รวมครบทุกสูตรวัคซีนโควิด-19 ต้องฉีดเข็ม 3 กระตุ้นเมื่อไหร่ อย่างไร

รวมครบทุกสูตรวัคซีนโควิด-19 ต้องฉีดเข็ม 3 กระตุ้นเมื่อไหร่ อย่างไร

ชัดๆจากกรมควบคุมโรค เดือนพ.ย.ฉีดวัคซีนโควิด-19สูตรไหนเป็นหลัก พร้อมคำตอบฉีดเข็ม 3กระตุ้นในคนฉีดแต่ละสูตร คำแนะนำถึงคนจองโมเดอร์นา  และประสิทธิผลจากของสูตรไขว้ที่ดีกว่าแอสตร้าฯ 2 เข็ม

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 5 พ.ย.2564 ที่ กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า  ประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 สะสมแล้ว 78,656,124 โดส เป็นเข็มที่ 1 จำนวน  43,403,391 ราย คิดเป็น 60.3 % เข็มที่ 2 จำนวน 32,726,021 ราย คิดเป็น 45.4 % และเข็มที่ 3 จำนวน 2,526,712 ราย คิดเป็น 3.5 %  ใน ภาพรวมการฉีดวัคซีน ใน 17 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยวพื้นที่สีฟ้า 17 จังหวัดมีความครอบคลุม 80 %   ซึ่งการฉีดวัคซีนมีความปลอดภัย หากติดเชื้ออาการไม่รุนแรง และลดการติดเชื้อลงได้

 ปริมาณวัคซีนโควิด-19ในพ.ย.
     นพ.โอภาส กล่าวด้วยว่า  ขณะนี้มีวัคซีนโควิด-19 เข้ามาค่อนข้างมาก เช่น สัปดาห์หน้าจะมีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ส่งมอบอีก 2 ล้านโดส จากที่ส่งมอบแล้ว 35 ล้านโดส ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ปลายปี 2564 นี้ บริษัทฯ ก็ยืนยันว่าจะส่งครบ 61 ล้านโดสแน่นอน ส่วนไฟเซอร์สัปดาห์หน้าก็จะเข้ามาอีก 6 ล้านโดส และประเทศจีนบริจาควัคซีนซิโนแวคให้อีก 1.5 ล้านโดส ดังนั้น สัปดาห์หน้าจะมีวัคซีนเพียงพอ ขอให้ประชาชนติดต่อขอรับวัคซีนไม่ว่าจะเข็ม 1 ,2 หรือ 3


  ประสิทธิผลวัคซีนสูตรไขว้ป้องกันติดเชื้อ 70 %

     นพ.โอกาส กล่าวอีกว่า จากการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อ ศึกษาจากฐานข้อมูลห้องปฏิบัติการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง(สปคม.) เป็นผู้รับบริการในพื้นที่กทม.และMOPH IC ในเดือนก.ย.2564 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กทม.มีการระบาดของสายพันธุ์เดลตาสูง เป็นการศึกษาประสิทธิผลในโลกจริง และขณะนั้นในกทม.มีการฉีดวัคซีน 2 สูตรหลัก คือ แอสตร้าเซนเนก้า 2เข็ม และสูตรไขว้ซิโนแวคเข็ม1ตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้าเข็ม2  

