‘ผื่น’แบบไหน บอกว่า ติด "โควิด19"แล้ว
ลักษณะของ ผื่น ที่เกิดขึ้น ต้องตรวจเช็คให้ดีในยุคไวรัสโควิด ระบาดหนัก เพราะอาจจะเป็นผื่นโควิด หนึ่งในอาการบ่งชี้ของการติดโควิดก็เป็นได้
จากสถิติพบว่า 0.2 -20% ของผู้ป่วยโรคโควิด-19 มีอาการผื่นทางผิวหนังร่วมด้วย การมีผื่นจึงเป็นข้อบ่งชี้ที่อาจบอกได้ว่า ติดไวรัสโควิดหรือไม่
รศ.พญ.ภาวิณี ฤกษ์นิมิตร อนุกรรมการประชาสัมพันธ์และงานกิจกรรมสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย เล่าถึงผลงานวิจัย Skin manifestations in COVID-19: The tropics experience ปีพ.ศ. 2563 พบว่า สถิติผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จำนวน 153 ราย มีอาการโรคผิวหนังร่วมด้วย 23 ราย คิดเป็นสัดส่วน 15%
"โดยอาการบ่งชี้ทางผิวหนังของผู้ป่วยที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะแบ่งออกเป็นหลายกลุ่มอาการ เช่น เป็นผื่นผิวหนังแบบผื่นลมพิษ ผื่นแดงชนิด maculopapular เป็นตุ่มน้ำที่ผิวหนัง หรือผิวหนังแตกเป็นแผลจากการขาดเลือด
ความผิดปกติทางผิวหนังที่เกิดจากไวรัสโควิด แม้ว่าการระบาดของโรคโควิด-19 จะเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก แต่ความผิดปกติทางผิวหนังเป็นอาการร่วมที่ไม่ควรละเลย
- ผื่นแบบไหนเป็นอาการของ COVID
แพทย์หญิงภาวิณี กล่าวว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการทางผิวหนังในประเทศแถบยุโรปกับประเทศแถบเอเชียจะมีอาการทางผิวหนังที่แตกต่างกัน
"ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในประเทศแถบเอเชีย มักมีอาการผื่นลมพิษ ผื่นแดงทั่วตัว หรือผื่นแบบตุ่มน้ำ ซึ่งพบในกลุ่มผู้ป่วยในประเทศแถบยุโรปเช่นกัน แต่ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในประเทศแถบยุโรปจะมีอาการหนึ่งที่ไม่พบในผู้ป่วยในประเทศไทย คือมีอาการปลายมือปลายเท้าม่วงคล้ำ (ทางการแพทย์ เรียกว่า Covid Toe)
อันเนื่องมาจากสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็น ทั้งนี้วิธีการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการทางผิวหนัง แพทย์จะรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาสเตียรอยด์รักษาอาการตุ่มนูน ตุ่มคัน หรือยาแก้แพ้รักษาอาการลมพิษ เป็นต้น"
- สาเหตุของการเกิดผื่น
มีได้หลายสาเหตุ ไม่เฉพาะจากโรคโควิดอย่างเดียว คุณหมอภาวิณีอธิบายว่า
"อาการทางผิวหนังที่พบในผู้ป่วยโรคโควิด-19 สามารถแยกได้เป็น 2 ประเภท คือ
1) อาการผื่นผิวหนังจากโรคโควิด-19 โดยอาการบ่งชี้ เช่น ผู้ป่วยเป็นลมพิษ ผื่นแดง ตุ่มน้ำพอง หรือมีแผลแตกบริเวณผิวหนัง
2)อาการผื่นผิวหนังจากการสวมหน้ากากอนามัย หรืออุปกรณ์ป้องกัน PPE ผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ทำให้บางรายเป็นสิวหรือผื่นแดงบริเวณใบหน้า อันเนื่องมาจากการสวมหน้ากากอนามัยนานๆ
หน้ากากอนามัยไม่สะอาด หรือบางรายเกิดจากการแพ้ส่วนประกอบบางชนิดของหน้ากากอนามัย ขณะที่บางรายมีอาการผื่นแดงตามมือจากการล้างมือบ่อยจนมือแห้งและระคายเคือง"
คุณหมอกล่าวต่อว่า จากข้อมูลการรักษาและการเก็บข้อมูล ยังไม่พบว่าอาการทางผิวหนังของผู้ป่วยโรคโควิด-19 จะก่อให้เกิดอาการรุนแรงอื่นๆ ตามมาจนเสียชีวิต แต่ถ้าใครมีอาการอยู่ในข่ายที่น่าสงสัยว่าจะเป็นโควิด ก็ควรจะต้องไปตรวจ
