สปสช.เปิดสายด่วนให้คำปรึกษา รพ. แนะนำการเบิกจ่ายเงิน
สปสช.เปิดสายด่วนจ่ายเงินเร็ว ให้โรงพยาบาลสอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับการเบิกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลพร้อมให้คำตอบในทันที หวังช่วยลดข้อผิดพลาดในการส่งข้อมูลเบิกเงินตั้งแต่ต้นทาง ไม่ต้องย้อนกลับไปแก้ให้เสียเวลา โรงพยาบาลได้เงินไปหมุนเวียนเร็วขึ้น
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ สปสช.ได้ปรับระบบการจ่ายเงินชดเชยค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลและหน่วยบริการต่างๆ จากเดิมที่มีรอบการจ่ายทุก 1 เดือน เป็นจ่ายทุกๆ ครึ่งเดือน หรือเดือนละ 2 ครั้ง และในอนาคตจะมีการปรับให้เร็วขึ้นอีก เพื่อเพิ่มสภาพคล่องแก่หน่วยบริการ โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชน
ซึ่งเมื่อมีสภาพคล่องดีขึ้น ก็จะมีความคล่องตัวในการรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 ได้มากขึ้นด้วยนั่นเอง โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2564 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามในส่วนของงบรักษาผู้ติดเชื้อโควิดกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิทุกที่ หรือ UCEPและ UCEP COVID นั้น มีการเบิกจ่ายให้โรงพยาบาลทุก 15 วันอยู่แล้ว
ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการเบิกจ่ายเป็นไปอย่างราบรื่น ทาง สปสช. ได้จัดตั้งสายด่วนจ่ายเงินเร็วหรือ Health Desk ซึ่งจะเป็นคลินิกให้คำปรึกษาแก่โรงพยาบาล ตลอดจนคำแนะนำการเบิกจ่ายเงินชดเชยค่าบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำหรับให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลหรือหน่วยบริการอื่นๆ โทรศัพท์ติดต่อสอบถามปัญหาข้อสงสัยในการเบิกจ่ายเงิน ขึ้นมา 6 เลขหมาย ประกอบด้วย 02-142-3100 ถึง 3, 061-402-6368 และ 090-197-5129
"สายด่วนทั้ง 6 สายนี้ จะมีลักษณะการตอบข้อสงสัยต่างๆ แบบทันที เช่น เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสงสัยว่ารายการนี้จะบันทึกในรายการขอเบิกจ่ายอย่างไร เดิมอาจจะถามมาแล้ว สปสช.ตอบกลับใน 1-2 วัน แต่ระหว่างนั้นโรงพยาบาลอาจจะส่งเบิกมาแล้ว พอ สปสช. มาตรวจดูก็พบว่าไม่ถูกต้อง ต้องเสียเวลากลับไปบันทึกรายการมาใหม่ การจ่ายเงินก็จะล่าช้าออกไป แต่สายด่วนทั้ง 6 สายนี้เมื่อมีข้อสงสัยถามมาก็จะตอบให้ทันที รวมถึงให้ข้อแนะนำอื่นๆ ที่จะทำให้การบันทึกในระบบการเบิกจ่ายเงินได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งตะช่วยลดความผิดพลาดในการบันทึกข้อมูลตั้งแต่ต้นทาง โรงพยาบาลก็จะได้รับเงินค่าบริการเร็วขึ้นนั่นเอง" นพ.จเด็จ กล่าว
นพ.จเด็จ ย้ำว่า สปสช.พยายามสนับสนุนการให้บริการของโรงพยาบาลต่างๆในการรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 ในครั้งนี้ เช่น ปรับปรุงแนวทางปฏิบัติการขอรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขสำหรับกรณีติดเชื้อโควิด-19 ให้ครอบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตรวจคัดกรอง การรักษาผู้ที่ติดเชื้อแล้ว การใช้จ่ายในการรับส่งผู้ป่วย รวมทั้งค่าใช้จ่ายสำหรับโรงพยาบาลสนาม และ Hospitel เป็นต้น
รวมทั้งการปรับรอบการจ่ายกรณีการคัดกรองสำหรับผู้ป่วยนอก (OPD) ให้จ่ายเร็วขึ้นเป็นทุกๆ 15 วัน ซึ่งจะทำให้โรงพยาบาลที่ดูแลมีกระแสเงินสดที่จะนำไปหมุนเวียนเพื่อใช้ในการดูแลผู้ป่วย โดยไม่กระทบการบริหารจัดการในส่วนอื่นๆ ของโรงพยาบาล ตลอดจนการจัดตั้งสายด่วนจ่ายเงินเร็วในครั้งนี้ ทั้งหมดมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่โรงพยาบาลให้มากที่สุด ลดความกังวลหรือข้อติดขัดด้านการเงิน เพื่อที่โรงพยาบาลจะได้ทุ่มเทกับการรักษาผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในส่วนของโรงพยาบาลเอกชน เนื่องจาก สปสช. ร่วมเป็นหน่วยงานจัดหาเตียงให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ด้วย
ขอให้มั่นใจว่าผู้ติดเชื้อที่สายด่วน สปสช. 1330 ประสานขอเตียงให้นั้นเป็นไปตามหลักเกณฑ์เบิกจ่ายค่าชดเชย ทางโรงพยาบาลจะได้รับค่าใช้จ่ายในการรักษาอย่างแน่นอน