ผู้ปกครองแห่ลงทะเบียน "ฉีดวัคซีนเด็ก" ในหลายจังหวัดไม่ต่ำกว่า 20,000 คน
ผ่านไปแล้วครึ่งวัน สำหรับวันแรกของการ "ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เด็ก" อายุ 12-18 ปี พบว่าในหลายจังหวัด ได้มีผู้ปกครองแห่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนให้แก่ลูกหลานจำนวนมาก บางจังหวัดคาดว่าทะลุ 80,000 คน
4 ต.ค.นี้ ถือเป็นวันแรกของการ "ฉีดวัคซีนไฟเซอร์" ให้แก่เด็กนักเรียนอายุตั้งแต่ 12-18 ปี ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ทั้ง 29 จังหวัด ซึ่งมีโรงเรียนจำนวนทั้งสิ้น 15,465 แห่ง ส่วนวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 2 จะเริ่มทยอยฉีดในเดือนพ.ย. 2564 นั้น
ขณะนี้ในหลายจังหวัด ผู้ปกครองได้พาบุตรหลานมาเข้าคิวรอรับวัคซีนโควิด-19 เพื่อป้องกันโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงขณะนี้ บรรยากาศในทุกๆพื้นที่คึกคักเต็มไปด้วยเหล่านักเรียนและผู้ปกครอง โดยนักเรียนทุกคนที่มารับบริการฉีดวัคซีน จะต้องนำเอกสารแบบคัดกรองก่อนรับบริการฉีดวัคซีนที่เซ็นรับรองจากผู้ปกครองมายื่นให้กับเจ้าหน้าที่ร่วมด้วย
สำหรับนักเรียนในสังกัดของ ศธ. มีจำนวนทั้งสิ้น 5,048,081 คน เบื้องต้นมีผู้ประสงค์จะฉีด 3.61 ล้านคน คิดเป็น 71.67% โดยก่อนหน้านี้ ทาง ศธ.ได้ให้ทางสถานศึกษาแต่ละแห่งนำส่งบัญชีรายชื่อนักเรียนที่ผู้ปกครองลงนามแจ้งความประสงค์และให้ความยินยอมเพื่อฉีดวัคซีนในครั้งนี้
ขณะที่ผลสำรวจความต้องการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 109 โรงเรียน พบว่า นักเรียนมีความประสงค์รับวัคซีน จำนวน 33,048 คน จากทั้งหมด 37,466 คน คิดเป็น 88.21%
- คาดลงชื่อฉีดวัคซีนไฟเซอร์ไม่ต่ำกว่า 80,000 คน
นพ.ภูวดล กิตติวัฒนาสาร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุรีรัมย์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่เปิดให้บริการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19ให้กับกลุ่มเด็กนักเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 12 -18 ปี ทั้งเพื่อเป็นการรองรับการประกาศเปิดเทอมแบบออนไซด์อย่างเต็มรูปแบบที่จะเริ่มในเดือน พ.ย. ที่จะถึงนี้ด้วย
โดยมีนักเรียนที่มีอายุตามเกณฑ์ที่กำหนดตื่นตัวมารับบริการฉีดวัคซีนคึกคัก คาดว่าทั้งจังหวัดมีนักเรียนจะมารับวัคซีนไม่ต่ำกว่า 80,000 คน ในจำนวนนี้มีนักเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองซึ่งอยู่ในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลประมาณ 40,000 คน ซึ่งจะเปิดให้บริการทั้งที่โรงพยาบาลและสนามช้าง อารีนา โดยให้ทยอยเดินทางมาเพื่อลดความแออัด
ทั้งนี้ จังหวัดมีนักเรียน ทั้งระดับชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอาชีวศึกษา ที่มีอายุตั้งแต่ 12-18 ปี ที่แจ้งความประสงค์จะรับวัคซีนไฟเซอร์รวมไม่น้อยกว่า 80,000 คน
- นร.แจ้งประสงค์ ฉีดวัคซีน แล้ว 26,880 คน
ในวันเดียวกัน ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มีการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กนักเรียนตั้งแต่เช้าอย่างคึกคัก โดยเริ่มในพื้นที่อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ เป็นอันดับแรก มีนักเรียนจากโรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา) ต.ในเมือง อ.เมืองเพชรบูรณ์ จำนวน 395 ราย และโรงเรียนเซนต์โยเซฟศรีเพชรบูรณ์ ต.ชอนไพร อ.เมืองเพชรบูรณ์ จำนวน 505 ราย รวม 900 ราย ได้มาฉีดวัคซีน ที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์
ทั้งนี้ พื้นที่อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ มีนักเรียนและโรงเรียน ที่แจ้งความประสงค์จะฉีดวัคซีน จำนวน 43 โรงเรียน นักเรียน 13,898 คน โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2564 ซึ่งนักเรียนที่แจ้งความประสงค์จะฉีดในครั้งนี้ ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง และวัคซีนที่จะได้รับ เป็นวัคซีน "ไฟเซอร์" ส่วนเข็มที่สองจะมีการนัดหมายในวันที่ 26 ตุลาคม 2564 ทั้งนี้นักเรียนที่ประสงค์จะแจ้งรายชื่อเพิ่มเติม สามารถแจ้งได้หลังจากดำเนินการฉีดวัคซีนในชุดแรกนี้เสร็จสิ้นไปแล้ว
- ไทยฉีดวัคซีนให้ประชาชน 59.06%
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลประเทศไทย ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 54,869,411 โดส (ข้อมูล 3 ต.ค.) โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 59.06% แบ่งเป็นเข็มแรก 32,904,750 โดส (49.7% ของประชากร) เข็มสอง 20,531,903 โดส (31% ของประชากร) เข็มสาม 1,432,758 โดส (2.2% ของประชากร)
ส่วนอัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย วัคซีนซิโนแวค เข็มที่ 1 จำนวน 16,598,802 โดส เข็มที่ 2 3,508,874 โดส วัคซีนแอสตราเซเนกา เข็มที่ 1 จำนวน 10,392,926 โดส เข็มที่ 2 จำนวน 13,278,574 โดส เข็มที่ 3 จำนวน 948,290 โดส