ลักษณะผื่นที่ติดโควิด
"หากประชาชนมีอาการเป็นไข้ หายใจไม่สะดวก จมูกไม่ได้กลิ่น หรือมีอาการผื่นผิวหนังร่วมด้วย ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรมาพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาแต่เนิ่นๆ
สิ่งที่อยากฝากแก่ทุกคนคือ การดูแลตนเองเบื้องต้นเป็นสิ่งสำคัญ ควรสวมหน้ากากอนามัย และควรเปลี่ยนใหม่บ่อยๆ หรือถ้าเป็นหน้ากากผ้าควรซักล้างทำความสะอาดสม่ำเสมอ และควรล้างมือบ่อยๆ แล้วทามอยส์เจอร์ไรเซอร์สร้างความชุ่มชื่นจะทำให้ผิวหนังไม่ระคายเคืองได้" คุณหมอแนะนำวิธีดูแลผิว
- ทำอย่างไรไม่ให้เป็นผื่น
เรื่องนี้ ผศ.พญ.สุวิรากร ธรรมศักดิ์ ประธานฝ่ายกิจกรรมสังคมสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด การล้างมือเป็นสิ่งจำเป็น
"การป้องกันเชื้อไวรัสไม่ให้เข้าสู่ร่างกายนั้น ‘มือ’ เป็นอวัยวะสำคัญ ที่ใช้จับสิ่งของ จับทุกสิ่งทุกอย่างแล้วมาจับหน้า จมูก ปาก ทำให้เชื้อเขาสู่ร่างกายได้ง่าย เราสามารถลดการติดเชื้อได้โดยการล้างมือบ่อยๆ หรือใช้แอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไป ในการฆ่าเชื้อโรค แต่การล้างมือบ่อยๆ ทำให้มือมีระคายเคืองได้
ลักษณะเริ่มต้นเราจะเห็นผิวที่มือแห้ง แล้วเริ่มมีการแตกและเจ็บ ถ้าเป็นมากๆ จะเป็นผื่นแดงหยิบจับอะไรก็แสบ เจ็บมือไปหมด สังเกตได้ว่าคนที่สัมผัสน้ำบ่อยๆ แม้ไม่โดนสบู่หรือผงซักฟอก ก็ทำให้มือระคายเคืองได้ เช่น แม่บ้าน พยาบาล คนทำความสะอาด แล้วถ้าทุกคนล้างมือกันบ่อยๆ ทั้งสบู่ หรือ แอลกอฮอล์ ก็ทำให้ระคายเคืองได้
สำหรับบางคน มีอาการแพ้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือส่วนประกอบเจล ฆ่าเชื้อโรคหรือถุงมือ ทำให้มีอาการคัน มีผื่นแดง ตุ่มน้ำและสะเก็ดลอก ซึ่งอาจจะต้องตรวจหาว่าแพ้อะไร จะได้หลีกเลี่ยงได้ถูก บางคนล้างมือบ่อยๆ ทำให้มีการติดเชื้อที่จมูกเล็บ ทำให้มีการบวม เจ็บที่โคนเล็บ และติดเชื้อราได้"
- วิธีดูแลผิวที่มือ
คุณหมอบอกว่า การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญ ขอแนะนำว่า
1)ให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ระคายเคือง สบู่สังเคราะห์จะดีกว่าสบู่ก้อน เพราะมีความเป็นด่างน้อยกว่า ส่วนแอลกอฮอล์, เจล ที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นจะมีคุณสมบัติดีกว่าแอลกอฮอล์สเปรย์ แต่ทั้งคู่ก็สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้เหมือนกัน
2)ทาสารให้ความชุ่มชื้นบ่อยๆ หลังล้างมือหรือใช้แอลกอฮอล์เสมอ และทาเพิ่มเมื่อรู้สึกแห้ง พกโลชั่นหรือครีมทามือเสมอ
3)ไม่ควรล้างมือด้วยน้ำร้อน
4)ไม่จำเป็นต้องล้างมือและใช้แอลกอฮอล์ พร้อมๆ กันในกรณีที่มือเปื้อนสิ่งสกปรกที่มองเห็นให้ล้างน้ำปกติ ส่วนแอลกอฮอล์ใช้กรณีที่มือไม่ได้เปื้อนมากและไม่สามารถหาที่ล้างมือได้
5)ถุงมือช่วยลดการสัมผัสได้ แต่ต้องคอยเปลี่ยนบ่อยๆ อย่าใส่จนเหงื่อออกเปียกเกิดความอับชื้นหรือน้ำเข้าต้องเปลี่ยนทันที และไม่ควรใส่ถุงมือหลังล้างมือทันทีหรือทาแอลกอฮอล์ เพราะจะเพิ่มอัตราการระคายเคืองได้
6)ถ้ามีผิวหนังอักเสบ ให้ใช้ยารักษาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์อ่อนๆ ได้ เช่น 0.02% Triamcinolone cream แต่ถ้าทาแล้วไม่ดีขึ้นใน 1 สัปดาห์ควรไปพบแพทย์ผิวหนัง