เช็คความพร้อม 17 จังหวัดเปิดรับนักท่องเที่ยว 46 ประเทศ 1 พ.ย.นี้
หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ประกาศว่าจะเปิดให้ 46 ประเทศความเสี่ยงต่ำ เข้าไทย โดยไม่ต้องกักตัว แบบมีเงื่อนไข ซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดส แล้วใน 17 จังหวัดที่เปิดเมืองนี้มีความพร้อมหรือไม่?
การเดินทางเข้าประเทศไทยของ46 ประเทศความเสี่ยงต่ำ มีมาตรการต่างๆ ออกมารองรับ โดยต้องเป็นการเดินทางที่เข้ามาทางอากาศ และมีหลักฐานปลอดเชื้อโควิด-19 มีการตรวจก่อนออกเดินทาง และตรวจเมื่อมาถึงประเทศไทย ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการเผยแพร่ ประกาศศูนย์ปฏิบัติการมาตรการการเดินทางเข้าออกประเทศและการดูแลคนไทยในต่างประเทศ เรื่อง การกำหนดรายชื่อประเทศและพื้นที่ต้นทางที่อนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรสำหรับบุคคลประเภท (13) ผ่านทางเว็บไซต์และแฟนเพจเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาระบุดังนี้
ตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 17/2564 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 21 ต.ค. 2564 กำหนดให้ศูนย์ปฏิบัติการ การเดินทางเข้าออกประเทศและการดูแลคนไทยในต่างประเทศ (ศปก.กต.) อนุมัติประเทศและพื้นที่ที่อนุญาตให้ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรสำหรับบุคคลประเภท (13) “ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจควบคู่กับความมั่นคงด้านสาธารณสุขตามแผนการเปิดประเทศของรัฐบาล” ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข และการเสนอของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
อ่านข่าว : "นายกฯ"สั่งบูรณาการรับ"เปิดประเทศ" ต้องรอบคอบ รัดกุม อยู่กับ "โควิด" ให้ได้
- 46 ประเทศเข้าไทยไม่กักตัว 1 พ.ย.นี้
สำหรับรายชื่อ 46 ประเทศที่จะเปิดให้เข้าไทยเริ่ม 1 พ.ย.2564 มีดังนี้
1. ออสเตรเลีย 2. ออสเตรีย 3. บาห์เรน 4. เบลเยียม 5. ภูฏาน 6. บรูไนดารุสซาลาม 7. บัลแกเรีย 8. กัมพูชา 9. แคนาดา 10. ชิลี 11. จีน12. ไซปรัส 13. สาธารณรัฐเช็ก 14. เดนมาร์ก 15. เอสโตเนีย 16. ฟินแลนด์ 17. ฝรั่งเศส 18. เยอรมนี 19. กรีซ 20. ฮังการี21. ไอซ์แลนด์ 22. ไอร์แลนด์ 23. อิสราเอล 24. อิตาลี 25. ญี่ปุ่น 26. ลัตเวีย 27. ลิทัวเนีย 28. มาเลเซีย
29. มอลตา 30. เนเธอร์แลนด์ 31. นิวซีแลนด์ 32. นอร์เวย์ 33. โปแลนด์ 34. โปรตุเกส 35. กาตาร์ 36. ซาอุดีอาระเบีย 37. สิงคโปร์ 38. สโลวีเนีย 39. สาธารณรัฐเกาหลี 40. สเปน 41. สวีเดน 42. สวิตเซอร์แลนด์43. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 44. สหราชอาณาจักร 45. สหรัฐอเมริกา และ46. ฮ่องกง
- เที่ยวจังหวัดไหนได้บ้าง? ในประเทศไทย
สำหรับ พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว "ระยะที่ 1" (1 - 30 พ.ย. 64) มีจำนวน 15 จังหวัด ได้แก่
- กทม.
