เลือก 'บ้านโซลาร์เซลล์'อย่างไรให้เหมาะกับผู้สูงอายุ

“บ้าน” เป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์ และเป็นศูนย์รวมของสถาบันครอบครัว ที่พ่อแม่ปู่ย่าตายาย ลูกหลาน ได้อาศัยอยู่ร่วมกัน ยิ่งประเทศไทยกำลังเข้าสู่ "สังคมสูงวัย" จะมีประชากรผู้สูงอายุมากขึ้น ขณะเดียวกัน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายคนต้องเข้าสู่โหมด Work from home หรืออาจจะต้องทำงานสลับระหว่างที่บ้านกับออฟฟิค “บ้าน” จึงมีความจำเป็นมากยิ่งขึ้น

ทว่าปัจจุบัน “บ้าน หรือที่อยู่อาศัย” มีหลากหลายแบบให้เลือก และมีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงก่อนเลือกบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ราคา สภาพแวดล้อม ความสะดวกสบาย การเดินทาง รวมถึงฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ต้องตอบโจทย์คนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ

• เสนาฯ สร้าง"บ้านโซลาร์เซลล์"ช่วยลดค่าใช้จ่าย โลกร้อน

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ ผู้บริหารบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าก่อนหน้าที่จะเกิดน้ำท่วมเมื่อปี 2554 บริษัท เสนาฯ การเลือก"บ้าน"ขณะนี้ทำเล สภาพแวดล้อม ความต้องการบ้านในฝันของแต่ละคนแล้ว ต้องดูรายได้ของตนเองด้วย เพราะด้วยภาวะทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน และการใช้ชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป"บ้าน" หรือที่อยู่อาศัยต้องเหมาะกับคนทุกช่วงวัย มีฟังก์ชั่นครบครัน ที่สำคัญต้องช่วยลดค่าใช้จ่าย และช่วยดูแลโลกร่วมด้วย

จากการศึกษาร่วมกับทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่า "โซลาร์เซลล์" ช่วยประหยัดค่าไฟ และเป็นการผลิตไฟฟ้าจาก"พลังงานสะอาด" พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งช่วงแรกอาจจะเป็นการลงทุนสูง แต่ปัจจุบันมีความต้องการมากขึ้นเทคโนโลยีมีมากขึ้น ขณะเดียวกัน ภาครัฐส่งเสริมให้ใช้"โซลาร์เซลล์"ภาคประชาชน ทำให้ความต้องการ"โซลาร์เซลล์"มากขึ้น มีบริษัทซื้อขาย"โซลาร์เซลล์"มากขึ้น ราคา"โซลาร์เซลล์"ถูกลง

• "บ้านโซลาร์เซลล์"เหมาะกับ3เจน รองรับสังคมสูงวัย

ผศ.ดร.เกษรา กล่าวต่อว่า ตอนนี้มีการส่งเสริมให้ใช้"โซลาร์เซลล์" มากขึ้น การเลือก"โซลาร์เซลล์"ต้องเลือกจากบริษัทที่มีความมั่นคง มีความน่าเชื่อถือ มีความแน่ชัดว่าจะอยู่ได้ถึง 25 ปี เพราะ"โซลาร์เซลล์"ติดตั้งครั้งหนึ่งจะสามารถอยู่ได้25 ปี หากบริษัทที่ไปซื้อแผง"โซลาร์เซลล์"ไม่สามารถอยู่ถึง 25 ปี การซ่อมบำรุง ดูแลรักษา ประกันจะทำอย่างไร ฉะนั้นควรศึกษา แผงโซลาร์เซลล์ ตัวแปลงไฟ สายไฟและอุปกรณ์ต่างๆ ก่อนการติดตั้งให้มีคุณภาพดี และ การดูแลหลังการขายที่ครบวงจร และเป็นมืออาชีพ มีความรู้และประสบการณ์จริง เพื่อความปลอดภัย และความคุ้มค่าในการใช้งาน

“การติดตั้งโซล่าร์เซลล์ พลังงานแสงอาทิตย์ หรือพลังงานสะอาด เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนรักบ้าน ที่ต้องอาศัยอยู่ในบ้านตลอดทั้งวัน และการใช้ชีวิตแบบ Work from home มากขึ้น จะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย เสียค่าไฟที่น้อยลงและได้ช่วยกันลดปัญหาโลกร้อนแล้ว ฟังก์ชั่นของบ้านยังตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยทั้ง 3 เจนเนอร์เรชั่น โดยเฉพาะรองรับสังคมผู้สูงอายุในอนาคตอีกด้วย”ผศ.ดร.เกษรา กล่าว

