ดีเดย์ "เปิดประเทศ" นักท่องเที่ยว ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ ร้านค้าปฏิเสธได้

วันนี้ (1 พ.ย. 64) ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กล่าวถึง การเปิดประเทศ วันที่ 1 พ.ย. ซึ่งเป็นวันแรกที่ข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับ 37 บังคับใช้วันแรก วันนี้ขอให้คนไทยทั้งประเทศร่วมให้กำลังใจพี่น้องประชาชนพื้นที่สีฟ้า 17 จังหวัด พื้นที่นำร่องท่องเที่ยวเพราะเป็นวันแรกของการ เปิดประเทศ โดย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต และคณะผู้บริหารไปตรวจเยี่ยมจุดคัดกรองที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ถือได้ว่า เป็นการทดสอบระบบ Thailand Pass ครั้งแรก พร้อมต้อนรับผู้โดยสารจากสิงคโปร์ และกลางดึกที่ผ่านมา มีเที่ยวบินจากญี่ปุ่น มีนักท่องเที่ยว 43 คน แต่ส่วนใหญ่เป็นคนไทยกลับบ้าน เป็นต่างชาติ 11 คน

 

“ต้องย้ำว่าแม้วันนี้ เปิดประเทศ ต้อนรับนักท่องเที่ยว แต่นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามา จะทยอยรับเข้ามา ระหว่างนี้จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ การบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ตรวจสอบ ทดสอบระบบ ว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่ มีการจับเวลาในการตรวจสอบหลักฐานใช้เวลากี่วินาที"

 

• 61 ประเทศ + 2 พื้นที่ เข้าไทยได้

 

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวต่อไปว่า สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการประกาศประเทศเพิ่ม ตอนนี้ในส่วนของประเทศที่เข้ามาได้ 61 ประเทศ + 2 พื้นที่ ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้าราชอาณาจักร มาตรการที่เน้นย้ำเสมอ เพื่อความปลอดภัย ต้องได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วันก่อนการเดินทาง ตรวจโควิด RT PCR 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ประกัน 50,000 ดอลลาร์ และจองโรงแรมมาตรฐาน SHA+ อย่างน้อย 1 คืน เพื่อตรวจโควิด ก่อนที่จะอนุญาตให้เดินทาง

 

เมื่อถึงสนามบินประเทศไทย ต้องผ่านขั้นตอนการเข้าประเทศสนามบิน คัดกรองเข้มงวด เดินทางเข้าที่พักที่จองไว้ โดยเน้นย้ำว่าขณะเดินทางเข้าโรงแรมต้องเดินทางด้วยพาหนะที่กำหนด ไม่สามารถโบกแท็กซี่เองโดยอิสระ หรือญาติมารับไม่ได้ เมื่อเข้าโรงแรม จะได้รับการตรวจ RT-PCT ครั้งที่ 1 โดยทันที จากนั้น ดาวน์โหลด “หมอชนะ” ซึ่งมีข้อมูลมาตรการของไทย ขณะที่พักในโรงแรม จะเป็นการรอผลตรวจ RT-PCR ตรงนี้อาจจะใช้เวลา 4-5 ชม. หากเป็นนักท่องเที่ยวผลตรวจเป็นลบ จะต้องดูว่าเข้าประเทศโดยมาตรฐานกลุ่มประเทศ 61 + 2 หรือ แซนด์บ็อกซ์

 

 

• Test and Go ผลลบ เดินทางได้ทุกที่

 

สำหรับ ในกลุ่มระบบ Test and Go ทั้งหมด 61 ประเทศ 2 พื้นที่ หากผลเป็นลบ สามารถเดินทางไปพื้นที่อื่นๆ ได้ทันที แต่หากอยู่ในโครงการแซนด์บ็อกซ์ จะสามารถเดินทางในพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ แต่ละพื้นที่แต่ละจังหวัดกำหนด เช่น บางอำเภอ ต้องอยู่ในพื้นที่แซนด์บ็อกซ์เท่านั้น

 

ทั้งนี้ ก่อนเดินทางออกจากโรงแรม SHA+ คืนแรก จะมีการแจก ATK เพื่อตรวจหากมีอาการผิดปกติ สามารถสังเกตอาการตนเอง หากมีไข้ ระบบทางเดินหายใจ สามารถเลือกได้ว่าจะตรวจ ATK หรือตรวจ กับ รพ. และเน้นย้ำการปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขไทย

 

“ทางผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านกาแฟ ขอให้เป็นหูเป็นตา เราเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยว ถือว่าเป็นเจ้าบ้าน ในการดูแลนักท่องเที่ยวและคนไทยในประเทศ หากนักท่องเที่ยวไม่ปฏิบัติตามมาตรการ สามารถปฏิเสธการให้บริการได้ เช่นกันกับรถบัส แท็กซี่ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ไม่ว่าจะต่างชาติ หรือ คนไทย หากไม่ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยของตัวท่านและพนักงาน สามารถปฏิเสธได้”

