ห้องเรียนออนไลน์ "Skooldio" แหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต
“เราอยากเห็นสังคมดีขึ้น อยากเห็นคนเก่งขึ้น อยากเห็นองค์กรแข่งขันได้มากขึ้น และอยากเห็นทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้สิ่งที่เราอยากเห็นเป็นจริงได้ จะต้องเริ่มจากการที่ทุกคนมีความรู้ และ Skooldio เชื่อในเรื่องการเรียนรู้ตลอดชีวิต”
ตอนนี้ทุกอย่างรอบตัวเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เทคโนโลยีและโรคระบาดโควิด-19 ทำให้ทุกคนต้องปรับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน การเรียนรู้ ทุกคนกระโดดมาอยู่ในโลกออนไลน์แบบเต็มตัว
ในโลกออนไลน์เต็มไปด้วยองค์ความรู้มากมาย แล้วจะเลือกเรียนรู้อะไรที่มีประโยชน์ต่อตนเอง “Skooldio (สคูลดิโอ)” จึงก่อเกิดขึ้น เพื่อเป็นแพลตฟอร์มห้องเรียนออนไลน์ที่จะทำให้ทุกคนได้เพิ่มเติมทักษะด้านเทคโนโลยี และดิจิทัล เตรียมพร้อมตัวเองรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม ของโลก
- “Skooldio” ห้องเรียนออนไลน์
ดร.ต้า-ดร. วิโรจน์ จิรพัฒนกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง Skooldio (สคูลดิโอ)และ Co-founder and Managing Director เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของการจัดตั้ง Skooldio ว่าในช่วงที่ตนได้ทำงาน Data Scientist ที่ Facebook สหรัฐอเมริกา ตอนนั้นได้มีโอกาสกลับมาเมืองไทย และได้ไปสอนน้องๆ ในคณะ Data Scientist ทำให้รู้สึกว่าเรายังมี passion ในการสอนอยู่เหมือนเดิม และอยากทำความต้องการของตนเองให้เป็นจริง คือ การเป็นอาจารย์ การสอนหนังสือ จึงตัดสินใจลาออกจากFacebook สหรัฐอเมริกา และกลับมาเมืองไทย
ทว่าเมื่อกลับมาเพื่อเป็นอาจารย์ผู้สอน เพื่อนๆ อาจารย์หลายท่านได้เล่าชีวิตในมหาวิทยาลัยว่าต้องทำเอกสารเยอะ และมีขั้นตอนมากมาย “ดร.ต้า” จึงมองหาสิ่งที่ตนเองทำได้ และด้วยประสบการณ์การทำงาน 3 ปีที่ สำนักงานใหญ่ Facebook ทำให้มองเห็นโอกาสนำเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาคนให้มีทักษะที่จะเป็นประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม
- พัฒนาทักษะรับโลกเทคโนโลยี
“ผมได้มีโอกาสเข้าไปคุยกับทาง เลิร์น คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเขามองเกี่ยวกับธุรกิจการฝึกอบรมบุคลากรในองค์กร จึงเป็นที่มาของการร่วมก่อตั้ง Skooldio โดยเชื่อมต่อธุรกิจการศึกษาของเลิร์น คอร์ปอเรชั่น ให้ครบวงจรตามคอนเซปท์ Life-long Learning หรือการเรียนรู้ตลอดชีวิต ให้การศึกษาตั้งแต่เด็กนักเรียนไปจนถึงนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ครู อาจารย์ ต่อยอดไปจนถึงการให้การอบรมทักษะอาชีพในองค์กร” ดร.ต้า กล่าว
“Skooldio” มีหน้าที่ช่วยอัพสกิล รีสกิล เตรียมพร้อมคนรุ่นใหม่ให้เท่าทันเทคโนโลยี เพราะตอนนี้เด็กจบใหม่จะมีทักษะอย่างเดียวไม่ได้ เช่น จบ Marketiing จะรู้เพียงหลักการตลาดไม่ได้ แต่ต้องเชี่ยวชาญออนไลน์ ต้องยิง AD ได้ ต้องพูดเก่ง ขายเก่ง และต้องลงข้อมูลในระบบได้ เพราะข้อมูลจะทำให้พวกเขาสามารถวิเคราะห์กลุ่มลูกค้า และทิศทางการขายในอนาคตได้
ดร.ต้า เล่าต่อไปว่า การทำงานของตนเองในแต่ละวัน สนุกและมีความท้าทาย เพราะต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับพนักงานแต่ละองค์กร ซึ่งต้องการทักษะแตกต่างกัน ยิ่งตอนนี้การเรียนรู้เข้าสู่ระบบออนไลน์แบบเต็มตัว ต้องทำworkshop ผ่าน ZOOM ทำให้เห็นทุกคนเชื่อมต่อเท่าเทียมกันหมด ไม่มีเด็กหลังห้องหน้าห้อง แถมการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีสามารถช่วยเพิ่มอรรถรสในการเรียน โดยการนำดิจิตอล รูปแบบการเรียนที่หลากหลายมาใช้ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม ซึ่งการเรียนออนไลน์ของเด็กไทยก็สามารถทำแบบนี้ได้เช่นเดียวกัน
