สธ. แนะ กระตุ้นเข็ม 3 “ไฟเซอร์" พร้อม 3 สูตรวัคซีนไขว้ เข็ม 1-2
ปัจจุบัน ประเทศไทย ฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 65 ล้านโดส โดยขณะนี้ มีทั้งวัคซีนสูตรไม่ไขว้ เช่น ไฟเซอร์ ไฟเซอร์ และ อีก 3 สูตรวัคซีนไขว้ รวมถึง ล่าสุด สธ. ยังแนะนำฉีดเข็มกระตุ้นด้วย "ไฟเซอร์" อีกด้วย
การฉีด “วัคซีนโควิด-19” เข็ม 1 และ 2 ก่อนหน้านี้ ศบค.ได้อนุมัติ “วัคซีนสูตรไขว้” คือ “ซิโนแวค” กับ "แอสตราเซนเนก้า” ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ล่าสุด วันที่ 14 ต.ค. ศบค. ได้อนุมัติวัคซีนสูตรไขว้อีก 2 สูตร
สูตรวัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันสรุป ปัจจุบันไทย มี "วัคซีนสูตรไขว้" ทั้งสิ้น 3 สูตร ประกอบด้วย
1.สูตร “วัคซีนซิโนแวค” กับ “วัคซีนแอสตราเซนเนก้า”ระยะห่าง 3-4 สัปดาห์
2.สูตร “วัคซีนแอสตราเซนเนก้า”กับ “วัคซีนไฟเซอร์” ระยะห่าง 4-12 สัปดาห์
3. สูตรวัคซีน “ซิโนแวค” กับ “วัคซีนไฟเซอร์”(ล่าสุด) ระยะห่าง 3-4 สัปดาห์
ทั้งนี้การนำไปใช้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เนื่องจากเป็นวัคซีนที่ได้มีการจัดหา การบริหารจัดการก็จะต้องให้สอดคล้องกับวัคซีนที่มี เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยการให้วัคซีนนั้นเป็นหน้าที่ของสถานบริการนั้นๆ เป็นผู้จัดให้เหมาะสมต่อไป ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
สำหรับการจัดสรรวัคซีนจำนวน 25 ล้านโดส แยกตามกลุ่มเป้าหมายเดือน พ.ย. 64 บางกลุ่ม ได้ฉีด “วัคซีนสูตรไขว้” แอสตร้าเซนเนก้าและไฟเซอร์ที่ ศบค. เคาะล่าสุดดังนี้
ประชาชนใน 16 จังหวัด ที่เป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวใน “ระยะที่ 2”(1 - 31 ธ.ค. 64) ได้แก่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน แพร่ สุโขทัย เพชรบูรณ์ ปทุมธานี อยุธยา ขอนแก่น นครราชสีมา นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส วัคซีนทั้งหมด เข็มที่ 1 , 2 และเข็มกระตุ้น ร้อยละ 20 จำนวน 5 ล้านโดส
- ใช้สูตรวัคซีน ซิโนแวค -แอสตร้าเซนเนก้า และแอสตร้าเซนเนก้า- ไฟเซอร์
ประชาชนทั่วไป ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไปใน 50 จังหวัดวัคซีนทั้งหมด เข็มที่ 1 , 2 และเข็มกระตุ้น ร้อยละ 40 จำนวน 10 ล้านโดส
- สูตรวัคซีน ซิโนแวค -แอสตร้าเซนเนก้า และ แอสตร้าเซนเนก้า -ไฟเซอร์
ประชาชนทั่วไป ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไปใน พื้นที่ระบาดวัคซีนทั้งหมด เข็มที่ 1 , 2 และเข็มกระตุ้น ร้อยละ 12 จำนวน 3 ล้านโดส
- สูตรวัคซีน ไฟเซอร์ - ไฟเซอร์
กลุ่มเด็กและวัยรุ่นอายุระหว่าง 12 - 17 ปี ทั่วประเทศวัคซีนทั้งหมด เข็มที่ 1 , 2 และเข็มกระตุ้น ร้อยละ 12 จำนวน 3 ล้านโดส
- สูตรวัคซีน : ไฟเซอร์ - ไฟเซอร์
แรงงานในระบบประกันสังคมวัคซีนทั้งหมด เข็มที่ 1 , 2 และเข็มกระตุ้น ร้อยละ 6 จำนวน 1.5 ล้านโดส
- สูตรวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า - ไฟเซอร์ และซิโนแวค - แอสตร้าเซนเนก้า