- สมุทรปราการ
- กระบี่
- พังงา
- ประจวบคีรีขันธ์
- เพชรบุรี
- ชลบุรี
- ระนอง
- เชียงใหม่
- เลย
- บุรีรัมย์
- หนองคาย
- อุดรธานี
- ระยอง
- ตราด
เพิ่มเติมจากที่เปิด "ระยะนำร่อง" (1-31 ต.ค. 64) ไปก่อนหน้านี้ 4 จังหวัด ได้แก่
- ภูเก็ต
- สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า)
- พังงา (เขาหลัก เกาะยาว)
- กระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์)
ดังนั้น รวมทั้งสิ้น 17 จังหวัด โดยใน 17 จังหวัดนี้ ได้มีการประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวแล้ว
- เงื่อนไขเข้าไทยโดยไม่ต้องกักตัว
พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยง กรมควบคุมโรค แถลงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการรองรับการเปิดประเทศ 1 พ.ย. นี้ มีประเด็นสำคัญคือเงื่อนไขการเข้าราชอาณาจักรไทยของทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ
1) ผู้เดินทางจากทุกประเทศ, ผู้เดินทางที่ไม่ได้รับวัคซีนครบโดส : เมื่อเดินทางถึงไทยจะต้องเข้าสู่การกักกันโรคในสถานกักกันที่รัฐจัดให้
2) ผู้เดินทางจากทุกประเทศที่มีปลายทางที่ 17 จังหวัดนำร่องเปิดการท่องเที่ยว ต้องได้รับวัคซีนครบโดส และจะต้องเตรียมเอกสารและปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังนี้
- เดินทางมาจากประเทศที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนด และเดินทางมาทางอากาศเท่านั้น
- มีเอกสารรับรองการรับวัคซีนครบ 2 เข็ม
- มีผลการตรวจเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ก่อนเดินทางไม่เกิน 72 ชม.
- เมื่อเดินทางมาถึงจะต้องตรวจหาเชื้อซ้ำโดยทันที เมื่อผลเป็นลบถึงจะเดินทางต่อไปยังพื้นที่อื่นได้
- ทำประกันสุขภาพอย่างน้อย 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- มีใบจองที่พัก
3) ผู้เดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว: ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของ สธ. ซึ่งจะมีการแถลงรายละเอียดต่อไป
- 17 จังหวัด ฉีดวัคซีนไปแล้วเท่าไหร่?
เมื่อดู อัตราการฉีด "วัคซีนโควิด-19" 17 จังหวัด ที่จะเปิดวันที่ 1 พ.ย. นี้ (ข้อมูล ณ 22 ต.ค. 64 เวลา 12.15 น.) จากระบบ "หมอพร้อม" พบว่าจำนวนประชากรที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม มีดังนี้
- กทม. 7,929,189 คน ฉีดครบ2เข็ม 71.75%
- สมุทรปราการ 1,793,313 คน ฉีดครบ2เข็ม 59.00 %
- กระบี่ 427,457 คน ฉีดครบ2เข็ม 36.34%
- พังงา258,456 คน ฉีดครบ2เข็ม 58.28%
- ประจวบคีรีขันธ์ 560,841 คน ฉีดครบ2เข็ม 45.1%
- เพชรบุรี 465,410 คน ฉีดครบ2เข็ม 47.67%
- ชลบุรี 2,329,073 คน ฉีดครบ2เข็ม 53.31 %
- ระนอง 203,427 คน ฉีดครบ2เข็ม 56.98%
- เชียงใหม่ 1,893,612 คน ฉีดครบ2เข็ม 34.86%
- เลย 599,786 คน ฉีดครบ2เข็ม 31.47%
