ใต้จาน 'อาลัว' จากพระเครื่อง ถึงคุณไสย ชวนไปแกะสูตรสำเร็จ 'มาดามชุบ' รันวงการขนมไทย

ถึงเวลาที่ขนมไทยอย่าง ‘อาลัว’ จะมีหน้าตาในโซเชียลแข่งกับ ‘ครัวซองต์’ บ้าง แต่กลับกลายเป็นกระแสดราม่าที่ลุกลามใหญ่โต ถึงขนาดที่ทางร้าน ‘มาดามชุบ’ เจ้าของไอเดียการทำขนมอาลัวในรูปพระเครื่องต้องยุติการขายขนมไทยเจ้าปัญหานี้ไปโดยปริยาย 

ดราม่าระหว่างความเหมาะสม และไม่เหมาะสมในศาสนาพุทธ ถือเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงหลายต่อหลายครั้งในประเทศไทย ล่าสุดก็เกิดกับขนมอาลัวรูปทรงพระเครื่องที่ต่างถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความสร้างสรรค์ และไม่เหมาะสม แต่ถึงอย่างนั้น ขนมอาลัว และร้านมาดามชุบ ก็กลายเป็นกระแสในระยะเวลาชั่วข้ามคืน และสร้างความรู้จักขจรไกลจนติดเทรนด์กูเกิลเสิร์ซประเทศไทย 

เมื่อทำความรู้จักร้านมาดามชุบ ทางเพจเฟซบุ๊คแล้ว สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจนอกเหนือกระแสดราม่าพุทธศาสนา คือการตลาดที่เกิดในเพจมาดามชุบ ร้านขนมไทยที่ไม่มีหน้าร้าน แต่มียอดขายอย่างต่อเนื่อง เพราะอะไรเพจมาดามชุบถึงขายได้ ขนมไทยที่ถูกนิยามถึงความดั้งเดิม และโบราณ พร้อมสำหรับตลาดออนไลน์แห่งความใหม่หรือยัง?  

    

• "ขนมไทย" ก็ครีเอทได้

ขนมไทย ทั้งทองหยิบ ฝอยทอง ทองหยอด ขนมชั้น อาลัว มักจะถูกพบเห็นกันในงานมงคลสำคัญของไทยเช่นงานบวช มากกว่าเดินซื้อตามท้องตลาด แต่นั่นก็ไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าคนไทยจะไม่ชื่นชอบขนมไทย 

ความฮิตของขนมไทย ถูกฉุดขึ้นเป็นกระแสตามตัวแปรเป็นช่วงๆ ล่าสุดที่ผู้คนแห่หันมาสนใจขนมไทยอีกครั้ง เกิดขึ้นในปี 2562 จากละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ที่มีตัวละครหลักเป็นบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทย “ท้าวทองกีมาร์” เจ้าของต้นตำรับ และผู้คิดค้นขนมไทยที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบัน หลังจากกระแสละครจบ กระแสของขนมไทยก็กลับไปอยู่ที่ของตนเองคือ ลูกค้าเจ้าประจำที่กินบ่อย และ งานมงคลสำคัญ 

และกระแสของขนมไทยก็กลับมาอีกครั้งในปี 2564 กับ “อาลัวพระเครื่อง” ของมาดามชุบ ถ้าบอกว่านี่คือความสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นกับวงการขนมไทย ผู้คนก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ แม้จะไม่ใช่เจ้าแรกที่ทำอาลัวทรงอื่นๆ แต่รูปทรงพระเครื่องที่นี่คือที่แรก! 

นอกจากขนมอาลัวแล้ว เพจมาดามชุบยังเปิดขายออนไลน์ขนมไทยอื่นๆ ด้วยเช่นกัน มีทั้งลูกชุบ ขนมอาลัว กลีบลำดวน คุ้กกี้อบกรอบ วุ้นกรอบ จ่ามงกุฎ ซึ่งทางร้านจะแจ้งหน้าเพจว่าช่วงนี้รับทำขนมทางไหนบ้าง? 