 

• ติดเชื้อรายใหม่ 8,165 ราย

 

“สถานการณ์โควิด-19” ผู้ป่วยรายใหม่ 8,165 ราย ตัวเลขยังลดลงต่ำกว่าหมื่นแม้ว่าจะมีการผ่อนคลายเป็นระยะตลอด ต.ค. ต้องขอบคุณพี่น้องประชาชน และสถานประกอบกิจการกิจกรรม ที่ร่วมมือทำให้คงเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อ ที่ระบบสาธารณสุขรองรับได้ ทำให้มีการผ่อนคลายมากขึ้นต่อเนื่อง และวันนี้เปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว

 

นอกจากนี้ ยังพบยอดหายป่วยแล้ว 1,774,276 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,891,326 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 55 ราย เสียชีวิตสะสม 19,166 ราย ผู้ป่วยอาการหนัก 2,221 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 494 ราย ส่วนใหญ่เป็นการรักษาระยะยาว ขณะที่ วันนี้ไม่มีรายงานการเสียชีวิตจาก 4 จังหวัดชายแดนใต้ “ภูเก็ต” พบผู้เสียชีวิต อายุ 60 ปีชึ้นไป ไม่ได้รับวัคซีน แม้พื้นที่ภูเก็ตจะเป็นพื้นที่ที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมมากอันดับต้นๆ ของประเทศ

 

 

• ภาพรวมประเทศ ทิศทางติดเชื้อลดลง

 

ทั้งนี้ ทิศทางติดเชื้อ ทุกกลุ่มมีทิศทางลดลง และชายแดนใต้ 4 จังหวัด วันนี้ภาพรวมประเทศติดเชื้อใหม่สัดส่วน 20% ขณะที่กทม.ปริมณฑล ลดลงเรื่อยๆ อยู่ที่ 16% ต่างจังหวัด 67 จังหวัดอยู่ที่ 64%

 

 

 

ขณะที่ 10 จังหวัดรายงานติดเชื้อสูงสุด พบว่า อันดับ 2 นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี แต่รายงานตัวเลขสีเขียวคือทิศทางแนวโน้มลดลง กทม. อันดับ 1 แต่ลดลงอย่างมาก 625 ราย ด้าน นราธิวาส 351 ราย และ ตรัง 295 ราย ทิศทางแนวโน้มเพิ่มขึ้น

 

 

อย่างไรก็ตาม 10 จังหวัดที่ สธ.จับตา ได้แก่ 4 จังหวัดภาคใต้ สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 6 จังหวัด ขอนแก่น ระยอง เชียงใหม่ ตาก จันทบุรี นครศรีธรรมราช ยังถือเป็นจังหวัดเฝ้าระวังพิเศษ แม้ภาพรวมประเทศ กทม.ปริมณฑล แนวโน้ม ลดลง แต่จังหวัดจับตายังทรงๆ ออกจะขึ้นในบางวัน ขอให้เฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ขอความร่วมมือต่อเนื่อง

 

 

• ห่วงคลัสเตอร์เทศกาล

 

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่ ศบค. เป็นห่วง คือ ต.ค. พ.ย. มีเทศกาล ทอดกฐิน โดย ที่ผ่านมา บุญบั้งไฟหนองคาย มีการติดเชื้อและข้ามพื้นที่ไปยัง อุดรธานี รวมทั้งมีการแข่งขันกีฬาฟุตบอลที่อุดรธานี ตอนนี้หลายจังหวัดมีอนุญาตแข่งขันกีฬาได้ ขอให้ผู้จัดและประชาชนในพื้นที่ดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง

 

ทั้งนี้ นอกจาก คลัสเตอร์งานศพ เริ่มมี คลัสเตอร์งานแต่งงาน เชียงใหม่ คนที่ไปร่วมงาน ขอเน้นย้ำว่าผู้จัดงานคัดกรองแขกที่ไปร่วมงาน , แคมป์คนงาน พบที่ ชลบุรี นครนายก เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ , ขณะที่ แรงงานต่างชาติที่ลักลอบเข้าเมืองที่ กำแพงเพชรยังพบอยู่ และพบรายงานเพิ่มที่ พิจิตร สำหรับ อำนาจเจริญ นครพนม เป็นสองจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ

 

“นักท่องเที่ยวคนไทยที่เดินทางไปร่วมงาน บุญกฐิน จะต้องปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล ดูแลตนเองอย่างเข้มงวด เสมือนคนรอบข้างอาจจะมีความเสี่ยง เพราะฉะนั้น การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ถือเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด รวมถึงเว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ บันทึกการเดินทางท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ เมื่อมีการรายงานการติดเชื้อ ร้าน หรือ จุดท่องเที่ยว จะเป็นข้อมูลสำคัญในการสอบสวนโรค จำกัดวงการแพร่ระบาด” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว