ศบค. ย้ำ “เปิดประเทศ” ปลอดภัย ติดตามสถานการณ์ เข้มมาตรการ

ศบค. ย้ำ “เปิดประเทศ” ปลอดภัย ติดตามสถานการณ์ เข้มมาตรการ

ศบค. ย้ำ “เปิดประเทศ” ปลอดภัย เผยเกณฑ์เปิดพื้นที่สีฟ้า 17 จังหวัด ไม่ได้ดูแค่จำนวนผู้ติดเชื้อ แต่ครอบคลุมถึงวัคซีน ระบบสาธารณสุข จังหวัดเตรียมแผนเผชิญเหตุรองรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ขอความร่วมมือเน้น COVID Free setting กิจการกิจกรรมที่เปิด

วันนี้ (25 ต.ค. 64) ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึง จากกรณีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีการนำเสนอเกณฑ์การเปิดประเทศของ ศบค. ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ลงนามเรียบร้อย มีข้อคำถาม หลายด้านด้วยกัน ซึ่งสิ่งที่พี่น้องประชาชนไม่มั่นใจ กลัวว่าเมื่อประเทศยังมีรายงานผู้ติดเชื้ออยู่ สถานการณ์ยังลดลงไม่มากเท่าที่ควร จะสามารถเปิดประเทศได้หรือไม่

 

"ต้องเน้นย้ำว่าการ "เปิดประเทศ" เรามีลิสต์ของประเทศที่อนุญาตให้เดินทางเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว 45 ประเทศ และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ขึ้นอยู่กับที่ประเทศต้นทางด้วย เราอนุญาตให้เข้าไทยได้ แต่บางประเทศก็ยังไม่อนุญาตให้ประชาชนเดินทางออกนอกประเทศได้ และที่สำคัญ การบินพลเรือนแห่งประเทศไทย จะต้องจำกัดเที่ยวบินการเดินทาง ไม่ได้สามารถเปิดโดยเสรี เหมือนก่อนการแพร่ระบาด"

 

ศบค. ย้ำ “เปิดประเทศ” ปลอดภัย ติดตามสถานการณ์ เข้มมาตรการ

 

อย่างที่เน้นย้ำเสมอว่า ให้ประชาชนมั่นใจว่า ต้องอยู่ภายใต้ความปลอดภัยและระบบสาธารณสุขต้องรองรับได้ การเปิดจะค่อยเป็นค่อยไป เช่นเดียวกัน อันนี้เป็น การเปิดประเทศที่ประชาชน หรือนักท่องเที่ยวเดินทางมาทางอากาศ การบินพลเรือนก็จะมีการเปิดเที่ยวบินแบบค่อยเป็นค่อยไปเช่นกัน สิ่งสำคัญ ที่เพิ่มประเทศให้เป็น 45 ประเทศ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ส่วนหนึ่งคำนึงถึงคนไทยจะกลับบ้าน เพื่อให้คนไทยที่ต้องการกลับบ้านเดินทางเข้าประเทศไทยโดยยกเว้นการกักตัว

 

"และที่สำคัญ เน้นย้ำเสมอว่าก่อนจะกลับต้องฉีดวัคซีนเกิน 2 เข็ม ก่อนเดินทางเกิน 14 วัน มีผลตรวจ PCR ยืนยันไม่มีเชื้อโควิดภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนบิน และมีประกันสุขภาพ แต่สำหรับคนไทยที่มีหลักประกันสุขภาพอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องมีประกัน 50,000 USD”

 

ศบค. ย้ำ “เปิดประเทศ” ปลอดภัย ติดตามสถานการณ์ เข้มมาตรการ

  • ติดตามสถานการณ์ พื้นที่สีฟ้า

 