ขนมแต่ละชนิดที่ออกขายนั้น จะมีการสร้างสรรค์รูปทรงที่ทันสมัยมากขึ้น หลุดจากทรงขนมแบบเดิมๆ ที่เคยเห็นมา ลูกชุบทรงน้ำพริกกะปิผักลวก ข้าวเหนียวมะม่วง ทรงพวงมาลัย  คุ้กกี้อบกรอบรูปดอกไม้ กลีบลำดวนทรงแก้วมังกร 

ดังนั้นแล้วจุดขายหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของขนมไทยร้านมาดามชุบ คือ ความคิดสร้างสรรค์ ที่ใส่ลงไปในขนมไทยไม่เคยหยุดนิ่ง โดยล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวสดๆ ร้อนๆ ก็คือ "อาลัวคุณไสย" ที่ทำเอาโซเชียลฮือฮากันได้อีกรอบ!

• ขนมไทยขายออนไลน์ ไม่มีหน้าร้านก็ปังได้ 

เมื่อการสื่อสารไร้พรมแดน การขายของก็ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านเสมอไป แต่ไม่ใช่ว่าใครก็ปังได้ เพราะการขายของออนไลน์ โดยเฉพาะการขายอาหารนั้น เข้าถึงยากมากกว่าเสื้อผ้า หรือของใช้ที่มองด้วยตาเปล่าก็ตัดสินใจง่ายๆ 

มาดามชุบ ร้านขนมไทยที่เปิดขายเฉพาะออนไลน์เท่านั้น ในเพจเฟสบุ๊คมาดามชุบ มีคนกดไลก์มากถึง 30,734  และมียอดผู้กดติดตามจำนวน 32,175 คน นอกจากการโพสต์ขายขนมไทย และรับออเดอร์แล้ว สิ่งหนึ่งที่เพจมาดามชุบมีคือการสร้างตัวตนของเพจ มี Storytelling ที่มีความน่าสนใจ และสร้างความเป็นผู้เชี่ยวชาญ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีคำว่าเจ้าดั้งเดิมต่อท้าย เช่นการโพสต์ข้อความว่า 

“ก่อนอื่นต้องขออภัยมากๆเลยนะคะและขอบคุณที่ให้ความสนใจ ตอนนี้กำลังผลิตไม่พอจริงๆค่ะ​ หลักๆทำเองคนเดียว​ ประกอบกับการทำขนมชนิดนี้ต้องพึ่งพาอากาศอุณหภูมิคอยช่วย​ ถึงจะมีเครื่องอบก็ตาม​  ทางร้านพิถีพิถันมากที่จะคุมคุณภาพไม่ใช่เพียงแค่สวยแต่รูปแต่อยากให้ทานอย่างเพลิดเพลินด้วย​ อย่างวันนี้ฝนตกอากาศชื้น​ ทำขนมออกมาก็ไม่อร่อย​ งดทำไปอีก”

การที่เพจออกมาโพสต์ถึงการใช้วัตถุดิบ หรือการออกมายอมรับออเดอร์จองเต็มแล้ว ไม่ใช่แค่เพื่อบอกสารแก่ผู้ติดตามเท่านั้น แต่ลึกๆ แล้วการกระทำเช่นนี้ยังถือว่า สามารถสร้างความเชื่อมั่น ให้ลูกเพจรู้สึกได้ถึงความตั้งใจจริงที่จะผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ ยอมปิดรับออร์เดอร์ ไม่เห็นแก่เงินที่มารอตรงหน้า แต่เลือกที่จะทำสินค้าให้ทันตามเวลา บนมาตรฐานที่ร้านตั้งไว้ แน่นอนว่า ลูกเพจ และลูกค้า ย่อมรู้สึกเชื่อมั่น เชื่อใจ และพร้อมเปิดใจที่จะลองสินค้าได้ไม่ยากเย็น โดยเฉพาะถ้าของอะไรที่ได้มายาก รอนาน สินค้านั้นก็จะยิ่งมีแวลูว์มากขึ้นตามไปด้วย 

เช่นเดียวกัน เมื่อเข้าไปสำรวจการโพสต์ข้อความในเพจมาดามชุบนั้น จะมีการโพสต์คอนเท้นต์ที่มีความหลากหลายทั้งรูปภาพ รีวิว ข้อมูลการทำ ต่อเนื่อง และมีความถี่ในทุกๆ วัน โดยเฉพาะการใช้พรีเซนเตอร์ซึ่งเป็นลูกสาวของเจ้าของร้านที่อยู่ในวัยกำลังโต กลายเป็นภาพน่ารักที่ใครกดเข้าไปดูก็ต้องอดเอ็นดูไม่ได้ 

