แพทย์ก็ต้องปลอดภัย! บทบาทใหม่ของแข้งทองทีมตราไก่ ‘แบลส มาตุยดี’

ความเหมือนที่แตกต่างของนักฟุตบอลอาชีพกับทีมแพทย์ สำหรับนักเตะอาชีพ เสียงเชียร์ก้องดังขณะพวกเขาตบเท้าเข้าสู่สนาม เวลา 90 นาทีเริ่มนับถอยหลังเมื่อสองทีมแข่งขันกับเวลาเพื่อคว้าชัยชนะ สำหรับทีมแพทย์ การรักษาหรือพาทีมผ่าตัดเข้าสู่ห้องฉุกเฉิน เวลาของเขาเริ่มนับถอยหลังลงเช่นกัน ไม่ใช่เพื่อรางวัลใหญ่ แต่เพื่อรักษาชีวิตคนไข้ที่อยู่ตรงหน้า

วินาทีที่นักเตะชื่อดังทำประตูเพื่อคว้าชัย เสียงกู่ร้องแสดงความดีใจถูกตะโกนออกไปจนสุดกำลัง เช่นเดียวกับวินาทีที่คุณหมอในห้องผ่าตัดสามารถรักษาชีวิตคนไข้ ครอบครัวของผู้ป่วยร้องไห้ดีใจเมื่อคุณหมอแจ้งข่าวดี บอกว่าผู้ป่วยคนนี้พ้นขีดอันตราย

ในขณะที่นักบอลผู้ทำประตูได้รับเสียงชื่นชมจากผู้คนจำนวนมาก ใบหน้าของเขากลายเป็นที่รู้จัก ของที่ระลึก การ์ดพลัง และเกมส์ดังจากทั่วโลกถูกผลิตขึ้นเพื่อโปรโมทผลงานดีเด่นในสนาม แต่รู้หรือไม่ว่ามีหมออีกหลายคนในพื้นที่ขัดแย้งได้รับค่าตอบแทนการทำงานด้วยลูกกระสุน ทุกวันนี้มีหมอ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์มากมายถูกทำร้ายในพื้นที่ขัดแย้ง หลายคนสูญเสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บจากลูกหลงของการโจมตี

3,780 คือจำนวนครั้งที่ ICRC (International Committee of the Red Cross) ได้รับแจ้งเหตุรุนแรงต่อบุคลากรทางการแพทย์จาก 33 ประเทศในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (2016-2020) นั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้ แบลส มาตุยดี นักฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศส ตั้งคำถามถึงความสำคัญของวิชาชีพแพทย์ในพื้นที่ขัดแย้ง แน่นอนว่าบุคลากรทางการแพทย์รับบทบาทสำคัญในทุกสังคม แต่บทบาทของพวกเขายิ่งทวีความจำเป็นในพื้นที่ที่มีผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก หนึ่งในประเทศที่มีเหตุรุนแรงมากที่สุด คือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก บ้านเกิดอันเป็นที่รักของมาตุยดี

“มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่บุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานหนักเพื่อดูแลพวกเรากลายเป็นเป้าหมายของความรุนแรง ศัลยแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ทุกคนควรได้รับการสนับสนุนและกำลังใจไม่น้อยไปกว่านักเตะในสนาม” มาตุยดีกล่าว

แบลส มาตุยดี นักบอลทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์โลกปี 2018 ไม่เพียงเป็นที่รู้จักในฐานะอดีตนักเตะทีมดังอย่าง ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง (Paris Saint-Germain F.C. - PSG) และ ยูเวนตุส (Juventus F.C.) เขายังเป็นที่รู้จักในแวดวงการกุศลเพราะเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิ “Les Tremplins Blaise Matuidi” หน่วยงานที่ช่วยระดมทุนจากแฟนบอลไปเป็นทุนการศึกษาให้เด็กกำพร้าในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก

“ผมอยากให้เด็กๆ กลับมายิ้มได้ และหวังว่างานของผมจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนในรุ่นต่อไป” มาตุยดีกล่าวเอาไว้ในปี 2018 เมื่อเขาได้รับรางวัล Champions for Peace รางวัลระดับโลกที่มอบให้นักกีฬาผู้สนับสนุนกิจกรรมเพื่อสันติภาพ