จากข้อคำถามที่ว่า จังหวัดพื้นที่สีฟ้า นำร่องท่องเที่ยว 15 จังหวัด + 2 รวม เป็น 17 จังหวัด หากการติดเชื้อยังสูงอยู่จะเปิดได้หรือไม่ ชะลอไปหรือไม่ ผู้ช่วย โฆษก ศบค. กล่าวว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขมีการ ประเมินด้วยเกณฑ์หลายด้านด้วยกัน ส่วนหนึ่งคงไม่พิจารณาเฉพาะตัวเลขการติดเชื้อ สิ่งสำคัญ คือ การครอบคลุมการฉีดวัคซีนของประชากรในพื้นที่นั้นๆ และต้องดูอัตราตาย อัตราป่วยหนัก เพื่อประเมินระบบสาธารณสุขของพื้นที่นั้นๆ รองรับได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่

 

ศบค. ย้ำ “เปิดประเทศ” ปลอดภัย ติดตามสถานการณ์ เข้มมาตรการ

 

สิ่งสำคัญ หากมีการติดเชื้อการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อน กระทรวงสาธารณสุขจะมีเกณฑ์ประเมินมาตรการรองรับ ที่มีประสิทธิภาพในพื้นที่ เช่น เพชรบูรณ์ เป็นจังหวัดที่ถูกปรับระดับสีเป็นสีแดง ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้มควบคุมสูงสุดและเข้มงวด แต่เมื่อเกิดกรณีระบาดขึ้น หรือ กรณีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ประกาศปิด ภูทับเบิก ใน 2 อำเภอ ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพ และทำให้เพชรบูรณ์สามารถจำกัดคนติดเชื้อไม่ให้แพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่น เป็นไปตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 24 ข้อ 5 ระบุว่า ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร คณะกรรมการโรคติดต่อ สามารถพิจารณาปรับพื้นที่ย่อย ให้มีมาตรการเข้มกว่าพื้นที่โดยรวมของจังหวัดได้

 

อย่างไรก็ตาม ในจังหวัดพื้นทำร่องท่องเที่ยว (พื้นที่สีฟ้า) หากดูในรายละเอียด หากมีแนวโน้มการแพร่ระบาดเพิ่ม ย้ำว่าจังหวัดมีแผนเผชิญเหตุรองรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง หมายความว่า หากมีความจำเป็นต้องมีการชะลอเปิดเมือง จนถึงหยุดดำเนินการจนกว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ตรงนี้จังหวัด 17 จังหวัดในพื้นที่สีฟ้า ต้องมีการเสนอแผนเผชิญเหตุดังกล่าว

  • เปิดบางพื้นที่

 

แผนในการเปิดแต่ละจังหวัดที่เสนอ ศบค. มาถือว่าสมเหตุสมผล เพราะการเปิด เปิดเป็นบางพื้นที่ ค่อยเป็นค่อยไป ทยอยเปิด เช่น ภูเก็ต เปิดแซนด์บ็อกซ์นำร่อง เปิดทั้งจังหวัดเพราะภูมิศาสตร์เป็นเกาะ แต่ในส่วนของ พื้นที่จังหวัด เช่น สุราษฎร์ธานี เลือกที่จะเปิดเฉพาะสมุย พะงัน เกาะเต่า ส่วนพังงาก็เช่นกัน เปิดเฉพาะเขาหลัก และเกาะยาว

 

ดังนั้น ระยะที่ 1 วันที่ 1 พ.ย. 64 เป็นการเปิดเฉพาะพื้นที่ ถือว่าน่าจะเป็นไปได้ , เพชรบุรี จะเป็น ชะอำ , ชลบุรี อ.บางละมุง พัทยา , ส่วนประจวบคีรีขันธ์ เฉพาะหัวหิน , เชียงใหม่ อ.เมือง อ.แม่ริม อ.แม่แตง และดอยเต่า

 