สิ่งเหล่านี้คือสร้างคอนเทนต์ที่เป็นเอกลักษณ์ และแทรกข้อมูลร้าน เพื่อตอกย้ำตัวตนในเพจแบบที่ลูกเพจค่อยๆ ซึมซับไปทีละเล็กละน้อย ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของการทำการตลาดออนไลน์ ธุรกิจออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากเนื้อหาและหน้าตาของแอคเคานท์ ที่มีการโพสต์เนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ และให้ความสำคัญกับเอกลักษณ์ของแบรนด์ 

นอกจากการโพสต์เนื้อหาที่มีเอกลักษณ์และสม่ำเสมอแล้ว อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนเข้าใจง่าย เพราะจะทำให้คนที่เข้ามาดูในหน้าแอคเคานท์ สามารถรับรู้ข้อมูล และอาจจะตัดสินใจซื้อได้เลยทันที 

นอกจากนี้ทางเพจยังมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าโดยตรง มีการตอบกลับข้อความคุยสนุกสนาน เป็นกันเอง ซึ่งเป็นการสร้างคอมมูนิตี้แบรนด์ได้อย่างแนบเนียน

ที่กล่าวมาทั้งหมด สิ่งที่มาดามชุบทำบนเพจ ซึ่งตรงกับสูตรสำเร็จการตลาดออนไลน์ในหลายๆ ข้อ ถึงแม้จะไม่ได้เอ่ยออกมาตรงๆ แต่สิ่งที่ทำมันก็ส่งผลให้เพจปังมาจนถึงปัจจุบัน โดยที่มีออเดอร์เข้าตลอดเวลา แบบไม่มีหน้าร้าน 

   

   

• มาดามชุบ ไปไกลกว่าการขายขนม 

ถ้าปัดฟีดเฟสบุ๊คในเพจมาดามชุบ จะเห็นว่านอกจากการขายของเพจมาดามชุบยังเปิดคอร์สอบรมทำขนมไทย โดยจะเปิดตามช่วงเวลา และตามชนิดขนมที่ขายในร้าน โดยกลุ่มลูกค้าก็เป็นกลุ่มคนที่เป็นลูกค้าขนมไทย กลุ่มคนที่สนใจพัฒนาฝีมือโดยเห็นผลงานผ่านหน้าเฟสบุ๊ค เป็นต้น 

การที่ร้านขนมไทยมีการทำสินค้าออกมาขาย และเปิดคอร์สสอนไปด้วยนั้น นับว่ายังมีไม่มากในประเทศไทย แต่หากมองในมุมธุรกิจการขายคอร์สความรู้ นับเป็นธุรกิจทางการศึกษา ที่สร้างกำไรได้มากกว่าการขายของ และสร้างความยั่งยืนในแบบที่ไม่รู้ตัว 

ธุรกิจคอร์สออนไลน์นั้น ใช้ต้นทุนเงินต่ำ กำไรสูง ซึ่งมักจะมาจากความรู้ความชำนาญในงานประจำหรืองานอดิเรกที่ชอบทำ โดยจากเพจของมาดามชุบ นอกจากคอร์สออนไลน์จะสร้างรายๆ ได้แล้ว ยังเป็นการเผยแพร่สินค้า ยกระดับแบรนด์ตัวเองไปสู่เลเวล "อาจารย์" สร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ และมีความมั่นคงเสริมเข้าไปในธุรกิจหลัก (ขายขนม) อีกด้วย เรียกว่าทำ 1 ได้กลับมาอีกหลายสิ่ง

ทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้นคือสูตรสำเร็จที่แกะได้จากเพจมาดามชุบ ขายของออนไลน์ ใครก็ขายได้ แต่จะขายให้ปังนั้นไม่ใช่ใครก็ได้ สิ่งที่มาดามชุบทำ เรียกว่ารันวงการขนมไทยไหม ก็อาจจะกล่าวไม่ได้เต็มที่ แต่สิ่งหนึ่งคือการขายของแบบมาดามชุบที่หลายๆ เพจน่าเอาแบบอย่าง 

  

ที่มารูปภาพ : เพจมาดามชุบ