หน่วยงานอื่นๆ เช่น องค์กรภาครัฐ ราชทัณฑ์วัคซีนทั้งหมด เข็มที่ 1 , 2 และเข็มกระตุ้น ร้อยละ 2 จำนวน 0.5 ล้านโดส
- สูตรวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า - ไฟเซอร์ และ ซิโนแวค - แอสตร้าเซนเนก้า
ประชากรต่างด้าววัคซีนทั้งหมด เข็มที่ 1 , 2 และเข็มกระตุ้น ร้อยละ 8 จำนวน 2 ล้านโดส
- สูตรวัคซีน ซิโนแวค - แอสตร้าเซนเนก้า แนะนำ“ไฟเซอร์”กระตุ้นเข็ม 3
การฉีดเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยว่าในการประชุมศบค.วันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเห็นชอบเป้าหมายในการฉีดวัคซีนในเดือน พ.ย.จำนวน 25 ล้านโดส ครอบคลุมประชากรอย่างน้อย 70% ทุกจังหวัด โดยแต่ละจังหวัดจัดสรรให้เพิ่มความครอบคลุมกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ 80 % วัคซีนในเด็ก 12-17 ปีได้รับเข็มที่ 1 อย่างน้อย 70%
ส่วนการฉีดเข็มกระตุ้นให้ในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตายครบ 2 เข็ม ให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตราเซนเนก้าครบ 2 เข็ม ห่างจากเข็มที่ 2 ราว 6 เดือน โดยตามคำแนะนำของคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2564 ให้กระตุ้นด้วย “ไฟเซอร์”
ทั้งนี้ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข้ามาประเทศไทยล็อตแรกเมื่อเดือน ก.พ. 2564 จำนวน 1.2 แสน โดส โดยกลุ่มเป้าหมายที่ฉีดในช่วงเวลาดังกล่าว คือ ผู้มีอายุ 60 ขึ้นไป กลุ่มที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในการสัมผัสโรค ซึ่งจะเป็นผู้ที่ฉีดเข็ม 2 ประมาณ เดือน มิ.ย. 2564
ดังนั้น เมื่อถึงเดือน พ.ย. เท่ากับมีการฉีดเข็มที่ 2 มาแล้วราว 5-6 เดือน ส่วนการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าแบบปูพรมในคนจำนวนมากนั้น เริ่มเข็ม 1 ในช่วงเดือนมิ.ย.และได้รับเข็มที่ 2 ในราวส.ค.-ก.ย. ห่างนับเวลาห่างจากเข็ม 2 ราว 6 เดือน จึงน่าจะได้รับการฉีดเข็ม 3 ในปี 2565
ศิริราชเผยผลศึกษาเข็มกระตุ้น
ศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เผยผ่านเฟซบุ๊กSiriraj Institute of Clinical Research เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 64
สรุปผลการวิจัยวัคซีนโควิด-19 ฉีดกระตุ้นเข็ม 3 ของผู้ที่ได้ Sinovac 2 เข็ม หรือ AstraZeneca 2 เข็ม โดยสรุปผลการศึกษา พบว่า Sinovacเป็น priming vaccine หรือวัคซีนเริ่มต้นที่ดี ซึ่งเมื่อฉีดกระตุ้นเข็ม 3 ด้วย AstraZeneca หรือ Pfizer ก็ให้ระดับภูมิคุ้มกันที่สูงมาก
สำหรับวัคซีน Pfizer ใช้เพียงครึ่งโดสก็ได้ภูมิคุ้มกันในระดับที่ใกล้เคียงกับการใช้วัคซีนเต็มโดส แนะนำให้ ฉีดกระตุ้นเข็ม 3 ด้วย AstraZeneca หรือ Pfizer เท่านั้น คำแนะนำสำหรับผู้ที่ฉีด AstraZeneca มา 2 เข็ม ควรฉีดเข็มที่ 3 กระตุ้นด้วยวัคซีน Pfizer เท่านั้น โดยอาจใช้เพียงครึ่งโดสก็ให้ผลภูมิคุ้มกันใกล้เคียงกับการใช้วัคซีนเต็มโดส