“การเลือกพื้นนำร่องจากพื้นที่สีฟ้า ไม่ได้เป็นจากกระทรวงสาธารณสุขเลือก แต่เป็นการหารือร่วมกัน ระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนในพื้นที่ ไม่ว่าจะภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ สมาคมต่างๆ หอการค้า มีการประเมินตนเองมาก่อนหน้านี้ ประชาสัมพันธ์ให้คนในพื้นที่เข้าใจหลักการ และสามารถเริ่มต้นร่วมมือกับมาตรการ COVID Free setting คือเปิดสถานบริการ ให้บริการ กิจการ กิจกรรม ปลอดโควิด ต้องพร้อม” พญ.อภิสมัย กล่าว

 

ศบค. ย้ำ “เปิดประเทศ” ปลอดภัย ติดตามสถานการณ์ เข้มมาตรการ

 

  • เร่งฉีดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว

 

สำหรับ ประชาชนในพื้นที่นำร่อง 17 จังหวัด จังหวัดที่อัตราการฉีดวัคซีนยังไม่ค่อยขยับตอนนี้ต้องเร่งระดมรับวัคซีน โดยเฉพาะอำเภอที่เปิดนำร่องท่องเที่ยว ต้องครอบคลุมวัคซีน 80% ของประชากร ขณะที่ทั้งจังหวัด คิดอัตราครอบคลุม 50% ส่วนในพื้นที่ที่เกิน 50% ไปแล้ว เช่น กทม. ขอให้ขยับเป้าหมายขึ้นได้อีก

 

ตอนนี้วัคซีนมีเพียงพอ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จะเร่งส่งวัคซีนให้เพียงพอ และทันกับพื้นที่สีฟ้า 17 จังหวัด จะเริ่มเปิดบ้านเปิดเมือง และในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งไปแล้ว 7 แสนโดส ขอให้พื้นที่เร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชน และลงข้อมูลใน MOHP IC ด้วย เพื่อเป็นหลักฐาน และกระทรวงสาธารณสุขจะได้ประเมินและรีบส่งวัคซีนไปให้ต่อเนื่อง

 

  • COVID Free setting มาตรการขอความร่วมมือ

 

อีกคำถามที่สำคัญ คือ มาตรการ COVID Free setting บางที่ผู้ให้บริการจะมีการปฏิเสธ ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ไม่ได้รับบริการ พี่น้องประชาชนถามเข้ามาว่า กฎเกณฑ์นี้ทำได้หรือไม่ ต้องย้ำว่า ไม่ใช่เป็นการบังคับ ถือเป็นการขอความร่วมมือขั้นสูงสุด หากผู้ประกอบการละเลยมาตรการ ไม่ปฏิบัติตาม บุคลากร ผู้ให้บริการในร้าน ก็ถือว่ามีความเสี่ยง รวมถึงลูกค้าเกิดความเสี่ยง

 

ทั้งนี้ มาตรการ COVID Free setting มี 3 องค์ประกอบ คือ

 

1.จัดสถานที่ เว้นระยะห่าง การระบายอากาศ เป็นต้น

2. สถานประกอบการให้ความร่วมมือดีเยี่ยม ในการฉีดวัคซีนครบ จัดหา ATK เป็นระยะ สม่ำเสมอ

3. ผู้ใช้บริการ หากสามารถทยอยทำครบให้ได้มากขึ้น จะทำให้เกิดความมั่นใจ ทั้งผู้ให้และผู้รับบริการจะปลอดภัย

 

"อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นวิถีใหม่ ต้องให้เวลานิดหนึ่ง ให้ประชาชนใช้เวลาทำความเข้าใจ ปรับตัว บางครั้งหากสถานประกอบการ เข้มงวดเป็นสิ่งที่ดี แต่อาจจะยืดหยุ่นได้ เช่น ร้านอาหารบางร้านมีการจัดโซน หากรับ "วัคซีนโควิด-19" ครบ 2 เข็ม มีผลตรวจ ATK สามารถนั่งในโซนไหนได้ และหากไม่ได้รับวัคซีนสามารถนั่งในโซนไหน อย่างไร ให้บริการอย่างไร ตรงนี้ ต้องเป็นการให้เวลากับพี่น้องประชาชนในการปรับตัว" พญ.อภิสมัย กล่าว