรม”
สำหรับเรื่องครอบครัวของเธอที่หลายคนเป็นห่วงนั้น ‘ฮาน เลย์’ บอกว่าได้ติดต่อพูดคุยกับครอบครัวแล้ว ล่าสุดเพิ่งคุยกันไปเมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมานี้เอง พวกเขาปลอดภัยดีเพราะอยู่ในเมืองเมาะลำไย ทางภาคใต้ของเมียนมา ซึ่งไม่ได้มีเหตุความรุนแรงเช่นที่ย่างกุ้ง
ฮาน เลย์บอกว่าจริงๆ แล้วตัวเธอเองก็กลัว เพราะเธอก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง แล้วเธอก็เป็นห่วงครอบครัวเช่นกัน แต่เนื่องจากชาวเมียนมาทุกคนต่างตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายเหมือนกันหมด เธอจึงต้องเป็นห่วงอนาคตของประเทศ และอนาคตของคนรุ่นใหม่ ในเมื่อเธอเป็นคนเดียวที่สามารถติดต่อกับประชาคมโลกได้ในตอนนี้ เธอจำเป็นต้องเข้มแข็ง ต้องเข้มแข็งเพื่อครอบครัวตัวเอง และเข้มแข็งเพื่อประชาชนชาวพม่า
ส่วนเรื่องที่ว่าเธอจะขอสถานะผู้ลี้ภัยหรือไม่นั้น ‘ฮาน เลย์’ บอกว่าตอนนี้ยังไม่แน่ใจเพราะเธอยังปลอดภัยดีอยู่ แต่ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
ขณะที่ณวัฒน์ อิสรไกรศีล เสริมว่าได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับฮาน เลย์แล้ว ถ้าเธอจะยื่นเรื่องขอเป็นผู้ลี้ภัย ทาง MGI ก็จะรับรองสถานะให้ เพราะสถานการณ์ที่เธอเผชิญอยู่ในขณะนี้สามารถขอลี้ภัยไปประเทศที่ 3 ได้ และตอนนี้ก็มีหลายประเทศที่ยื่นความจำนงที่จะช่วยเหลือมา แต่ขอไม่บอกชื่อ
ฮาน เลย์ ยังบอกด้วยว่าขอให้คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็นเรื่อง “มนุษยธรรม” ไม่ใช่เรื่อง “การเมือง” เพราะมีคนต้องเสียชีวิต และทนทุกข์ทรมานเป็นจำนวนมาก ขอแค่ให้อยู่ในเรื่องของมนุษยธรรมแค่นั้น
- ทำไมถึงออกมาประท้วงกองทัพเมียนมา
สำหรับสาเหตุที่เธอและประชาชนเมียนมาออกมาประท้วงกันบนท้องถนนนั้น ฮาน เลย์ บอกว่าตอนแรกเป็นการประท้วงเรื่องที่ผู้นำรัฐบาลพลเรือน (อองซาน ซูจี) ถูกจับตัวไปคุมขัง แต่ตอนนี้เป้าหมายเปลี่ยนไปเล็กน้อย พวกเขาต้องการประชาธิปไตย เพราะมีคนในเมียนมาเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
มิสแกรนด์เมียนมายังบอกด้วยว่าก่อนที่จะมาประกวดในไทยนั้นเธอออกไปประท้วงบนท้องถนนทุกวันเป็นเวลาร่วม 2 สัปดาห์ พร้อมย้ำว่าเธอยืนหยัดเพื่อมนุษยธรรม ไม่ได้ทำเพื่อความดัง แต่ทำเพื่อประชาชนชาวเมียนมา
ในระหว่างที่ให้สัมภาษณ์ ‘ฮาน เลย์’ ถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เมื่อเล่าว่าก่อนที่เธอจะขึ้นเวทีประกวดมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล รอบตัดสินเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา มีชาวเมียนมาจำนวนมากได้ส่งข้อความมาบอกเธอเรื่องที่มีผู้ประท้วงชาวเมียนมาเสียชีวิตเป็นจำนวนมากถึงกว่า 400 คน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอร้องไห้หนักมากบนเวที โดยพวกเขาบอกว่าจะยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และเพื่อคนรุ่นต่อไปบนท้องถนน และขอให้เธอช่วยต่อสู้บนเวทีด้วยได้ไหม ซึ่งเธอก็ตอบไปว่าได้
credit : ธัชดล ปัญญาพานิชกุล
- วอนยูเอ็นให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน
สุดท้าย ‘ฮาน เลย์’ ได้ฝากถึงรัฐบาลสหรัฐฯ และองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่เธอบอกว่าถึงตอนนี้ยังไม่ได้ติดต่ออะไรมาเลยว่า เมียนมาต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนจากนานาประเทศในตอนนี้
“พวกเขาบอกเราว่าต้องรอก่อนเพราะมีขั้นตอนหลายอย่างต้องจัดการ แต่ตอนนี้มีคนตายอยู่ทุกวัน ทำไมพวกเขาถึงยังรออยู่ได้ ฉันเลยอยากบอกให้พวกเขาลงมือดำเนินการโดยเร็ว ฉันอยากบอกกับยูเอ็นด้วยว่าทำไมคุณถึงรอที่จะเทคแอคชั่น มีคนจำนวนมากตายในพม่า อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดกันแน่ แค่คิดเรื่องสิทธิมนุษยชนแล้วก็ลงมือดำเนินการด้วยเถอะค่ะ