ย้อนรอยวัคซีนคนไทย นอกจาก ‘วัคซีนโควิด’ เราฉีดอะไรไปแล้วบ้าง?
นอกจาก "วัคซีนโควิด" ตั้งแต่เกิดจนโต คนเราต้องได้รับวัคซีนสำคัญอีกหลายชนิด ชวนย้อนรอยดูว่า ที่ผ่านมาคนไทยได้รับวัคซีนพื้นฐานที่จำเป็นชนิดใดบ้าง และได้รับวัคซีนช่วงวัยไหน?
ยืดเยื้อยาวนานมาเกือบ 2 ปีแล้ว สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 โดยเป้าหมายล่าสุดของประเทศไทยตอนนี้คือ การลดจำนวนผู้ติดเชื้อ และควบคุมการแพร่ระบาดด้วยการเร่งฉีด "วัคซีนโควิด-19" ให้กับประชาชนอย่างถ้วนหน้า แม้ว่าแพทย์จะยืนยันว่าการฉีดวัคซีนไม่ได้ลดการติดเชื้อแบบ 100% แต่ข้อดีคือการฉีดวัคซีนสามารถลดความรุนแรงหลังการติดเชื้อ และลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ได้มากถึงร้อยละ 30
วัคซีนโควิด-19 อาจจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับปี 2021 นี้ แต่ในอีก 3 ปี ข้างหน้า วัคซีนโควิด-19 จะกลายเป็นวัคซีนพื้นฐานที่ทุกคนอาจจะต้องฉีดเป็นประจำก็เป็นได้ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ชวนย้อนรอยข้อมูลการฉีดวัคซีนสำคัญของคนไทย นอกจากวัคซีนโควิดแล้ว เราจะต้องฉีดวัคซีนอื่นๆ ตัวไหนอีกบ้าง? หากความทรงจำช่วงการต่อแถวรับวัคซีนในโรงเรียน หรืออาการกลัวเข็มที่เราต้องฉีดในตอนเด็กมันเลือนราง เรามาทวนความจำกันอีกครั้ง
- ทำความรู้จัก “วัคซีน” คืออะไร?
วัคซีน (Vaccine) คือ วัตถุทางชีวภาพชนิดหนึ่งที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ส่วนใหญ่ทำมาจากเชื้อโรค แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. ทำจากเชื้อโรคที่ตายแล้วมีสารของเชื้อโรคมาฉีดเข้าตัวเรา
2. ทำจากเชื้อโรคที่อ่อนแอ ทำให้มันสลบ พิษจะได้ไม่รุนแรง เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายคนเรา ร่างกายเราก็จะสร้างภูมิคุ้มกันกับโรคนั้นๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ไม่ใช่แค่ 'วัคซีนโควิด' เช็ค 5 วัคซีนสำคัญที่ 'วัยทำงาน' ควรฉีด
- เช็กที่นี่ 'ผู้สูงอายุ' และ '7 กลุ่มโรคเรื้อรัง' เตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีนโควิด
- แพทย์ชนบท เผยปัญหาจัดสรร 'ฉีดวัคซีนโควิด' เดือน มิ.ย.64
- ลืมตาดูโลกตอนไหน ก็ได้วัคซีนเข็มแรกตอนนั้น
ทุกๆ ปี กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขจะออกแผนงานสร้างเสริมสุขภาพภูมิคุ้มกันโรค หรือกำหนดการฉีดวัคซีนสำคัญของคนไทยว่าจะต้องฉีดวัคซีนอะไรบ้าง โดยเน้นไปที่เด็กเล็กอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 12 ปี (ประถมศึกษาปีที่6)
อย่างที่ทราบกันว่า ทารกแรกเกิดไปจนถึง 1 ปีนั้น เด็กจะยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่ดีพอในการต่อต้านเชื้อโรคต่างๆ หากได้รับเชื้อโรคอันตรายในช่วงนี้ เช่น โรคหัด ไวรัสตับอักเสบ ก็อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ และการจะสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กได้ดีที่สุดในช่วงนี้ก็คือการฉีดวัคซีน
กล่าวโดยสรุปคือ คนเราจะถูกฉีดวัคซีนตั้งแต่แรกเกิดเป็นต้นมา โดยความถี่ของการฉีดวัคซีนจะเกิดขึ้นในช่วงอายุแรกเกิด จนถึง 12 ปี
ดังนั้นแล้วความทรงจำช่วงเรียนประถม ก็อาจจะมีช่วงเวลาของการต่อแถวรับวัคซีนในโรงเรียน มองเพื่อนร้องไห้เพราะกลัวเข็ม หรือสารพัดความทรงจำเกี่ยวกับการได้รับวัคซีนต่างๆ มากกว่าช่วงชีวิตในวัยอื่นๆ
- เข้าใจวัคซีน เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
วัคซีนส่วนใหญ่ที่เราต้องได้รับนั้น มักจะได้รับตอนที่อายุยังน้อยอยู่ แต่ก็จะมีวัคซีนบางประเภทที่ต้องรับในช่วงอายุสูงขึ้นเช่นกัน ทั้งนี้วัคซีนสำคัญ แบ่งเป็น 4 ประเภท ตามการนิยามของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ คือ
- วัคซีนพื้นฐาน
- วัคซีนทางเลือก
- วัคซีนสำหรับผู้ที่เดินทางระหว่างประเทศ
- นอกจากนี้ยังมี วัคซีนฉุกเฉิน กรณีวัคซีนโควิด-19
- วัคซีนพื้นฐานที่ทุกคนต้องฉีด ไม่ฉีดไม่ได้!
