ศบค. ห่วง "คลัสเตอร์" เรือนจำ ระบาดใน 13 จังหวัด

วันนี้ (15 พ.ย. 64) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)  กว่าวถึง "สถานการณ์โควิด-19" ในประเทศไทยติดเชื้อรายใหม่ 6,343 ราย แบ่งเป็น ติดเชื้อภายในประเทศ 6,143 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 12 ราย จากเรือนจำ 188 ราย ติดเชื้อยืนยันสะสม 2,024,753 ราย เสียชีวิต 45 ราย เสียชีวิตสะสม 20,081 ราย หายป่วยเพิ่ม 7,663 ราย หายป่วยสะสม 1,910,509 ราย รักษาตัวอยู่ 94,163 ราย อาการหนัก 1,776 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 417 ราย

 

 

• “ภาคใต้” เสียชีวิต 18 ราย

 

ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 45 ราย ส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มสูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 31 ราย (69%) และโรคเรื้อรัง 12 ราย (27%) รวมทั้งสองกลุ่มเป็นสัดส่วนกว่า 96% “ภาคใต้” เสียชีวิตจากโควิดรวมกว่า 18 ราย

 

• 10 อันดับ จังหวัด ฉีดวัคซีน 608 ต่ำที่สุด

 

ขณะเดียวกัน จังหวัดที่กลุ่ม 608 คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ 10 จังหวัดที่อัตราฉีดต่ำ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน นครนายก สุพรรณบุรี ราชบุรี อ่างทอง ขอนแก่น ลพบุรี กาญจนบุรี ปัตตานี สระบุรี

 

• ภาพรวมประเทศลดลง

 

โฆษก ศบค. กล่าวต่อไปว่า สำหรับ ภาพรวมประเทศ โควิด-19 แนวโน้มลดระดับลงมาอย่างน่าดีใจ โดย 67 จังหวัดในต่างจังหวัดเริ่มทรงๆ สัดส่วน 62% ชายแดนใต้ลดลงเล็กน้อย 19% และ กทม.ปริมณฑลเริ่มคงที่ 19% ต้องช่วยกันเพื่อให้ลดลงเยอะกว่านี้ โดย 10 อันดับ ติดเชื้อสูงสุดรายวัน อันดับ 1 ยังเป็น กทม. ติดเชื้อ 790 ราย ขณะที่ 6 จังหวัด “ภาคใต้” ติด Top 10 ติดเชื้อรายวันสูงสุด ได้แก่ สงขลา นครศรีธรรมราช ปัตตานี สุราษฎร์ธานี ยะลา และนราธิวาส

 

• คลัสเตอร์ เรือนจำยังระบาด 

 

โฆษก ศบค. กล่าวต่อไปว่า ในการประชุม EOC ของกระทรวงสาธารณสุขและศปก.ศบค. เช้านี้ยังประชุมอย่างเข้มข้น มีการสรุปเรื่องคลัสเตอร์ต่างๆ (ณ วันที่ 15 พ.ย. 64) พบว่า “บุคลากรทางการแพทย์” พบที่ กทม. ปริมณฑล 6 ราย และต่างจังหวัด 31 ราย “เรือนจำ” ได้แก่ ศรีสะเกษ 105 ราย นครราชสีมา 26 ราย สระแก้ว 6 ราย เพชรบูรณ์ 5 ราย กทม. 4 ราย กาญจนบุรี 20 ราย สมทุรปราการ 5 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 3 ราย สงขลา 4 ราย ปัตตานี 3 ราย เชียงใหม่ 1 ราย ขอนแก่น 1 ราย และนครสวรรค์ 1 ราย เนื่องจากเรือนจำเป็นพื้นที่จำกัดมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ จึงไม่แปลกที่จะเห็นการระบาด ”

 

นอกจากนี้ ยังมีคลัสเตอร์ “แรงงานประมง” ประจวบคีรีขันธ์ 14 ราย , แคมป์ก่อสร้าง เชียงใหม่ 20 ราย อุดรธานี 6 ราย สระบุรี 8 ราย , ค่ายศูนย์ฝึกทหาร/ตำรวจ ชลบุรี 5 ราย , โรงงาน สถานประกอบการ เชียงใหม่ 27 ราย สระแก้ว 16 ราย อุดรธานี 11 ราย , พิธีกรรมศาสนา งานทอดกฐิน ยโสธร 6 ราย งานศพ เชียงหม่ 8 ราย พะเยา 46 ราย ศรีสะเกษ 19 ราย , สถานศึกษา เชียงใหม่ 6 ราย อุบลราชธานี 6 ราย , ชุมชน กาญจนบุรี 13 ราย และ โรงพยาบาล ลพบุรี 6 ราย

 

“นำเรียนว่าทุกพื้นที่มีความเสี่ยง จึงมีคำว่าการป้องกันตัวครอบจักรวาล เพราะแต่ละที่ ล้วนมีความเสี่ยงต่อการติดโรค ขอให้รักษาสุขอนามัย ใส่หน้ากาก เป็นสิ่งที่ต้องเน้นย้ำสุขอนามัยส่วนบุคคล”

 

• ทั่วโลกติดเชื้อสะสม 254 ล้านราย

 

สำหรับ “สถานการณ์โควิด-19” ทั่วโลก วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.00 น.

ยอดผู้ติดเชื้อรวม 254,026,295 ราย อาการรุนแรง 77,491 ราย รักษาหายแล้ว 229,679,935 ราย เสียชีวิต 5,115,131 ราย

 

• อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด

 

1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 47,916,190 ราย

2. อินเดีย จำนวน 34,437,307 ราย

3. บราซิล จำนวน 21,957,967 ราย

4. สหราชอาณาจักร จำนวน 9,561,099 ราย

5. รัสเซีย จำนวน 9,070,674 ราย

ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 24 จำนวน 2,024,753 ราย

 

 

• 15 ประเทศ ติดเชื้อรายวันสูงสุด 

 

โฆษก ศบค. กล่าวต่อไปว่า องค์การอนามัยโลก แสดงความเป็นห่วงประเทศทางฝั่งยุโรป เนื่องจากติดเชื้อกันเยอะ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เป็นกลุ่มฉีดวัคซีนสูง โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมชมกีฬาไม่ใส่หน้ากากอนามัย มาตรการผ่อนคลาย โดยตัวเลข 15 อันดับ ข้อมูลผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วโลก ที่พบในรอบ 24 ชั่วโมง (14 พ.ย. 64) พบว่า

 

อันดับ 1 รัสเซีย 38,823 ราย

อันดับ 2 สหราชอาณาจัก 36,517 ราย

อันดับ 3 เยอรมนี 29,048 ราย

อันดับ 4 สหรัฐอเมริกา 24,193 ราย

อันดับ 5 ตุรกี 21,624 ราย

อันดับ 6 ยูเครน 14,490 ราย

อันดับ 7 โปแลนด์ 14,448 ราย

อันดับ 8 ฝรั่งเศส 12,496 ราย

อันดับ 9 เนเธอร์แลนด์ 12,024 ราย

อันดับ 10 ออสเตรเลีย 11,552 ราย

อันดับ 11 สาธารณรัฐเช็ก 9,199 ราย

อันดับ 12 เวียดนาม 8,176 ราย

อันดับ 13 อิตาลี 7,569 ราย

อันดับ 14 ไทย 7,079 ราย

อันดับ 15 อิหร่าน 6,143 ราย

 

“ข้อสังเกต คือ ถึงแม้บางประเทศจะฉีดวัคซีนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น สหราชอาณาจักร เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส ขณะที่ ออสเตรเลีย ได้ออกมาบอกว่า ใครที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจะมีการจำกัดกิจกรรมทางสังคม เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศแตกต่างกันไป ส่วนประเทศไทย ขอให้ช่วยกัน เพราะตัวเลขตอนนี้ยังหลักหลายพัน ต้องการให้ตัวเลขลดลงไปมากกว่านี้ ” โฆษก ศบค. กล่าว