กทม เผยผลตรวจ ATK เชิงรุกทีม CCRT ผลบวกรวม 4,819 ราย
กทม. เผย สายด่วนโควิด 50 เขต เขตละ 20 คู่สาย ช่วง 20 วัน ให้บริการเกือบ 6 หมื่นราย เร่งประสานช่วยเหลือและเข้าระบบรักษา การตรวจ ATK เชิงรุกทีม CCRT 15 ก.ค.-22 ส.ค. 64 พบผลบวก 4,819 ราย จากผู้เข้าตรวจ 42,091 ราย
วันนี้ (24 ส.ค. 64) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในกรุงเทพมหานครที่พบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก เพื่อให้เป็นการนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาโดยเร็วที่สุด กรุงเทพมหานครจึงได้จัดตั้งศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดโรคควิด 50 เขต
โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคีเครือข่าย พร้อมทั้งตั้งสายด่วนโควิด 50 เขต ซึ่งเป็นสายตรงถึง 50 สำนักงานเขต เขตละ 20 คู่สาย เพิ่มเติมจากสายด่วน สปสช. 1330 เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยให้เข้าสู่ระบบการดูแลรักษาโดยเร็ว โดยมีเจ้าหน้าที่ กทม. คอยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
- บริการประชาชนเกือบ 6 หมื่นราย
ซึ่งตั้งแต่วันที่ 3-22 ส.ค. 64 สายด่วนโควิด 50 เขตได้ให้บริการประชาชนไปแล้ว 58,442 สาย เป็นสายจากกลุ่มเขตกรุงเทพใต้มากที่สุด 20,577 สาย รองลงมาคือ กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก 11,938 สาย กลุ่มเขตกรุงธนใต้ 9,570 สาย กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ 6,670 สาย กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ 4,846 สาย และกลุ่มเขตกรุงเทพกลาง 4,841 สาย ตามลำดับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ สายด่วนโควิด 50 เขต เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยเหลือให้ผู้ป่วยโควิด-19 เข้าสู่ระบบการรักษาได้เร็วขึ้น อันจะเป็นการลดโอกาสที่ผู้ป่วยจะมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ โดยผู้ป่วยหรือผู้ที่ดูแลสามารถโทรติดต่อสายด่วน 1330 หรือโทรแจ้งสำนักงานเขตในพื้นที่ที่พักอาศัยอยู่ในปัจจุบันเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถติดต่อประสานความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากผู้ป่วยติดเชื้อผ่านทางสายด่วนโควิดเขต จะมีการประเมินอาการในเบื้องต้นและความพร้อมในการเข้ารับการรักษาตามระดับอาการ หากผู้ป่วยสามารถแยกกักตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation (HI) ได้ เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำและขั้นตอนในการดูแล รวมถึงการจ่ายยาและมอบอุปกรณ์พยาบาลในเบื้องต้น หากผู้ป่วยไม่สามารถแยกกักตัวที่บ้านได้ จะดำเนินการนำผู้ป่วยส่งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (community isolation : CI) โดยมีทีมแพทย์พยาบาลประเมินอาการ ให้ยารักษา และส่งต่อเข้ารับการรักษาตามอาการต่อไป
สำหรับผู้ป่วยที่มีผลตรวจโควิด-19 จาก Antigen test หรือ RT- PCR สามารถโทรติดต่อสายด่วน 1330 หรือสายด่วนของสำนักงานเขต ซึ่งนอกจากการดำเนินการเกี่ยวกับระบบ HI และ CI แล้ว ยังประสานให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ในเรื่องอื่นๆ อีกด้วย
โดยสายที่โทรเข้ามาที่สำนักงานเขต จะมีการบันทึกข้อมูลผู้ป่วยไปที่ระบบฐานข้อมูลกลาง เพื่อให้ สปสช. เป็นผู้แจกจ่ายเคสให้กับทีมที่ต้องเข้าไปประเมินตามลักษณะอาการของผู้ป่วย ส่วนผู้ป่วยที่ต้องเข้าสู่ระบบ HI และ CI กรุงเทพมหานคร โดยศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง จะเป็นผู้ดูแล ร่วมกับคลินิกชุมชนอบอุ่น และคลินิกภาคเอกชนที่เป็นเครือข่าย
- ทีม CCRT ตรวจ ATK พบผลบวก 4,819 ราย
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมากทม. ได้เร่งดำเนินการค้นหาผู้ป่วยที่ติดค้างในชุมชนต่าง ๆ เพื่อแยกผู้ติดเชื้อจากครอบครัวและชุมชน และลดการแพร่ระบาดโดยนอกเหนือจากเปิดจุดตรวจค้นหาเชื้อทั้ง 6 จุดใน 6 กลุ่มโซนแล้ว ยังได้ส่งทีม Bangkok CCRT เข้าไปในชุมชนต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.-22 ส.ค. 64
เข้าไปชุมชนทั้งสิ้น 3,190 ชุมชน
มีผู้ได้รับบริการ 176,963 ราย
ตรวจ ATK 42,091 ราย
มีผลบวก 4,819 ราย
- ฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่ม 608
ผู้สูงอายุ 62,518 ราย
ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเสี่ยง 58,566 ราย
หญิงตั้งครรภ์ 287 ราย
สำหรับผู้ป่วยที่เข้าระบบ Home Isolation แยกรักษาตัวที่บ้าน ยอดสะสม 89,369 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 33,408 ราย อาการทั่วไป 33,189 ราย และส่งต่อโรงพยาบาลเนื่องจากมีอาการ 219 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 23 ส.ค.64)