คลิ๊กเลย! พลาดสอบเข้า 'ม.1 และม.4' ต้องทำอย่างไร?
ทุกครั้งของการสอบ ย่อมมีผู้ที่สอบได้กับสอบไม่ได้ หรือต้องมีตัวจริง ตัวสำรอง เช่นเดียวกับการสอบเข้า "ม.1และม.4" แต่ในปีนี้ "สพฐ."ยืนยันชัดเจนว่าเด็กต้องมีที่เรียน
ขอแสดงความยินดี!! กับน้องๆ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่สามารถสอบเข้าสู่โรงเรียนใหม่ที่ตนเองต้องการ ซึ่งมีการประกาศผลไปเมื่อวันที่ 24-25 พ.ค.นี้ ก่อนที่จะมอบตัววันที่ 29-30 พ.ค. 2564 โดยในยุคโควิด-19 นี้ เรียกได้ว่ากว่าปฎิทินการ "รับนักเรียน" ปีการศึกษา 2564 จะลงตัว ต้องมีการปรับแล้วปรับอีก เพื่อให้เป็นไปตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ในการประกาศผลสอบ "ม.1 และม.4" ของทุกๆ ปี ย่อมมีนักเรียนที่พลาดโอกาสจะเข้าเรียนในโรงเรียนที่ตนเองต้องการ แต่น้องๆ ไม่ต้องกังวล เพราะในปีนี้ กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ยืนยันชัดเจนว่าเด็กทุกคนต้องมีที่เรียน
- นักเรียนพลาดสอบเข้า "ม.1และม.4" ต้องไป "เขตพื้นที่การศึกษา"
นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) กล่าวว่า สำหรับนักเรียนที่พลาดการจับฉลาดหรือการสอบ สามารถยื่นความจำนงเพื่อจัดหาที่เรียนได้ โดยสพฐ. ได้เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้แก่นักเรียนและผู้ปกครอง มอบหมายให้ "เขตพื้นที่การศึกษา" ทุกเขตสำรวจที่ว่างของโรงเรียนทุกโรงภายในเขตพื้นที่ เพื่อเตรียมบัญชีจัดหาที่เรียนให้เด็กที่ยังไม่มีที่เรียน
“ผู้ปกครองสามารถพานักเรียนไปยื่นความจำนงไปที่ "เขตพื้นที่การศึกษา"ได้เลย หรือจะยื่นผ่านทาง "ระบบออนไลน์"ก็ได้ เพื่อลดความเสี่ยงจากการเดินทางและเป็นการรักษาระยะห่างตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วย จากนั้นเขตพื้นที่จะดำเนินการจัดหาที่เรียนให้นักเรียนภายในกำหนดเวลา เพื่อให้สามารถเริ่มเรียนได้ทันวันที่ 1 มิ.ย.2564 พร้อมกัน เพราะฉะนั้นขอยืนยันว่าปีนี้เด็กจะมีที่เรียนทุกคน ผู้ปกครองไม่ต้องกังวลว่าลูกจะไม่มีที่เรียน”นายอัมพร กล่าว
- รับนักเรียน "ม.1 และม.4"ห้องละไม่เกิน 40 คน
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ผู้ปกครองกังวลการสอบเข้า “ม.1 และ ม. 4” โดยเฉพาะ ม. 4 ที่มีการมอบตัวในวันที่ 30 พ.ค.2564 เกรงว่าเด็กจะมีที่เรียนไม่ครบ เพราะเวลากระชั้นชิดเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 มิ.ย.2564 นั้น
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า การสอบเข้า “ม.1 และ ม. 4”เมื่อประกาศผลตามปฏิทินที่กำหนดไว้คือ ม.1 วันที่ 24 พ.ค. และ ม.4 วันที่ 25 พ.ค. เราทราบทันทีว่าเด็กคนไหนสอบได้หรือไม่ได้กี่คน ถือว่ามีเวลาเตรียมตัวอีก 1 สัปดาห์ เพื่อจัดหาที่เรียนให้เด็กที่พลาดโอกาส
ขณะนี้ สพฐ.ได้แจ้งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทุกแห่งเตรียมพร้อมรอบด้านไว้แล้ว เช่น โรงเรียนแห่งหนึ่งมียอดผู้สมัคร 200 คน แต่รับได้ 40 คน สพท.จะสำรวจจำนวนผู้สมัครทั้ง 200 คนทันทีว่าหากพลาดโอกาสสอบเข้าได้จะต้องได้ที่เรียนที่ไหนบ้าง ซึ่ง สพฐ.ได้สำรวจไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อถึงวันประกาศผลสอบใครสอบได้ข้อมูลจะถูกลบออกทันที เหลือข้อมูลเด็กที่สอบไม่ได้ทุกคนจะทราบทันทีว่าตัวเองถูกจัดให้เข้าที่โรงเรียนไหน ผู้ปกครองไม่ต้องกังวล เด็กทุกคนจะมีที่เรียนก่อนเปิดเทอมอย่างแน่นอน