สองปีต่อมาหลังมาตุยดีจับมือเซ็นสัญญากับอินเตอร์ ไมอามี่ สโมสรน้องใหม่ในเมเจอร์ลีกของสหรัฐฯ ที่มีนักเตะระดับตำนานอย่าง เดวิด เบ็คแฮม เป็นเจ้าของ เขายังได้ขยายความสนใจจากประเด็นเรื่องเด็กในพื้นที่ขัดแย้ง ไปสู่ความยากลำบากของบุคลากรทางการแพทย์ที่กำลังเสี่ยงชีวิตทุกวินาทีในพื้นที่อันตราย โดยได้แรงบันดาลใจในการเปรียบเทียบสองบทบาทที่ต้องทำงานแข่งกับเวลาและต้องอาศัยทีมเวิร์คเหมือนกันคือนักฟุตบอลกับศัลยแพทย์

“วีดีโอนี้เปรียบเทียบการติดตามผลของการผ่าตัดโดยให้บรรยากาศเหมือนกำลังลุ้นผลฟุตบอล ตั้งแต่ช่วงที่นักเตะกำลังลงเล่นในสนาม จนถึงวินาทีที่ลูกบอลถูกยิงเข้าประตู ไปสู่โมเม้นท์แห่งการเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ โดยมีการเปรียบเทียบว่าจะเป็นอย่างไรหากความสำเร็จจากการผ่าตัดได้รับความสนใจเช่นเดียวกับผลฟุตบอล” สเตเฟน บาร์บาโต ผู้กำกับวีดีโอสั้นให้สัมภาษณ์

“มาตุยดีปรากฎตัวในช่วงสุดท้ายเพื่อแสดงความยินดีกับคุณหมอ เขายื่นภาพของคุณหมอเพื่อขอลายเซ็น ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกับที่แฟนบอลมักทำกับนักเตะคนโปรด ทั้งหมดนี้เป็นความตั้งใจของเราที่อยากให้ผู้ชมฉุกคิดถึงความสำคัญของบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ขัดแย้ง”

การปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ เป็นงานที่ ICRC ให้ความสำคัญมาตลอด มาซิเยจ โพคัลสกี ผู้ริเริ่มโครงการ “Health Care in Danger” ของ ICRC กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจคนี้ว่า “ทุกวันนี้ความพยายามของพวกเราในการปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ยังไม่เพียงพอ เราต้องการกฎหมายที่เข้มแข็งในการบังคับใช้ ในขณะเดียวกัน ก็ต้องบอกให้โลกเข้าใจว่าการโจมตีสถานพยาบาลหรือบุคลากรทางการแพทย์ไม่ใช่เรื่องยอมรับได้” โพคัลสกีหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยให้ประชาคมโลกได้หันมาตระหนักถึงประเด็นดังกล่าว

นอกจากโปรเจคในครั้งนี้ ICRC ยังมีความพยายามอีกมากที่จะสื่อสารปัญหาสำคัญกับทุกภาคส่วน ยกตัวอย่างเช่นในเอเชียใต้ ICRC ได้ทำงานร่วมกันกับหน่วยงานการแพทย์ประจำท้องที่ เพื่อรณรงค์ลดการนำอาวุธเข้ามาในวอร์ดคนไข้ฉุกเฉิน จำนวนอาวุธที่ถูกยึดไว้เพิ่มจาก 2 เป็น 42 ชิ้นต่อเดือน ส่งผลให้พื้นที่พยาบาลกลายเป็นสถานที่ปลอดภัยมากขึ้น

ทุกวันนี้มีการแข่งขันฟุตบอลเกิดขึ้นในทุกวัน เช่นเดียวกับการทำงานของคุณหมอและบุคลากรทางการแพทย์ เป็นไปได้หรือไม่ที่พวกเราทุกคนจะร่วมกันเชียร์กีฬา ไปพร้อมๆ กับการเชียร์ฮีโร่สวมหน้ากากที่ทำหน้าที่สำคัญอยู่ในห้องฉุกเฉิน