- บุรีรัมย์ 1,352,212 คน ฉีดครบ2เข็ม 40.01 %
- หนองคาย 468,650 คน ฉีดครบ2เข็ม 34.19%
- อุดรธานี 1,429,205 คน ฉีดครบ2เข็ม 32.55%
- ระยอง 850,231 คน ฉีดครบ2เข็ม 47.46 %
- ตราด 224,852 คน ฉีดครบ2เข็ม 41.46%
- ภูเก็ต 491,858คน ฉีดครบ2เข็ม 85.73%
- สุราษฎร์ธานี 1,099,667 คน ฉีดครบ2เข็ม 40.66%
หากพิจารณาดูข้อมูลจากหมอพร้อม ล่าสุด พบว่า ในจำนวน 17 จังหวัด มีเพียง 1 จังหวัดที่ฉีดวัคซีนประชาชนครบ 2 เข็มเกิน 80% คือ จ.ภูเก็ต
ส่วนจังหวัดที่ฉีดวัคซีนประชาชนครบ 2 เข็มเกิน 50% มี 5 จังหวัดเท่านั้น
ขณะที่เมื่อมาดูในจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อสูงสุด 10 อันดับแรก (ข้อมูล วันที่ 22 ต.ค.2564) มีดังนี้
- กรุงเทพมหานคร 908 ราย ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 71.75% (จังหวัดที่จะมีการเปิดรับนักท่องเที่ยว 1 พ.ย.นี้)
- สงขลา 676 ราย ฉีดวัคซีนครบ2เข็ม 36.70%
- นครศรีธรรมราช 662 ราย ฉีดวัคซีนครบ2เข็ม 28.89%
- ยะลา 432 ราย ฉีดวัคซีนครบ2เข็ม 33.86%
- ปัตตานี 422 ราย ฉีดวัคซีนครบ2เข็ม 26.30%
- เชียงใหม่ 412 ราย ฉีดครบ2เข็ม 34.86% (จังหวัดที่จะมีการเปิดรับนักท่องเที่ยว 1 พ.ย.นี้)
- ประจวบคีรีขันธ์ 341 ราย ฉีดวัคซีนครบ2เข็ม 45.1% (จังหวัดที่จะมีการเปิดรับนักท่องเที่ยว 1 พ.ย.นี้)
- ตาก 309 ราย ฉีดครบ2เข็ม 27.69%
- สมุทรปราการ 307 ราย ฉีดวัคซีนครบ2เข็ม 59.00 % (จังหวัดที่จะมีการเปิดรับนักท่องเที่ยว 1 พ.ย.นี้)
- นราธิวาส 306 ราย ฉีดวัคซีนครบ2เข็ม 25.87%
อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมในการฉีดวัคซีนของประเทศไทย นั้น ข้อมูลจากหมอพร้อม วันที่ 22 ต.ค.2564 เวลา 12.15 น. ฉีดวัคซีนสะสม 68,809,047 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 ฉีดสะสม 39,645,999 โดส เข็มที่ 2 ฉีดสะสม 28,102,099 โดส เข็มที่ 3 ฉีดสะสม 2,059,353 โดส และเข็มที่ 4 ฉะสะสม 1,596 โดส
เมื่อแบ่งตามกลุ่มเป้าหมาย พบว่า ประชาชนทั่วไป 42.42 ล้านคน ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 12.80 ล้านคน ผู้มีโรคประจำตัว 7.94 ล้านคน บุคลากรทางการแพทย์ 3.88 ล้านคน เจ้าหน้าที่ด่านหน้า 2.63 ล้านคน และหญิงตั้งครรภ์ 0.13 ล้านคน
ทั้งนี้ หากดูการฉีดวัคซีนในประเทศไทย เพื่อความปลอดภัยของคนไทยในการป้องกันโควิด-19 แล้วนั้น คงเกิดคำถามว่าเหลือเวลาอีกเพียงสัปดาห์กว่าๆ จะสามารถฉีดวัคซีนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้หรือไม่.. แล้วหากฉีดวัคซีนไม่ได้ครบตามเป้า ควรจะมีการเตรียมพร้อม รองรับดูแลประชาชนในแต่ละจังหวัด รวมถึงนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในแต่ละจังหวัดอย่างไร?? หลังจากนี้คงต้องติดตามข้อมูลข่าวสารจากศบค.และการประกาศจากรัฐบาล..