คุณภาพชีวิต-สังคม
ชงปรับแผนทดลองใช้ 'หลักสูตรฐานสมรรถนะ'
ศธ.ห่วงการทดลองใช้ 'หลักสูตรฐานสมรรถนะ' ในช่วงสโควิด-19 ชง กพฐ.ปรับแผนปฏิบัติการใหม่ใช้เวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่ปีการศึกษา 2565-2567 เพิ่มสมรรถนะเป็น 6 ด้าน ใช้เวลาเรียนลดลง
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดแผนปฏิบัติการปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 เป็น หลักสูตรฐานสมรรถนะ
น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่าในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีความห่วงใยนักเรียนและครู จึงได้หารือกับคณะกรรมการอำนวยการปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานเห็นควรปรับแผนปฏิบัติการให้สอดคล้องกับสถานการณ์
เพื่อไม่ให้เป็นภาระเพิ่มสำหรับครู โดยยังคงเดินหน้าปฏิรูปหลักสูตรให้การศึกษาพัฒนาเด็กไทยให้มีความรู้ เจตคติและทักษะให้ทำงานเป็น ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสังคมได้ดี
- ปรับ 'หลักสูตรสมรรถนะ'6 ด้าน ปั้นเด็กไทยยุคใหม่
รมว.ศธ.กล่าวต่อว่า แผนปฏิบัติการที่ได้ปรับปรุงใหม่มีสาระสำคัญ ดังนี้
ประการแรก วางแผนนำหลักสูตรฐานสมรรถนะไปใช้ในกรอบเวลา 3 ปี คือ ปีการศึกษา 2565 ศธ.เริ่มใช้ หลักสูตรฐานสมรรถนะ สำหรับระดับประถมศึกษา ในโรงเรียนที่มีความพร้อม ปีการศึกษา 2566 หลักสูตรฐานสมรรถนะระดับมัธยมศึกษา ในโรงเรียนที่มีความพร้อมและทุกโรงเรียนในระดับประถมศึกษา และปีการศึกษา 2567 ใช้หลักสูตรฐานสมรรถนะในโรงเรียนทุกโรง
ประการที่สอง ปรับปรุงสมรรถนะ โดยพิจารณาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของเด็กไทยในโลกปัจจุบัน จากเดิมมีสมรรถนะ 5 ด้าน ปรับเป็นมีสมรรถนะ 6 ด้าน ประกอบด้วย
1. การจัดการตนเองอย่างมีสุขภาวะ
2. การคิดขั้นสูงและการเรียนรู้
3. การสื่อสารด้วยภาษา
4. การจัดการและการทำงานเป็นทีม
5. การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง
6. การอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยืน
- คาดนำร่องใช้ 'หลักสูตรฐานสมรรถนะ' 1ก.ย.นี้
โดยเน้นมิติด้านคุณธรรม จริยธรรม รวมถึงคุณค่าของประวัติศาสตร์และความเป็นไทยมากขึ้น ซึ่งการเพิ่มสมรรถนะ “การอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยืน” เพื่อให้เด็กไทยมีสมรรถนะทั้งด้านวิทยาศาสตร์ รู้เท่าทันเทคโนโลยีดิจิทัล และอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน
“หลักสูตรฐานสมรรถนะใหม่นี้ แตกต่างจากเดิมในสาระสำคัญ เช่น ช่วงชั้นประถมศึกษาตอนต้น หรือ ชั้น ป.1-ป.3 เวลาเรียนลดลง ลดจาก 1,000 ชั่วโมงเป็น 800 ชั่วโมง ปลดล็อกด้านตัวชี้วัด เด็กเรียน 7 สาระการเรียนรู้ แทน 8 สาระการเรียนรู้ เป็นต้น” รมว.ศธ. กล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการอำนวยการปรับปรุงหลักสูตรฯ จะนำแผนที่ปรับเปลี่ยนใหม่ดังกล่าว เสนอต่อคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ในวันที่ 13 ส.ค.นี้ คาดว่าจะจัดให้นำร่องทดลองใช้หลักสูตรฐานสมรรถนะในเขตพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ประมาณวันที่ 1 กันยายน 2564 โดยจะทยอยเผยแพร่คู่มือ หลักสูตร ที่มีตัวอย่างสถานการณ์และกิจกรรมการเรียนรู้ที่ปรับใช้ในพื้นที่และในรูปแบบการสอนออนไลน์ได้