   พบว่า  ประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อของสูตรแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม อยู่ที่ 54 % และสูตรไขว้ซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้าอยู่ที่ 70 %  เพราะฉะนั้น ดูจากภาพรวมประโยชน์ของวัคซีนสูตรไขว้มีประโยน์น่าพอใจและเป็นเหตุผลที่ช่วยให้ลดการระบาดในพื้นที่กทม.ลงได้ เพราะมีการฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมและมีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อ ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกหรือฮู(WHO)ยอมรับประสิทธิภาพได้ที่ 50 % 
   แอสตร้าเซนเนก้าครบ2 เข็มในพ.ค.-มิ.ย.ฉีดเข็ม 3 ช่วงพ.ย.  
             นพ.โอภาส กล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 4พ.ย.2564 คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งมีมติและข้อสั่งการใน  4 ประเด็น ได้แก่ 1.การฉีดวัคซีนโควิด-19เข้าในผิวหนัง แนะนำให้ใช้เฉพาะกรณีที่มีปริมาณวัคซีนจำกัด 2. แนวทางการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ร่วมกับวัคซีนโควิด-19  สามารถฉีดพร้อมกันได้ จากเดิมที่ให้ฉีดห่างกัน 2 สัปดาห์
      3. การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าครบ 2 เข็ม  ให้กระตุ้นเข็ม 3 ด้วยวัคซีนไฟเซอร์ระยะห่างประมาณ 6 เดือนขึ้นไป หลังเข็มที่ 2  หรือกระตุ้นเข็ม 3 ด้วยโมเดอร์นา ระยะห่างประมาณ 6 เดือนขึ้นไปหลังเข็มที่ 2 หรือภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์ และ 4. การให้วัคซีนกรณีแพ้วัคซีนหรือมีความจำเป็นอื่นๆ เช่น การเดินทางไปต่างประเทศ  กรณีแพ้วัคซีนขอให้เปลี่ยนชนิดวัคซีนตามเกณฑ์ในแนวทางการให้วัคซีนโควิด-19 ภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์ ส่วนกรณีเดินทางไปต่างประเทศ ให้พิจารณาตามข้อกำหนดของประเทศปลายทาง 

       คนที่ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าครบ 2 เข็มในช่วงเดือนพ.ค.หรือ มิ.ย.2564 สามารถฉีดเข็ม 3 กระตุ้นเป็นไฟเซอร์ได้ ขึ้นอยู่กับปริมาณวัคซีนที่มี ดังนั้น ผู้ที่ฉีดวัคซีนสูตรนี้ครบ 2 เข็มในช่วงเวลาดังกล่าว ให้ไปขอรับวัคซีนเข็มที่ 3 ด้วยความสมัครใจ ที่รพ.ใกล้บ้าน แต่ขอให้ไปขอคำแนะนำหรือลงทะเบียนก่อน เพราะไม่ต้องการให้ไปออกันที่จุดฉีดและวัคซีนไฟเซอร์การจัดเก็บค่อนข้างลำบากกว่าวัคซีนอื่น จึงขอให้ไปแสดงความจำนงไว้ได้ล่วงหน้า ที่ใดมีความพร้อมก็สามารถฉีดได้เลย

      “บางคนถามว่าฉีดเข็มที่ 3 เร็วขึ้นหรือยืดไปได้หรือไม่ ซึ่งภาพรวมระยะห่างการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นมีปัจจัย คือ  1.ถ้าฉีดเร็วเกินไป ภูมิคุ้มกันอาจจะขึ้นได้ไม่ดี และ2.ถ้าฉีดช้าเกินไปมีโอกาสวที่ภูมิคุ้มกันจะตกและมีโอกาสติดเชื้อได้ เพราะฉะนั้น ความสมดุลของระยะเวลาการฉีดก็มีความสำคัญ ขณะนี้คณะอนุกรรมการฯแนะนำระยะห่างของแอสตร้าฯประมาณ 6 เดือนเป็นระยะที่เหมาะสม ” นพ.โอภาสกล่าว  
       