นายอัมพร กล่าวต่อว่าสำหรับจำนวนนักเรียนต่อห้อง ให้โรงเรียนรับนักเรียนชั้นก่อนประถมศึกษา ห้องละไม่เกิน 30 คน ให้โรงเรียนรับนักเรียนชั้นป.1 ห้องละไม่เกิน 40 คน ให้โรงเรียนนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 ห้องละไม่เกิน 40 คน
กรณีที่มีความจำเป็นต้องรับนักเรียนมากกว่า 40 คน ให้โรงเรียนจัดทำแผนการรับนักเรียน เป็น 3 ระยะ ดังนี้ ปีการศึกษา 2564 กำหนดห้องละไม่เกิน 40 คน กรณีที่มีความจำเป็นให้เพิ่มได้อีกห้องละไม่เกิน 4 คน (ร้อยละ 10) ปีการศึกษา 2565 กำหนดห้องละไม่เกิน 40 คน กรณีที่มีความจำเป็นให้เพิ่มได้อีกห้องละไม่เกิน 2 คน (ร้อยละ 5) และปีการศึกษา 2566 กำหนดห้องละไม่เกิน 40 คน โดยไม่ให้เพิ่มจำนวนนักเรียนต่อห้อง
“กรณีที่มีความจำเป็นต้องรับนักเรียนมากกว่า 40 คน ให้โรงเรียนเสนอคณะกรรมการรับนักเรียนของโรงเรียนให้ความเห็น และเสนอคณะกรรมการรับนักเรียนระดับเขตพื้นที่การศึกษาพิจารณา โดยให้คำนึงถึงผลกระทบกับจำนวนนักเรียนที่จะเกิดขึ้นกับโรงเรียนที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานรอบข้าง และโรงเรียนทุกสังกัดด้วย”นายอัมพร กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ห้ามพลาด!! 'เปิดเทอม' รอบนี้ รับมืออย่างไรให้ดีกว่าเดิม?
- ย้ำมาตรการเปิดเทอมแก่โรงเรียนทุกแห่ง
น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่าศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) ได้รับทราบให้สถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เลื่อนการ "เปิดภาคเรียน"ที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จากวันที่ 1 มิ.ย.2564 ออกไปอีก เป็นวันที่ 14 มิ.ย.2564 ตามที่ ศธ.เสนอ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ยังมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยและระวังป้องกันนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา ไม่ต้องเสี่ยงกับการติดเชื้อโควิด 19 และเพื่อให้มีระยะเวลารับการฉีดวัคซีนของครูและบุคลากรทางการศึกษา และรองรับการย้ายสถานศึกษาของนักเรียนในแต่ละช่วงชั้น
การเลื่อนเปิดภาคเรียนที่ 1/2564 หากมีสถานศึกษาใดในพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือพื้นที่สีแดง และพื้นที่ควบคุม หรือพื้นที่สีส้ม ประสงค์จะดำเนินการ"เปิดภาคเรียน"ที่ 1/2564 ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2564 เป็นต้นไป ให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาแห่งนั้น ดำเนินการประเมินความพร้อมตามระบบ Thai Stop COVID Plus ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่มี 44 ข้อ โดยต้องผ่านทุกข้อ และต้องเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่ออนุญาตให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาแห่งนั้นสามารถจัดการเรียนการสอนได้ก่อนวันที่ 14 มิ.ย.2564
ส่วนโรงเรียนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี และสมุทรปราการ หากต้องการเปิดสอนก่อน สามารถจัดการเรียนได้ในรูปแบบการสอนออนไลน์ และออนแอร์เท่านั้น ทั้งนี้ถึงแม้โรงเรียนจะเปิดไม่พร้อมกัน แต่ต้องปิดเทอมพร้อมกันในวันที่ 15 ต.ค. 2564 เพื่อไม่กระทบกับปฏิทินการสอบต่างๆ