ส่องมาตรการ จูงใจฉีด "วัคซีนโควิด-19" ในต่างประเทศ

จากนี้ไปภาครัฐจะเร่งดำเนินการสื่อสาร ทำความเข้าใจ ข้อมูลด้านวัคซีนให้ประชาชนทราบ  เพื่อจูงใจให้ประชาชนมาฉีดวัคซีนให้มากขึ้น โดยส่วนภาคเอกชนจะจัดส่วนลดค่าโดยสารรถสาธารณะ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และ ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) จะสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ให้บริหารจัดการกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ให้มาฉีดวัคซีน จูงใจให้ประชาชนมาฉีดวัคซีน และออกประกาศการไปที่สาธารณะจะต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน  เพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย 100 ล้านโดสภายในเดือนพ.ย.นี้ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ตั้งเป้าไว้

 

โดยตัวเลขการได้รับ “วัคซีนโควิด-19” สะสม (28 ก.พ. - 15 พ.ย. 2564) รวม 85,412,126 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น เข็มที่ 1 สะสม : 45,488,767 ราย  เข็มที่ 2 สะสม : 37,114,546 ราย เข็มที่ 3 สะสม : 2,808,813 ราย 

 

เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายการฉีดวัคซีน 100 ล้านโดส ในเดือน พ.ย. กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดกิจกรรมสัปดาห์แห่งการฉีดวัคซีนวันที่ 27 พ.ย.-5 ธ.ค. 64 จัดทีมเชิงรุก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และขยายไปยังแรงงานต่างด้าว เร่งฉีดวัคซีนภายใน 16 วัน เป็นจำนวน 13.98 ล้านโดส

 

• ส่วนลด-คนละครึ่งจูงใจฉีดวัคซีน

 

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวว่า มาตรการเร่งรัดการฉีดวัคซีน โดย ศบค. เสนอออกประกาศ หากไปในสถานที่สาธารณะ ต้องแสดงผลการฉีดวัคซีน และให้ผู้ว่าราชการจังหวัด บริหารจัดการกลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเชิงรุกให้มาฉีดวัคซีน จูงใจให้ประชาชนฉีดวัคซีน ระดับพื้นที่ : สิ่งของ รางวัล ฯลฯ ขณะที่ ระดับประเทศ : ของรางวัล คนละครึ่ง ส่วนลดพิเศษ ฯลฯ

ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นช่วงที่หลายประเทศเร่งฉีดวัคซีนสำหรับสหรัฐฯ ในภาคธุรกิจต่างๆ ได้เข้ามาร่วมจูงใจให้คนไปฉีดวัคซีน ไม่ว่าจะเป็น Krispy Kreme Doughnuts ให้โดนัทฟรีสำหรับคนที่ฉีดวัคซีนแล้วและแสดงหลักฐานการฉีด , Junior’s Cheesecake แจกมินิชีสเค้กสำหรับใครก็ตามที่ถือฉีดวัคซีนแล้ว , Nathan’s Hot Dogs ที่แจกฮอตด็อกฟรีเมื่อมีบัตรมายืนยันว่าฉีดวัคซีน และ Market Garden Brewery แจกเบียร์ฟรี เป็นต้น

 

สำหรับรัฐ แคลิฟอร์เนีย สร้างแรงจูงในก่อนการเปิดเศรษฐกิจเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยให้ลุ้นรางวัลในรูปแบบเดียวกับลอตเตอรี่จำนวน 10 รางวัล ซึ่งมีมูลค่ารางวัลละ 1.5 ล้านดอลลาร์หรือราว 46 ล้านบาท และรางวัลละ 50,000 ดอลลาร์หรือราว 1.5 ล้านบาทอีก 30 รางวัล พร้อมมอบบัตรกำนัลแลกเป็นเงินสดหรือสินค้าอุปโภคบริโภคคนที่ฉีด2 ล้านคนแรก มูลค่ารายละ 50 ดอลลาร์ หรือราว 1,500 บาท

 