 คำแนะนำคนจองวัคซีนโมเดอร์นา
           นพ.โอภาส กล่าวว่า  คำแนะนำของคณะอนุกรรมการฯสำหรับผู้ที่จะฉีดวัคซีนโมเดอร์นา  คือ 1.การฉีดวัคซีนโมเดอร์นา 2 เข็ม ระยะห่าง 4 สัปดาห์ เป็นไปตามเอกสารกำกับยาจากบริษัท 2.การฉีดวัคซีนสูตรไขว้ ซิโนแวค+โมเดอร์นา ,แอสตร้าเซนเนก้า+โมเดอร์นา,ซิโนฟาร์ม+โมเดอร์นา และไฟเซอร์+โมเดอร์นา ระยะห่าง 4 สัปดาห์ ให้วัคซีนตามคำแนะนำในเอกสารกำกับยาจากบริษัทผู้ผลติวัคซีน 
        และ3.การฉีดวัคซีนโมเดอร์นาเป็นเข็มกระตุ้น  กรณีฉีดซิโนแวค 2 เข็มหรือซิโนฟาร์ม 2 เข็ม กระตุ้นด้วยวัคซีนโมเดอร์นาตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไปหลังเข็มที่ 2 ให้วัคซีนตามคำแนะนำในเอกสารกำกับยาจากบริษัทผู้ผลติวัคซีน   กรณีฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ระยะห่างประมาณ 6 เดือนหลังเข็มที่ 2  ทั้งนี้เป็นการให้วัคซีนเว้นระยะห่างหลังเข็มที่ 2 เช่นเดียวกับไฟเซอร์  สามารถให้วัคซีนได้ก่อน 6 เดือนหลังเข็มที่ 2  โดยใช้ระยะห่างและขนาดวัคซีนภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์ ดังนั้น  ให้ดำเนินการไปตามความเหมาะสมของจังหวัด
      ซิโนฟาร์ม 2 เข็มครบช่วงพ.ค.-มิ.ย.ฉีดเข็ม 3 เดือนพ.ย.
        นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า กรณีผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม 2 เข็มนั้น  ก่อนหน้านี้คณะอนุกรรมการฯเคยมีมติให้ฉีดเข็ม 3 เป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าได้ เพราะใช้หลักการเดียวกับวัคซีนซิโนแวค แต่อยู่ระหว่างรอการศึกษาเพิ่มเติมจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ล่าสุดราชวิทยาลัยฯได้ส่งข้อมูลมาแล้ว ทางคณะอนุกรรมการฯจึงมีมติเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ให้ฉีดเข็ม 2กระตุ้นด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าได้

          “ขอให้ผู้ที่ฉีดซิโนฟาร์มครบ 2 เข็มไปติดต่อหน่วยฉีดวัคซีนเดิม หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพื่อขอรับคำปรึกษาได้ คาดว่าจะฉีดกระตุ้นได้ในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ รวมถึงคนที่ฉีดซิโนแวคไขว้กับวัคซีนซิโนฟาร์ม ก็สามารถขอรับการฉีดกระตุ้นได้ อย่างไรก็ตาม การฉีดเข็ม 3 นั้นขอให้ดำเนินการฉีดให้กับผู้ที่ฉีดครบ 2 เข็มในเดือนมิ.ย. 2564ก่อน จะเป็นการฉีดให้ฟรีโดยรัฐ ซึ่งขณะนี้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ามีในทุกจังหวัดค่อนข้างมาก ส่วนคนที่ฉีดครบ 2 เข็มในช่วงก.ค.และหลังจากนั้นยังฉีดครบมาไม่นาน ภูมิคุ้มกันยังมีอยู่ จึงต้องให้ผู้ที่ฉีดครบก่อนได้ฉีดเข็ม3กระตุ้นก่อน เพราะภูมิคุ้มกันลดก่อน ซึ่งในคนที่ฉีดครบช่วงก.ค.เป็นต้นมาขอให้รอประกาศอีกครั้ง คาดว่าอาจรายเดือนธ.ค.นี้” นพ.โอภาสกล่าว

     ฉีดสูตรไขว้ซิโนแวค-แอสตร้าเซนเนก้า ยังไม่ฉีดเข็ม3
         ผู้สื่อข่าวถามถึงการฉีดเข็ม3ในผู้ที่ฉีดวัคซีนสูตรไขว้ซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้าหรือSA   นพ.โอภาส กล่าวด้วยว่า  การฉีดวัคซีนสูตรไขว้ SA นั้น ภูมิคุ้มกันขึ้นมาพอๆกับแอสตร้าฯ เบื้องต้นจึงควรใช้เวลาประมาณ 5-6 เดือน ถึงจะฉีดเข็มกระตุ้น  แต่ทางคณะอนุกรรมการฯ ขอรอดูข้อมูลอีกครั้ง เพราะคนที่ฉีดสูตร SA ส่วนใหญ่ยังไม่ถึง 5-6 เดือน จึงมีเวลาตรวจสอบข้อมูล แต่คิดในหลักการเดียวกันกับคนฉีดแอสตร้าฯ 2 เข็ม ใช้เวลา  5-6 เดือน ส่วนจะฉีดกระตุ้นด้วยแอสตร้าฯ หรือไฟเซอร์ ขอรอคณะกรรมการฯพิจารณาอีกครั้ง 

