โควิดไทยยังไม่แผ่ว! อาการหนักพุ่งรวม 1,138 ราย ชี้ 'ตลาด-ชุมชน-ขนส่ง' จุดเสี่ยงต้องจับตา

สถานการณ์โควิด-19 ไทยวันนี้ ยังไม่แผ่ว! จากการรายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน โดย ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ระบุล่าสุด วันที่ 8 พ.ค. 64 พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 2,419 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 78,855 ราย

อีกทั้งยังมียอดผู้เสียชีวิตสูงอย่างต่อเนื่องโดยวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 19 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 288 รายไปแล้ว ขณะที่ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 382 ราย

ทั้งนี้ พญ. อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. ได้กล่าว“ระลอกเดือนเมษายน” ของไทย ล่าสุด วัน 8 พ.ค.64 มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,138 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 380 ราย

สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตวันนี้ มีทั้งสิ้น 19 รายนั้น พบว่าอายุน้อยของวันนี้ คือ 42 ปี อายุมากสุด คือ 93 ปี โดยพบว่า จำนวนมาก มีโรคประจำตัว อีกทั้งปัจจัยเสี่ยง อันดับหนึ่ง คือ ใกล้ชิดสมาชิกในครอบครัว และสัมผัสกับผู้ติดเชื้อยืนยัน

ในส่วนของวันที่ทราบผลติดเชื้อ จนมาถึงวันเสียชีวิตนั้น ที่น่าสนใจควรนำมาเป็นกรณีศึกษา คือ มีหนึ่งรายไม่ทราบว่า ตนเองติดเชื้อมาก่อน จนมาพบแพทย์ อาการวิกฤติ ต้องส่งเข้าห้องฉุกเฉิน แพทย์จึงตรวจพบว่า ติดเชื้อโควิด-19 และ ผู้ป่วยรายดังกล่าวเสียชีวิตในวันเดียวกัน

"ดังนั้น เมื่อท่านมีประวัติ ต้องสงสัยสัมผัสผู้ติดเชื้อยืนยัน ขอให้เข้ารับการตรวจโดยเร็วที่สุด ก่อนจะช้าเกินไป" พญ.อภิสมัย กล่าว

นอกจากนี้ ยังพบ สถานที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งพบผู้ติดเชื้อมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คือ "ตลาด ชุมชน ขนส่ง" ต้องจับตาเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยระยะหลัง จากการสอบสวนโรคผู้ป่วยที่พบรายใหม่ๆ จะให้ข้อมูลว่า ได้เดินทางไปสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ตลาด ชุมชน รวมทั้งใช้บริการขนส่งสาธารณะ โดยเห็นได้ชัดเจนกับผู้ป่วยใน กรุงเทพมหานคร ที่วันล่าสุดพบประวัติเกี่ยวเนื่องกับ ตลาด ชุมชน และขนส่ง ทั้งสิ้น 47 ราย และมีรายงานตัวเลขระหว่างวันที่ 1-8 พ.ค. รวมทั้งสิ้น 870 ราย 

ขณะที่ เมื่อแบ่งเป็นรายจังหวัด พบว่า 10 อันดับจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่สูงสุด สามอันดับแรกยังคงเป็น กทม. และ ปริมณฑล คือ กรุงเทพมหานคร จำนวน 1,112 ราย , นนทบุรี จำนวน 217 ราย และ สมุทรปราการ จำนวน 114 ราย

รายละเอียดอื่นๆ ดังนี้