สปสช.ยืนยันหาเตียงโควิด 1330 หากไม่มีคนรับสาย มีคนโทรกลับแน่นอน
เลขาธิการ สปสช. ยืนยันหาเตียงโควิด หากโทรมา 1330 แล้วไม่มีคนรับสาย มีคนโทรกลับแน่นอนให้ความมั่นใจ ปชช.อยู่เกณฑ์เสี่ยง เข้ารับการรักษา-ตรวจหาเชื้อโควิดได้ฟรี ไม่มีเรียกเก็บเพิ่ม เผยเตรียมติดต่อรับตัวผู้ตกค้างภายใน 1-2 วันนี้หากระบบศูนย์แรกรับเสร็จสิ้น
นพ.จเด็จ ธรรมรัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า คนไทยที่ป่วยเป็นโรคโควิด-19 ล้วนได้รับการรักษาฟรีในทุกกรณี ไม่ว่าจะใช้สิทธิรักษาพยาบาลในระบบใดก็ตาม ครอบคลุมการเข้ารับบริการทั้งในหน่วยบริการภาครัฐและเอกชน ขณะเดียวกันยังรวมไปถึงบริการตรวจคัดกรอง ซึ่งประชาชนทุกคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
ทั้งนี้ ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงจะต้องเข้าเกณฑ์กติกาตามที่กรมควบคุมโรคกำหนด หรือในอีกกรณีที่หากมีการประกาศให้ประชาชนกลุ่มใดเป็นกลุ่มเสี่ยงและต้องเข้ารับการตรวจ ประชาชนกลุ่มดังกล่าวก็สามารถเข้ารับบริการตรวจคัดกรองที่โรงพยาบาล เพื่อหาเชื้อโควิด-19 ได้ฟรี ไม่ว่าผลออกมาจะเป็นบวกหรือลบก็ตาม นอกจากนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.เป็นต้นมา ยังได้กำหนดให้แพทย์สามารถใช้วิจารณญาณได้ว่าผู้ป่วยรายใดจำเป็นที่จะต้องได้รับการตรวจ ซึ่งผู้ป่วยรายดังกล่าวก็จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
“ตอนนี้อาการของคนไข้โควิดนั้นเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย บางครั้งแม้ไม่มีอาการใด แต่ไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงมา แพทย์ก็อาจสั่งให้ตรวจได้ ซึ่งถ้าแพทย์สั่งแล้วไม่ว่ายังไงประชาชนก็จะได้รับบริการฟรี ดังนั้นไม่ใช่ว่าใครก็ตามจะมาขอรับการตรวจได้ แต่แพทย์จะต้องเป็นผู้กรองให้อีกที” นพ.จเด็จ กล่าว
นพ.จเด็จ กล่าวว่า ในส่วนของระบบการจ่ายนั้นปัจจุบันครอบคลุมไปยังโรงพยาบาลเอกชนทุกแห่ง แม้จะไม่ได้อยู่ในระบบใดๆ ของรัฐ โดยมีกติกาและอัตราการจ่ายซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน อย่างไรก็ตามในส่วนของปัญหาที่เคยมีข้อท้วงติงในเรื่องของการเบิกจ่ายช้านั้น ขณะนี้ สปสช. ได้มีการปรับระบบให้เบิกจ่ายได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ เพื่อให้หน่วยบริการมีงบประมาณเพียงพอในการดูแลผู้ป่วยต่อไป
และหากโรงพยาบาลใดพบยังปัญหาล่าช้า ติดขัด ก็สามารถติดต่อเข้ามาได้ทางโทรศัพท์ 6 เลขหมาย ประกอบด้วย 02-142-3100 ถึง 3, 061-402-6368 และ 090-197-5129 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประสานต่อไป ซึ่งเบอร์โทรศัพท์ทั้ง 6 เลขหมายนี้สำหรับให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลโทรมาสอบถามเรื่องการเบิกจ่ายต่างๆ เท่านั้น ส่วนกรณีประชาชนมีข้อสงสัยเรื่องการใช้สิทธิบัตรทอง หรือประสานหาเตียงโควิด-19 โทรไปที่สายด่วน 1330 เหมือนเดิม
นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า กรณีของกติกาต่างๆ ที่อาจยังมีความไม่เข้าใจ เช่น การไปโรงพยาบาลสนาม หรือโรงแรมที่เป็น Hospitel นั้นจะเบิกได้หรือไม่นั้น ยืนยันว่าในทุกกิจกรรมที่ดำเนินการอยู่ภาครัฐล้วนมีกลไกการเบิกจ่ายอยู่แล้ว และไม่มีรายการใดที่จะเรียกเก็บจากประชาชนที่ป่วยเพิ่มเติม ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนที่คิดว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงรีบหาโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการตรวจ เพราะหากพบว่าติดเชื้อจะได้สามารถเข้าสู่กระบวนการแยกตัวออกจากครอบครัวและชุมชนได้เร็ว ซึ่งจะเป็นวิธีป้องกันควบคุมโรคได้ดีที่สุด
สำหรับสายด่วน สปสช. 1330 ที่ร่วมให้บริการประสานหาเตียงตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 2564 เป็นต้นมา พบว่ามีจำนวนผู้โทรสอบถามข้อมูลเฉลี่ยวันละ 4,000 ราย เป็นผู้ป่วยติดเชื้อประมาณวันละกว่า 100 ราย โดยถึงขณะนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่เกือบ 2,000 ราย ซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งได้เข้าสู่ระบบแล้ว แต่ส่วนที่ยังค้างอยู่ในระบบประมาณกว่า 500 ราย ขณะนี้กำลังรอเตียง โดยมีระบบติดตามทุก 6 ชั่วโมง เพื่อคอยติดตามอาการและประสานกับทางโรงพยาบาลต่อไป
“เป้าหมายของเราคือจะต้องไม่มีสายค้างอยู่ในระบบ ฉะนั้นหากประชาชนโทรมาแล้วยังไม่มีคนรับสายก็ไม่ต้องกังวล เพราะจะมีคนโทรกลับไปอย่างแน่นอน และเรากำลังทำให้การโทรกลับเร็วขึ้นด้วยการเพิ่มจำนวนคน ซึ่งขณะนี้ก็น่ายินดีว่ามีหลายหน่วยงานที่ติดต่อเข้ามาเป็นอาสาสมัครช่วยในการโทรกลับ ซึ่งก็จะช่วยงานของเรารวดเร็วขึ้นได้” นพ.จเด็จ กล่าว