วัคซีนพื้นฐานนับว่าเป็นวัคซีนที่สำคัญที่สุด กำหนดโดยกระทรวงสาธารณสุข โดยเน้นวัคซีนป้องกันโรคที่เป็นปัญหาสำคัญ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดหาวัคซีน และกระจายวัคซีนจากส่วนกลางไปยังคลังวัคซีนระดับอำเภอทุกแห่งโดยตรง โดยประชาชนทุกคนได้ฉีดฟรี
วัคซีนที่กำหนดไว้ในแผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในประเทศต่างๆ อาจแตกต่างกันขึ้นกับการพิจารณาของแต่ละประเทศเกี่ยวกับ อุบัติการณ์ ความรุนแรงของโรค ประสิทธิภาพของวัคซีน ราคาของวัคซีน และสถานการณ์โดยรวมของวัคซีนในประเทศ
สำหรับประเทศไทยวัคซีนพื้นฐาน มีทั้งหมด 10 ชนิด ป้องกันครอบคลุม 13 โรค (เริ่มฉีดอายุตั้งแต่แรกเกิด จนถึง 12 ปี) ได้แก่
- วัคซีน BCG ป้องกันโรควัณโรค
- วัคซีน HB ป้องกันโรคตับอักเสบชนิดบี
- วัคซีน DTP-HB ป้องกันวัคซีนรวม
วัคซีน OPV ป้องกันโรคโปลีโอ - วัคซีน JE ป้องกันไข้สมองอักเสบ
- วัคซีน MMR ป้องกันรวมหัด คางทูม
- วัคซีน DTP ป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน
- วัคซีน Rota ป้องกันไวรัสโรต้า
- วัคซีน HPV ป้องกันปากมดลูกจากเชื้อเอชพีวี
- วัคซีน dT ป้องกันคอตีบ บาดทะยัก
โดยสรุปในช่วง 12 ปี แรกของชีวิต เราต้องได้รับวัคซีนไปจำนวน 23 ครั้ง ตามตารางแผนงานสร้างเสริมสุขภาพภูมิคุ้มกันโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ดังนี้
- วัคซีนทางเลือก
วัคซีนทางเลือก หรือวัคซีนเสริม คือวัคซีนที่มีประสิทธิภาพดี มีประโยชน์ในการป้องกันโรค แต่ไม่ได้อยู่ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข (วัคซีนพื้นฐาน) ดังนั้นเราจะเลือกฉีดหรือไม่ก็ได้ เพราะอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ซึ่งในปัจจุบัน วัคซีนทางเลือกเหล่านี้ได้มีการพัฒนาโดยการรวมหลายๆ วัคซีนในเข็มเดียว จึงทำให้ได้รับหลายภูมิคุ้มกันโรคในเข็มเดียว อีกทั้งยังทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้อีกด้วย
วัคซีนทางเลือก ได้แก่
- วัคซีนอีสุกอีใส
- วัคซีนตับอักเสบเอ
- วัคซีนนิวโมคอคคัส
- วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น
- วัคซีนพิษสุขนัขบ้า
- วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
- วัคซีนนิวโมคอคคัส ชนิดคอนจูเกตหรือวัคซีนไอพีดี (IPD)
- วัคซีนไข้เลือดออก
- วัคซีนไข้หวัดใหญ่
- ถ้าฉีดวัคซีนไม่ครบ จะเป็นอย่างไร?
โดยทั่วไปแล้วหากได้รับวัคซีนไม่ครบ เช่น หากวัคซีนต้องฉีด 5 ครั้ง แต่ฉีดได้เพียง 3 ครั้ง ควรไปปรึกษาแพทย์ก่อนว่า จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะถ้าหากปล่อยผ่านไปอาจทำให้เด็กได้รับเชื้อโรคและแสดงอาการที่รุนแรงของโรคได้ในอนาคต ในกรณีที่ฉีดไม่ครบเพราะด้วยปัจจัยบางสาเหตุนั้น หากผ่านไปไม่นานก็สามารถกลับมาฉีดย้อนหลังใหม่ได้ แต่ถ้าทิ้งระยะเวลามากกว่า 1 ปี ก็อาจจะต้องทำการเริ่มต้นฉีดใหม่ทั้งหมด ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีที่สุด
--------------------------------
ที่มา :
แผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข