Art Therapy แต่งแต้ม ‘ศิลปะ’ ให้กับ ‘โรงพยาบาลโซ่พิสัย’
“ศิลปะ” เยียวยาจิตใจ ผ่อนคลายหายเศร้า และเครียดได้ มีผลในแง่ของจิตวิทยาแนวทางสร้างสรรค์ “ศิลปะบำบัด” Art Therapy ที่ทำได้ทั้งในแง่ของการเป็นผู้รังสรรค์ผลงานและผู้เสพผลงาน อาทิเช่นการวาดภาพ ระบายสี วันนี้มีการเนรมิต “โรงพยาบาลโซ่พิสัย” ให้ดูสดใส
สำหรับงาน Art Therapy แต่งแต้ม “โรงพยาบาลโซ่พิสัย” ให้เป็นงาน “ศิลปะ” ครั้งนี้ ขาบ-สุทธิพงษ์ สุริยะ ผู้ขับเคลื่อนศิลปะร่วมสมัยพญานาคชุมชน เล่าถึง โครงการ “ศิลปะบำบัด” ในโรงพยาบาลชุมชนว่า
“ก่อนอื่นต้องบอกว่า ผมสนใจการทำงานแบบจิตอาสา และประทับใจแนวทางการทำงานแบบยั่งยืนของมูลนิธิโครงการหลวงก็เลยเอามาปรับใช้เมื่อมีโอกาสเสมอ ครั้งนี้ได้รู้จักกับน้องโบ หรือ โบ-อิสรีย์ ฉัตรดอกไม้ไพร นักเรียนชั้น ม. 5 โรงเรียนสาธิตปทุมวัน เธอเป็นเด็กที่ไม่เข้าโรงเรียนกวดวิชาเลย เธออยากใช้เวลาค้นหาคุณค่าของชีวิตมากกว่า ผมรู้เพราะได้เจอกับคุณแม่ของน้องโบ คือ หญิง-ศิริบูรณ์ ณัฐพันธ์ที่ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิตของผม ได้เห็นสิ่งที่ผมทำ คุณแม่ก็เลยเอาหนังสือไปให้ลูกศึกษาเอง หลังจากนั้นก็บอกว่า น้องโบอยากมาทำงานจิตอาสาที่ อำเภอโซ่พิสัย ก็คือที่มาของงานโครงการนี้ ”
หลายโรงพยาบาลที่ขาดแคลนในต่างจังหวัด ปกติมักมีผู้เห็นความสำคัญให้การสนับสนุนอยู่แล้ว เช่นรวบรวมเงินมาบริจาค ซื้อสิ่งของที่ขาดแคลนมามอบให้ ครั้งแรกน้องโบและครอบครัวก็เช่นกัน ทว่าเธออยากทำอะไรที่ยั่งยืนกว่านั้น จึงคิดเปลี่ยนสภาพแวดล้อม ให้โรงพยาบาลดูสดใส ให้คนป่วย และญาติ พร้อมทั้งผู้ที่มาเยี่ยมไข้ ติดต่อกับโรงพยาบาลไม่รู้สึกหดหู่ เศร้าใจเหมือนแต่ก่อน
“ศิลปะบำบัด” Art Therapy ใน “โรงพยาบาล” จึงเกิดขึ้นโดย “โบ-อิสรีย์” ไปปรึกษาหารือกับเพื่อนๆที่อยู่โรงเรียนสาธิตปทุมวัน และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ในนามทีม Eleven Volts ภายใต้แนวคิดว่า “ทำอย่างไรให้โรงพยาบาลสวยงาม” สถานที่แบ่งเป็น 3 ส่วน
“เป็นโรงพยาบาลรัฐ ที่มีอายุ 30 ปีไม่เคยปรับปรุงอะไรเลย เผอิญผอ.โรงพยาบาลโซ่พิสัย ก็คือ นายแพทย์ สุรพงษ์ ลักษวุธ รักษาการ ผอ.รพ.โซ่พิสัย ท่านเป็นคนที่มีความคิดต่างและได้รู้จักกับผม เคยไปเห็นพิพิธภัณฑ์ชุมชนฯ ที่มีพญานาคเป็นสื่อกลาง เพราะบึงกาฬ เป็นเมืองแห่งพญานาค ก็เลยมีพญานาคในอิริยาบถต่างๆ เช่นพญานาคเอ็กซเรย์ พญานาคห้องคลอด ห้องแลป ห้องเทคโนโลยี รวมทั้งคลินิกกัญชา ซึ่งทุกโรงพยาบาลก็มีกัญชา เราอยากจะสื่อสารบริบทนี้ออกไป ฉะนั้นด้านหน้าก็จะนำเสนอภาพที่มีกัญชา มีรูปน้องโบ และมีรูปผม เป็นฉากที่ยาว 10 เมตร สูง 4 เมตร เมื่อวันที่ 10-12 เมษายนที่ผ่านมา นอกจากทีมของน้องโบยังมี เด็กมัธยมในพื้นที่ มีเจ้าหน้าที่รัฐ โรงพยาบาลมาช่วยกัน นักศึกษาและอาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ บัวคำ คณะมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ สาขาทัศนศิลป์ มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดร สรุปแล้วโครงการนี้มีคนมาทำงานจิตอาสา 50 คนด้วยกัน ส่วนผมเป็นผู้ควบคุมดีไซน์ ว่าเราควรให้สีหวานๆแบบพาสเทล ทำให้คนรู้สึกหวานละมุนไม่หดหู่ อันที่สองก็คือ พญานาคจะต้องไปปรากฎตัวตามห้องต่างๆในโรงพยาบาล บางที่ก็มีหัวพญานาค หรือหางพญานาค มีกำไล มีสร้อยคอ แหวน ที่มีสัญลักษณ์ของพญานาค ทุกรูปจะเป็นเรื่องของพญานาคเล่าเรื่อง”
คุณพ่ออุ้มลูกน้อยถ่ายภาพสวยๆไว้เป็นที่ระลึก
งานศิลปะที่บรรจงสร้างสรรค์นั้นอย่างน้อยก็เกิดความแปลกตา สร้างมิติใหม่ให้กับโรงพยาบาล สถานที่ ที่ไม่มีใครต้องการจะไปเช็คอิน กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่เมื่อไปแล้วต้องถ่ายภาพเช็คอิน “ขาบ-สุทธิพงษ์ สุริยะ” เล่าว่า ได้เห็นภาพเด็กๆที่มาโรงพยาบาลแล้วร้องไห้ ผู้ปกครองพามาเดินดูภาพวาด เด็กๆเพลิดเพลินจนลืมร้องไห้ คนไข้ที่มาคลอดบุตร ต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล อุ้มลูกถ่ายภาพเช็คอิน ฯลฯ ถือว่าเป็น “ศิลปะบำบัด” Art Therapy ที่ประสบความสำเร็จ
“ทั้งหมดมี 30 จุด Black Drop ให้เช็คอิน ใช้เวลาวาด 3 วัน คิดว่าเป็นโอกาสที่ดีให้กับคนในชุมชนที่ได้ถ่ายภาพสวยๆเก็บไว้เป็นที่ระลึก เป็นประวัติศาสตร์ชีวิตของเขา ตัวน้องๆที่มาเป็นจิตอาสาเอง อย่างน้องโบ บอกว่าเขากับเพื่อนๆ 9 คนตั้งใจมาเป็นผู้ให้ แต่พอมาแล้วเขากลับเป็นผู้ได้รับมากกว่า เพราะคนที่นี่ดูแลเขาอย่างดี น่าประทับใจ”
ต้องการทำอำภอโซ่พิสัยให้เป็นเมืองศิลปะ ดึงความสนใจของนักท่องเที่ยวให้ได้นานที่สุด นอกจากใช้เวลาอยู่กับพิพิธภัณฑ์ชุมชน ช้อปปิง รับประทานอาหารแล้วมาดูงานศิลปะที่โรงพยาบาลโซ่พิสัย ได้เห็นวิถีชีวิตของโรงพยาบาลต่างจังหวัด เผื่อว่าจะเรียกความสนใจในการสนับสนุนทุนทรัพย์พัฒนาโรงพยาบาล เพื่อสวัสดิการที่ดีของคนในชุมชนต่อไป
เนื่องจากความคิดต่างของ นายแพทย์ สุรพงษ์ ลักษวุธ รักษาการ ผอ.รพ.โซ่พิสัย ส่วนหลังของโรงพยาบาลจะทำห้องจัดประชุมสัมนา ห้องครัวของโรงพยาบาลก็จะผลิตอาหารว่างเสิร์ฟ ช่วง Coffee Break อีกด้วย และวันอาทิตย์ด้านหน้าของ “โรงพยาบาลโซ่พิสัย” จะทำ “ตลาดขายของ วันอาทิตย์” เพื่อดึงคนให้เข้ามาโรงพยาบาลโดยไม่ต้องป่วย ปัจจะบันมี “ร้านกาแฟ” และกำลังจะสร้าง “ห้องฟิตเนส” และ “ห้องพัก” เพื่อญาติของผู้ป่วยจะได้พักผ่อนเต็มที่ราวกับพักที่โรงแรม
“ขาบ-สุทธิพงษ์” ทิ้งท้ายว่า เราสามารถสร้างศิลปะบำบัด เพราะเวลาคนไปโรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลของรัฐ เมื่อเข้าไปแล้วส่วนใหญ่จะรู้สึกหดหู่ สภาพจิตใจไม่ค่อยแจ่มใส แล้วจะมีวิธีคลายทุกข์ให้กับเขาเหล่านั้นได้อย่างไร Art Therapy “ศิลปะบำบัด” เป็นอีกหนึ่งคำตอบ