“ผู้สูงอายุ” เป็นกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่อยู่ "บ้าน"มากกว่าเจนเนอร์เรชั่นอื่นๆ การออกแบบฟังก์ชัน พร้อมจัดสภาพแวดล้อม จัดRelation Space มุมพักผ่อนภายในบ้าน ที่เชื่อมโยงกับพื้นที่ Outdoor ให้ลูกบ้านได้สัมผัสธรรมชาติ รับลมและแสงแดดขณะเดียวกันควรมีการออกแบบห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน หรือ ห้องผู้สูงอายุในอนาคตได้ ปลั๊กไฟ ถูกออกแบบให้สูงกว่าพื้น 40 ซม. เพื่อ"ผู้สูงอายุ"สามารถเสียบปลั๊กได้เองโดยไม่ต้องก้ม

ผศ.ดร.เกษรา  กล่าวต่อว่าทุกโครงการของเสนามีโซลาร์ติดตั้งให้กับบ้านทุกหลัง รองรับทุกคนทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ต้องใช้ชีวิตในช่วงกลาง สามารถเปิดแอร์ หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ โดยไม่ต้องกังวลหเรื่องค่าไฟแพง เพราะการติดโซลาร์จะช่วยประหยัดค่าไฟ มีการนำเทคโนโลยีมาติดตั้งในบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกสบายยิ่งขึ้น รวมถึงมีฟีเจอร์ระบบที่เรียกว่า SOS ช่วยดูแลคุณยามฉุกเฉินตลอด 24 ชม., Triple Security สามารถดู CCTV เชื่อมโยงผ่านApp 360° ช่วยให้คุณสะดวกสบายตลอด 24 ชม. ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ที่มีผู้สูงอาศัยอยู่บ้านเพียงลำพัง

• เปิดรายละเอียด "บ้านโซลาร์เซลล์" เสนาฯ ตอบโจทย์ชีวิต

รายละเอียดของการจัดสร้าง "บ้านโซลาร์เซลล์"สำหรับผู้สูงอายุ จะมีการศึกษาถึงความต้องการของผู้บริโภคโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ฟังก์ชั่นไหนที่ดีและตอบโจทย์ชีวิต ในทุกโครงการพยายามใส่ในรายละเอียดเข้าไป และทำอย่างต่อเนื่องพยายามคิดและออกแบบ ให้ตรงกับความต้องการของพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มให้มากที่สุด

“บ้านของผู้คนในตอนนี้ อาจจะไม่ใช่เป็นการซื้อบ้านหลังแรกของพวกเขา แต่จะเป็นบ้านที่พวกเขาต้องอยู่ไปตลอดชีวิต การสร้างบ้านในโครงการเสนาฯ ทั้ง 17 โครงการในปีนี้ ต้องตอบสนองทั้งความสะดวกสบาย มีฟังก์ชั่นใช้งานครบและเหมาะกับทุกกลุ่ม และบ้านโซลาร์เซลล์ มีเงินไม่ถึงล้านบาทก็สามารถซื้อได้ ที่สำคัญต้องเป็นบ้านที่เหมาะสมกับทุกช่วงวัย ต่อให้อายุในการซื้อบ้านครั้งแรกเป็นวัยทำงาน แต่บ้านต้องสามารถอยู่ได้ไปตลอดชีวิต แม้จะเข้าสู่ช่วงผู้สูงอายุ ก็ต้องอยู่บ้านได้อย่างสะดวกสบาย และมีความสุข เป็นการลงทุนครั้งเดียวที่คุ้มค่า” ผศ.ดร.เกษรา กล่าวทิ้งท้าย

อย่างไรก็ตาม การเลือกบ้านสำหรับ"ผู้สูงอายุ" นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแก่ลูกหลานแล้ว ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย จัดพื้นที่เอื้อต่อการเคลื่อนตัวหรือก้าวเดิน เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ หกล้ม อุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในบ้านต้องใช้งานง่าย สะดวก ออกแรงน้อย และควรจะจัดสภาพแวดล้อมให้มีชีวิตชีวาเหมาะแก่ผู้สูงอายุ