        กรณีคนฉีดสูตรไขว้ SA จองโมเดอร์นาไว้ ต้องการฉีดเข็ม 3กระตุ้นภายในปี นพ.โอภาส กล่าวว่า ภาพรวมของวัคซีนมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ซึ่งการฉีดสูตรไขว้ และสูตรปกติ มีความปลอดภัยเหมือนกัน จึงสามารถฉีดกระตุ้นได้ โดยการฉีดด้วยวัคซีนเชื้อตายก่อน และตามด้วยไวรัลแวกเตอร์ หรือmRNA อย่างไรก็ตาม ส่วนว่าควรกระตุ้นเข็ม 3 ห่างเท่าไหร่ โดยหลักการคือ 5-6 เดือน  แต่ตัวเลขหรือข้อมูลชัดเจนขอให้รอก่อน

        “โดยหลักการฉีดวัคซีน ฉีดห่าง ภูมิคุ้มกันขึ้นดีกว่า ฉีดเร็วบางทีภูมิคุ้มกันขึ้นไม่ดี ส่วนผลข้างเคียงนั้น คล้ายๆกัน ไม่ได้มีมาก  แต่แนะนำว่า ฉีดเร็วไป ภูมิคุ้มกันก็ตกเร็ว จึงควรฉีดในเวลาที่เหมาะสมดีกว่า ยกตัวอย่าง อังกฤษ อิสราเอลที่ระบาดนั้น เพราะเชื่อว่าวัคซีนดีจริง แต่เวลาผ่านไปภูมิฯตกเร็ว ส่วนตัวแนะนำรอสัก 5 เดือน แล้วค่อยฉีดเข็ม 3 ดีกว่า เพราะฉีดเร็วก็จะต้องกระตุ้นเร็วอีก ทั้งนี้ จริงๆ รัฐบาลมีวัคซีนจัดหาให้ แต่หากต้องการทางเลือกก็อยู่ที่ความสมัครใจของแต่ละท่าน แต่หลักการการกระตุ้นก็เป็นไปตามที่ระบุข้างต้น”นพ.โอภาสกล่าว

สูตรไขว้แอสตร้าเซนเนก้า+ไฟเซอร์
      ต่อข้อถามในเดือนพ.ย.จะใช้วัคซีนสูตรหลักเป็นแอสตร้าเซนเนก้าตามด้วยไฟเซอร์หรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า  การฉีดวัคซีนจะดูจากปริมาณวัคซีนที่มี เหตุผลทางการวิจัยของไทย ซึ่งเมื่อเริ่มต้นของการใช้สูตรไขว้ซิโนแวค ตามด้วยแอสตร้าฯ เนื่องจากมีการระบาดสูง แต่การฉีดด้วยแอสตร้าฯ 2 เข็มระยะห่างการฉีดเข็ม 2 ห่างถึง 12 สัปดาห์ ดังนั้น ข้อดีการฉีดสูตรไขว้ซิโนแวค ตามด้วยอสตร้าฯ จะทำให้ฉีดวัคซีนได้เร็วขึ้น และประสิทธิผลการป้องกันโรคพอๆ กับการฉีดแอสตร้าฯ 2 เข็ม

      “ขณะนี้วัคซีนซิโนแวคเหลือน้อย ลำดับต่อไปหากหมดแล้ว ในจังหวัดต่าง ๆ สามารถใช้แอสตร้าฯ เป็นเข็มแรกได้ ต่อด้วยไฟเซอร์เป็นเข็ม 2 ได้ ข้อดีคือ ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสเร็วขึ้น ประสิทธิภาพไม่น้อยกว่า บางอันดีกว่าสูตรเดิมด้วยซ้ำ บางท่านอยากเลือกวัคซีนในการฉีด  ต้องเรียนว่าวัคซีนแต่ละชนิดประสิทธิภาพไม่ต่างกัน ผลข้างเคียงต่างกันบ้าง แต่หากจุดฉีดวัคซีนมีอะไรก็ขอให้รับวัคซีนนั้น จะเป็นสิ่งที่ดีในภาพรวม จากข้อมูลการฉีดกว่า 80 ล้านโดส ยืนยันได้ว่า ความปลอดภัยสูตรไขว้ก็ไม่ต่างกันจากการฉีดสูตรเดิม ” นพ.โอภาส กล่าว