ขณะที่ "ประเทศไทย" เองช่วงกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งเริ่มมีการฉีดวัคซีน พบว่า ภาคเอกชนหลายแห่ง มีการสนับสนุนให้ประชาชนออกไปฉีดวัคซีนโดยจัดแคมเปญสร้างแรงจูงใจ อาทิ “แมคโดนัลด์” แสดงบัตรรับรองการฉีดวัคซีน รับฟรี เฟรนช์ฟรายส์ , ZEN รับฟรีทาโกะยากิ เมื่อซื้อสินค้าอย่างน้อย 1 เมนูและแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน , ร้านปิ้งย่าง “AKA” แจกฟรี ซุปกิมจิ , “On the Table” ให้ฟรี สลัดไส้กรอกอาราบิกิ และ“ร้านเขียง”ให้ฟรี ข้าวกะเพราไก่ เป็นต้น

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ศบค. อยากให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาฉีดวัคซีนมากขึ้น อาจจะมีมาตรการจูงใจต่างๆ เพื่อให้ประชาชนเข้ามาฉีดวัคซีน และสุดท้ายถ้าจำเป็นจริงๆ การไปทำกิจกรรมต่างๆ ในที่สาธารณะอาจจะต้องมีการแสดงผลการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส เพื่อจะให้เกิดความปลอดภัย เพราะถือเป็นความรับผิดชอบของประชาชนคนนั้นต่อชุมชนเช่นเดียวกัน ดังนั้น อยากจะเชิญชวนให้มาฉีดวัคซีนเพราะไม่อยากจะออกมาตรการอะไรที่เป็นการบังคับมากเกินไป เพราะถือว่าทุกคนมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของประเทศในภาวะเช่นนี้

 

• มาตรการฉีดวัคซีนในต่างประเทศ

 

“ออสเตรีย” “อเล็กซานเดอร์ แชลเลินแบร์ค” นายกรัฐมนตรีออสเตรีย เริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์สำหรับคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยให้เริ่มมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. ต่อเนื่องอย่างน้อย 10 วัน ผู้มีอายุตั้งแต่ 12 ปี ในออสเตรีย ซึ่งยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือ ฉีดแล้วแต่ยังไม่ครบ จะออกจากบ้านไปในสถานที่สาธารณะได้ในบางกรณีเท่านั้น เช่น ทำงาน จ่ายตลาด โดยเจ้าหน้าที่จะสุ่มตรวจหลักฐานการฉีดวัคซีน หากพบการฝ่าฝืนถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย และอาจต้องชำระค่าปรับมากถึง 1,450 ยูโร

 

สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาล สิงคโปร์ ได้ประกาศว่า คนที่เลือกจะไม่ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วติดเชื้อโควิด-19 จะต้องออกค่ารักษาเอง โดยจะเริ่มเรียกเก็บเงินผู้ป่วยโควิด-19 ที่เลือกไม่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. แต่ผู้ที่มีไม่สามารถฉีดได้จริงๆ ทางรัฐบาลยังคงออกค่ารักษาพยาบาลให้ตามปกติ ส่วนคนที่ฉีดเข็ม 1 จะขยายเวลาให้ฉีดเข็ม 2 จนถึง 31 ธ.ค.

 

"นิวยอร์ก" ใช้แผน “Key to NYC Pass” บังคับประชาชนแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19 ก่อนเข้าสถานที่สาธารณะ นับเป็นเมืองแรกของสหรัฐอเมริกาที่ใช้มาตรการดังกล่าวเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 64 “บิล เดอ บลาซิโอ” นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก เผยว่า ประชาชนในพื้นที่จะต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19 ก่อนเข้าใช้บริการในร้านอาหาร ฟิตเนส สถานบันเทิง รวมถึงพนักงานที่ทำงานในสถานที่นั้นๆ โดย มาตรการดังกล่าว ถือเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นให้ชาวอเมริกันไปฉีดวัคซีนมากขึ้น

 

ปลายเดือน ก.ค. ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำหนดให้ข้าราชการและลูกจ้างรัฐบาลกลางหลายล้านคนแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนแล้ว หรือที่เรียกว่าพาสปอร์ตวัคซีน โดยพนักงานของรัฐที่ไม่มีหลักฐานว่าฉีดวัคซีนแล้วจะต้องตรวจหาเชื้อโควิดสัปดาห์ละ 1 หรือ 2 ครั้ง และถูกจำกัดการเดินทางในราชการ ทั้งยังสั่งการให้กระทรวงกลาโหมหาวิธีการและกำหนดเวลาให้บุคลากรในกองทัพฉีดวัคซีน