- คู่หูองค์กร ธุรกิจไทยเติบโต
“ความตั้งใจของ Skooldio คือ การช่วยให้คนมีทักษะที่โลกกำลังต้องการ ตอนนี้แม้จะไม่ได้เทรนด์คนเป็นล้านคน แต่ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ได้ช่วยองค์กรสร้างคน พัฒนาคนจำนวนมาก บทบาทของ Skooldio โฟกัส การเป็นองค์กรที่จะช่วยคนรุ่นใหม่ ช่วยองค์กรใหญ่ที่ต้องการเปลี่ยนแปลง ส่วนไหนที่องค์กรขาด หรือต้องเพิ่มเติมทักษะ Skooldio จะเข้าไปช่วย และใครที่อยากพัฒนาทักษะตนเองก็สามารถเรียนออนไลน์ผ่าน Skooldio ซึ่งมีหลักสูตรให้เลือกมากมาย”ดร.ต้า เล่า
คนไทยเป็นคนเก่ง แต่ยังขาดความอยากเรียนรู้ ซึ่งการทำธุรกิจในยุคนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ มีความจำเป็นที่ทุกคนต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะทันทีที่คุณหยุดอยู่นิ่งๆ คนอื่นจะเดินนำหน้าคุณเสมอ
ดร.ต้า เล่าอีกว่าหลักการทำงานจะเน้นเรื่องคุณภาพ และเป้าหมายที่จะทำให้องค์กรธุรกิจ บุคลากรของแต่ละองค์กรเก่งขึ้น เพราะเราอยากเห็นทุกคนมีความพร้อม และธุรกิจสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้ Skooldio จะเป็นเหมือนเพื่อน คู่หูขององค์กรในการพัฒนาบุคลากร
“ตอนนี้ทุกองค์กร รวมถึงภาครัฐให้ความสำคัญในการจัดทำโปรแกรมต่างๆ เพื่ออัพสกิล รีสกิล ให้คนไทยมีทักษะ พร้อมแข่งขันในโลกธุรกิจได้ดีขึ้น ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดี แต่การที่ภาครัฐพยายามจัดทำเองทุกอย่าง ทำให้ติดระบบมากมาย พอจัดทำโปรแกรมจึงออกมาไม่ค่อยดี โดยส่วนตัวเวลาเห็นภาครัฐพยายามจัดทำโปรแกรม จะรู้สึกเสียดายเงิน”ดร.ต้า กล่าว
- แนะสังคมไทยเลิกสอนคนในกรอบ
ภาครัฐควรจะร่วมกับภาคเอกชน ภาคการศึกษาใหม่ๆ แล้วจัดทำโปรแกรมอบรม พัฒนาคนในประเทศ ให้มีทักษะที่เท่าทันต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งหากทำแบบนั้นได้ เชื่อว่าคนไทยจะเก่งขึ้นไปอีก เมื่อคนไทยมีทักษะที่ดีขึ้นย่อมหมายถึงการใช้ชีวิต การพัฒนาองค์กร การแข่งขันในธุรกิจ เศรษฐกิจไทยก็จะดีขึ้น
ดร.ต้า เล่าด้วยว่าสังคมไทยสอนให้คนอยู่ในกรอบ หนังสืออธิบายชัดเจนว่าเด็กดี คนดีคืออะไร แต่ในโลกความเป็นจริง การศึกษาจำกัดกรอบให้แก่คนมีภาพควรจะทำอย่างไรบ้าง ซึ่งไม่ได้เปิดโอกาสให้พวกเขาคิดเอง ดังนั้น ความพยายามของตนในการทำให้ Skooldio กลายเป็นห้องเรียนออนไลน์ เพื่อเพิ่มเติมทักษะที่ทุกคนควรจะมี และความพยายามปลูกฝังให้ทุกคนเรียนรู้ตลอดเวลา ล้วนเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการพัฒนาคนไทยให้สามารถอยู่บนโลกใบนี้ และพร้อมแข่งขันได้
“ไม่ว่าจะในห้องเรียน หรืองค์กร เด็กหรือผู้ใหญ่จะมีบุคลิกไม่แตกต่างกัน คือ ไม่กล้าพูด ไม่กล้าเสนอความคิดเห็น ยิ่งในองค์กรธุรกิจ คนทำงานไม่กล้าเสนอไอเดียให้แก่หัวหน้างาน หรือผู้บริหาร ทุกคนจะรับคำสั่งและทำตาม ทั้งที่หากเปิดโอกาสให้พวกเขาคิดเอง ทำเอง อาจจะได้นวัตกรรม ผลงานใหม่ๆ เป้าหมายของผม อยากเห็นทุกคนกล้าคิด กล้าพูด กล้าเสนอความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง และผู้อื่น ซึ่งทุกคนไม่จำเป็นต้องมาเรียนที่ Skooldio ก็ได้ แต่ขอให้ทุกคนอย่าหยุดพัฒนาตนเอง อย่าหยุดที่จะหาความรู้ และอย่าหมด passion ในการใช้ชีวิต การทำงานของตนเอง” ดร.ต้า เล่าทิ้งท้าย